‘The Shawshank Redemption’ ภาพยนตร์ระดับตำนานที่ยังเป็นที่กล่าวขานกันอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึง 28 ปีนับตั้งแต่ปี 1994 ที่เข้าฉายครั้งแรก และได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 7 สาขาแต่น่าเสียดายที่ชวดรางวัลไปทั้งหมด เพราะปีนั้น ‘Forrest Gump’ ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกวาดรางวัลมากมายกลับบ้านไปแทน แต่เบื้องหลังของหนังดังเรื่องนี้นั้น มันได้สร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่อมากลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ และยังคงเป็นสถานที่ยอดนิยมที่แฟน ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างอยากเข้าไปเยี่ยมชมเมื่อมีโอกาสมาเยือนเมืองแมนส์ฟิลด์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา และเราจะพาไปรู้จักกับ ‘The Ohio State Reformatory’ ฉากคุกสุดอลังการของหนังเรื่องนี้กัน

จากสถานที่รกร้างทรุดโทรมกลายเป็นแลนมาร์กชั้นยอด

‘The Ohio State Reformatory’ เป็นเรือนจำเก่าแก่อายุกว่า 120 ปี ที่สร้างขึ้นและใช้คุมขังนักโทษมายาวนาน ตั้งอยู่ที่เมืองแมนส์ฟิลด์ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา จนถึงปี 1990 จึงปิดตัวลงถาวร ตัวอาคารสภาพทรุดโทรม ปราศจากการบูรณะดูแลรักษา จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ทิ้งร้างมานาน จนวันหนึ่ง แฟรงค์ ดาราบอนต์ (Frank Darabont) ผู้กำกับ และ นิกิ มาร์วิน (Niki Marvin) ผู้อำนวยการสร้างของ ‘The Shawshank Redemption’ ที่กำลังตระเวนเสาะหาโลเกชันเพื่อที่จะใช้เป็นฉากถ่ายทำหลัก มาเจอสถานที่นี้เข้า เกิดถูกใจและตกลงใช้อดีตทัณฑสถานแมนส์ฟิลด์แห่งนี้เป็น ‘เรือนจำชอว์แชงค์’ และใช้เวลาถึง 5 เดือนในการปรับปรุงสถานที่เพื่อใช้ในการถ่ายทำหนังทั้งเรื่อง

และในเดือนพฤษจิกายน ปี 2014 ก็ได้มีการจัดกิจกรรมครบรอบ 20 ปีของหนังเรื่องนี้ เพื่อรวบรวมเงินทุนมาต่อเติมสร้างเสริมสถานที่นี้ให้สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก และเป็นการครบรอบ 20 ปีที่ทางเทศบาลเมืองได้ขอซื้อสถานที่นี้มาจากเอกชนเจ้าของเก่าในปี 1994 เช่นกัน เมื่อทางการเล็งเห็นถึงผลประโยชน์มากมายในอนาคตของอดีตสถานที่ถ่ายทำหนังแห่งนี้ จึงได้ขอซื้อมาบูรณะใหม่อีกครั้งหนึ่งด้วยเงินเพียง 1 เหรียญ และ ณ วันนี้ ‘The Ohio State Reformatory’ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตของเมือง ที่มีผู้คนมาเยือนถึงกว่า 120,000 คนต่อปีเลยทีเดียว นับว่าการมองการณ์ไกลครั้งนี้คุ้มค่ามากมายจริง ๆ  ลองชมภาพสวย ๆ ของอดีตเรือนจำแห่งนี้กัน ว่าทำไมนักท่องเที่ยวมากมาย ต่างอยากไปสัมผัสบรรยากาศนี้สักครั้งหนึ่ง

หากใครอยากจะไปเยี่ยมเยือนต้องลองตามข่าวกันดี ๆ เพราะที่นี่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมตลอดเวลาเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ แต่จะเปิดเป็นรอบตามห้วงเวลาที่กำหนดในแต่ละปีเท่านั้น อย่างในปีที่ผ่านมาเปิดให้เข้าชมเวลา 11:00-16:00 เพียง 4 วัน/สัปดาห์ และเปิดให้เข้าชมในวันที่ 1 เมษายน-2 กันยายน ในส่วนของการทัวร์เป็นหมู่คณะนั้นจะอยู่ในช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม และวันที่ 23 พฤษจิกายน-23 ธันวาคมนี้เท่านั้น เรียกได้ว่าถ้าไปแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า โอกาสอดเยี่ยมชมมีโอกาสสูงมาก ๆ ควรทำการบ้านให้ดีก่อนไปครับ

อ้างอิง : 1 2 3

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส