เรื่องนี้น่าจะเป็นข่าวใหญ่ข่าวดีของแฟนหนังฮอลลีวู้ดยุค The Godfather ที่จะได้เห็นดาราคนโปรดทั้ง โรเบิร์ต เดอนีโร และ อัลปาชิโน มาร่วมจอกันอีกครั้ง ในหนังฟอร์มที่คุ้นเคยคือเรื่องของเหล่าแก๊งสเตอร์ และที่สำคัญหนังแนวนี้ต้องเป็นผลงานของผู้กำกับระดับมาร์ติน สกอร์เซซี เท่านั้น และนี่จะเป็นการร่วมงานกันครั้งที่ 9 แล้ว ของผู้กำกับสกอร์เซซี และ เดอนีโร เพียงแต่รอบนี้ไม่ใช่หนังฉายโรงซะแล้ว แต่เป็นหนังซีรีส์ที่สร้างเพื่อออกฉายช่อง NETFLIX มาแรงจริง ๆ เจ้านี้แล้วซีรีส์แต่ละเรื่องน่าสนใจทั้งนั้น งานนี้ Netflix ประมูลสิทธิ์ในการสร้างชนะสตูดิโออื่นมาด้วยราคาสูงลิบลิ่วถึง 105 ล้านเหรียญ แต่กว่าจะได้ดูกันก็รออีกสัก 2 ปีนะ เพราะโปรเจ็คต์ใหญ่ขนาดนี้ต้องเตรียมงานกันนาน เพราะกำหนดเปิดกล้องคือ สิงหาคม 2019 นู่นเลย ส่วนกำหนดการแพร่ภาพนั้นยังไม่แน่นอน

โรเบิร์ต เดอนีโร และ มาร์ติน สกอร์เซซี ร่วมงานกันเป็นเรื่องที่ 9 แล้ว

The Irishman นั้นดัดแปลงมาจากนิยายชื่อ “I Heard You Paint House”ของ ชาร์ล แบรนดต์ ที่ออกจำหน่ายในปี 2003 และคนที่มารับหน้าที่ดัดแปลงนิยายมาเป็นบทภาพยนตร์ก็ระดับต้น ๆ ของฮอลลีวู้ด สตีเวน เซลเลียน 1 ออสการ์จาก The Schindler’s List , The Irishman เล่าเรื่องของมือปืนชาวไอริชชื่อ “แฟรงค์ เดอะไอริชแมน ชีราน” ซึ่งเป็นบทของ โรเบิร์ต เดอนีโร , แฟรงค์ รับงานมือปืนเป็นงานเบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้แม้แต่ลูกเมียของเขา และเชื่อกันว่าเขาอยู่เบื้องหลังการหายสาบสูญของจิมมี่ ฮอฟฟา ที่ได้ อัล ปาชิโน มารับบท นอกจากนั้นยังมีดาราในแวดวงหนังแก๊งสเตอร์มาร่วมงานกันให้ครบทีมทั้ง โจ เพสซี ที่วางมือจากงานแสดงไปนานแล้ว ก็กลับมารับงานแสดงเรื่องนี้โดยเฉพาะเพื่อได้ร่วมงานกับเพื่อนเก่า ๆ โจ จะรับบทเป็น รัสเซล บัฟฟาลิโนอาชญากรตัวเป้งชาวชิลี ผู้คุมอำนาจในแถบชายฝั่งตะวันออกทั้งหมดในยุคนั้น และขาดไม่ได้คือ ฮาร์วีย์ ไคเทล รุ่นเก๋าชื่อดังอีกคน มาในบท แอนเจโล บรูโน มาเฟียซิชิเลียนตัวบอสส์อีกคนหนึ่งในวงการ

หน้าปกนิยายต้นฉบับ

คาดกันว่างบในการสร้างน่าจะสูงลิ่ว เพราะดาราแต่ละคนที่มาเล่นก็รุ่นคุณปู่กันแล้วทั้งนั้น โรเบิร์ต เดอนีโร 74 ปี , อัล ปาชิโน 77 ปี , โจ เพสซี 74 ปี และ ฮาร์วีย์ ไคเทล 78 ปี เพราะจำต้องใช้เทคโนโลยีในการลดอายุตัวแสดง ย้อนวัยพวกนี้กลับไปเป็นหนุ่มอายุ 30 ปีกันหมด เทคโนโลยีนี้เราเคยเห็นกันมาแล้วครั้งแรกใน The Curious Case of Benjamin Button ซึ่ง อินดัสเตรียล ไลท์ แอนด์ เมจิก บริษัทซีจีชื่อดังก็พัฒนาเทคโนโลยีนีต่อเนื่องมาจนล่าสุดเราได้เห็น แกรนด์ มอฟฟ์ ทาร์กิน และเจ้าหญิง ลีอา ย้อนวัยกันมาแล้วใน Rogue One: A Star Wars Story นับเป็นข่าวดีที่ได้เห็นดารายอดฝีมือกลับมาร่วมจอกันให้หายคิดถึง อดใจรอกันต่อไปครับ จากนี้ก็หวังว่ากว่าจะถึงวันเปิดกล้องขอให้แข็งแรงกันดีทุกคนนะครับ