ผ่านมาได้เกือบ 1 เดือนแล้วกับงานประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปเซ็มบัตสึโลก AKB48 ครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นที่นาโงยาโดม จังหวัดไอจิเพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นเซ็มบัตสึ 16 คนในเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 53 แน่นอนว่าสำหรับแฟน ๆ BNK48 แล้ว งานนี้คงจะไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการคว้าอันดับที่ 39 ของเฌอปรางและอันดับที่ 72 ของมิวสิค

แต่ถึงแม้จะผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว การขิงรูปของบรรดาเหล่าเม็มเบอร์ BNK48 ที่ไปสู้ศึกเลือกตั้งมาก็ยังคงไม่จบสิ้น มาอย่างเยอะและมาเรื่อย ๆ จนต้องนี้แฟน ๆ เริ่มไม่แน่ใจว่า ที่แฟน ๆ รวมพลังส่งไอดอลที่รักให้ถึงฝันนั้น ฝันที่ว่าคือการเป็นไอดอลที่เป็นที่รักของทุกคนหรือการเป็นติ่งไอดอลที่น่าอิจฉากันแน่!?

อนึ่ง คำว่า ขิง เป็นคำกริยา แปลว่าอวด สันนิษฐานว่ามาจากรสชาติที่เผ็ดร้อนของขิง

ในส่วนของ AKB48 นั้นก็ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ รอนาน ได้เปิดตัวเพลงหลักในเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 53 นี้แล้ว นั่นก็คือ Sentimental Train โดยได้ทำการแสดงครั้งแรกในรายการ The Music Day ทางสถานีโทรทัศน์ Nippon TV เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา น่าเสียดายที่ปัญหาสุขภาพของมัตสึอิ จูรินะ ผู้ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้และเซ็นเตอร์ของเพลงนี้ ทำให้เธอไม่สามารถมาร่วมแสดงได้ ได้แต่ส่งถ้วยรางวัลของเธอมาแทน

ก่อนที่จะไปพบกับ MV เพลงนี้ (ซึ่งคงจะปล่อยออกมาในไม่ช้านี้แล้ว) เราอยากจะชวนทุกท่านไปย้อนภาพความประทับใจในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานี้กันดีกว่า ว่ามีอะไรน่าจดจำบ้าง

พลังของเจ้าบ้าน

งานประกาศผลการเลือกตั้งครั้งนี้จัดขึ้นในจังหวัดไอจิ งานนี้ SKE48 เจ้าบ้านจึงได้เปรียบเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังโหวตหรือพลังของแฟน ๆ ที่เข้ามาเชียร์ และที่สำคัญแฟน ๆ ของ SKE48 ขึ้นชื่อเรื่องความสมานสามัคคีสุด ๆ มีรายงานว่าแฟน ๆ ของ SKE48 ไม่ได้มุ่งแต่จะโหวตเพื่อให้เม็มเบอร์คนโปรดของตัวเองติดอันดับเท่านั้น แต่ยังรวมพลังกันโหวตอย่างเป็นระบบโดยมีเป้าหมายเพื่อให้เม็มเบอร์ SKE48 ติดอันดับมากที่สุดอีกด้วย

SKE48 ติดเซ็มบัตสึ 5 คน ซูดะ อาการิได้คะแนนเพิ่มการจากเลือกตั้งปีที่แล้วถึง 90,887 คะแนน โอบะ มินะได้เป็นเซ็มบัตสึเป็นครั้งแรกในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งที่ 9 ของเธอ

งานนี้ชาวไอจิทุ่มพลังกันสุด ๆ ขนาดคาวามูระ ทากาชิ นายกเทศมนตรีเมืองนาโงยา ก็ยังมาชมการประกาศผลการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย (ถ้า BNK48 มีเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.จะมาเชียร์หรือเปล่านะ)

และอีกสิ่งที่แสดงถึงพลังของแฟน ๆ SKE48 ก็คือสีแท่งไฟ เนื่องจากเม็มเบอร์ SKE48 ทุกคนจะมีสีแท่งไฟประจำตัว เมื่อเม็มเบอร์ได้รับการประกาศให้เป็นเซ็มบัตสึ แฟน ๆ ในนาโงยาโดมจึงแสดงความยินดีด้วยการเปลี่ยนสีแท่งไฟตามสีประจำตัวของเม็มเบอร์นั่นเอง

แท่งไฟสีเขียวอ่อนและสีฟ้าของฟูรูฮาตะ นาโอะ (อันดับที่ 15)

แท่งไฟสีฟ้าและสีแดงของโซดะ ซารินะ (อันดับที่ 11)

แท่งไฟสีฟ้าของโอบะ มินะ (อันดับที่ 8)

แท่งไฟสีแดงของซูดะ อาการิ (อันดับที่ 2)

แท่งไฟสีส้มและสีเขียวของมัตสึอิ จูรินะ (อันดับที่ 1)

จะจับภาพใครดี?

นอกจากแฟน ๆ หลายหมื่นคนที่ได้นั่งชมงานประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ในนาโงยาโดมแล้ว แฟน ๆ ทั่วโลกก็ยังได้รับชมการถ่ายทอดสดด้วย ซึ่งแฟน ๆ ในประเทศญี่ปุ่นสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง SKY PerfecTV! และ Fuji TV ส่วนแฟน ๆ ในประเทศไทยก็สามารถรับชมได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของ Workpoint

Play video

แน่นอนว่าการถ่ายทอดสดไม่ได้ใช้กล้องเพียงตัวเดียวและไม่ได้ถ่ายภาพเพียงมุมเดียว แต่มีการใช้กล้องหลายตัวถ่ายภาพจากมุมต่าง ๆ ผสานกับการกำกับภาพเพื่อให้ผู้ชมได้เห็นบรรยากาศในงานและอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนเพื่อให้ได้เรื่องราวและอรรถรสมากที่สุดด้วย

ภาพจากช่วงสุนทรพจน์ของยาบูกิ นาโกะ รอยยิ้มทั้งน้ำตาของยาบูกิ นาโกะประกอบกับรอยยิ้มและประกายตาภาคภูมิใจของซาชิฮาระ ริโนะบอกเล่าเรื่องราวและความรู้สึกของคนสองคนที่รักกันมาก ๆ นี้ได้ดีกว่าคำพูดนับล้านคำ

โดยปกติแล้วในช่วงประกาศเซ็มบัตสึ ทีมช่างภาพและผู้กำกับภาพจะเลือกถ่ายทอดภาพของเม็มเบอร์ตัวเก็งที่น่าจะติดอันดับนั้น ๆ และมีการใช้ตัววิ่งด้านล่างจอประกอบภาพ แต่ในช่วงเวลาประกาศเซ็มบัตสึของการเลือกตั้งปีนี้ กลับปรากฏว่ามีภาพมุมกว้างมากกว่าปกติและไม่มีปรากฏภาพของเม็มเบอร์ตัวเก็งไปจนกระทั่งช่วงเวลาประกาศผลอันดับที่ 7 ซึ่งผู้เขียนอนุมานว่านี่ไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นเพราะบริบทแวดล้อมงานเลือกตั้งครั้งนี้เอง

ภาพจากงานประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 8 เมื่อปี 2559 มีภาพของเม็มเบอร์ตัวเก็งตั้งแต่อันดับที่ 16

กล่าวคือ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยรวมแล้วเม็มเบอร์แต่ละคนได้คะแนนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา โดยในงานประกาศผลการเลือกตั้งครั้งนี้ โอยะ ชิซูกะคือเม็มเบอร์คนแรกที่ได้รับการประกาศชื่อ โดยเธอมาในอันดับที่ 100 พร้อมกับคะแนนเสียง 14,488 คะแนน (อันดับที่ 100 ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2560 ได้คะแนนเสียงเพียง 10,163 คะแนน) เมื่ออ้างอิงจากผลด่วนที่ประกาศไปก่อนหน้าเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ซึ่งมีเม็มเบอร์เพียง 7 คนเท่านั้นที่ได้คะแนนผลด่วนมากกว่า 14,488 คะแนน ณ วินาทีนั้นจึงมีเม็มเบอร์เพียง 7 คนเท่านั้นที่มั่นใจได้ว่าจะติดอันดับในการเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอน (ไม่รวมโอยะ ชิซูกะเอง) และเมื่อทาโนะ อายากะ ผู้ได้คะแนนผลด่วนเป็นอันดับที่ 7 มาได้อันดับที่ 53 ในการประกาศผลสุดท้าย เมื่อเข้าสู่ช่วงการประกาศเซ็มบัตสึ จึงมีเม็มเบอร์เพียง 6 คนเท่านั้นที่มั่นใจได้ว่าติดอันดับแน่นอน ซึ่งก็แปลว่าเหลืออีก 10 ตำแหน่งที่ยังไม่รู้ชัดว่าเป็นใคร

งานนี้ทีมช่างภาพและผู้กำกับภาพทำงานลำบากทีเดียว ดังที่จะเห็นได้ว่ามีการถ่ายภาพใกล้ของมิยาซากิ มิโฮะทั้งที่สุดท้ายแล้วเธอไม่ติดอันดับในการเลือกตั้งครั้งนี้ หรือโซดะ ซารินะที่เกือบจะถูกลืมเพราะเธอไม่ติดอันดับผลด่วนด้วย

“ฉันอยากเป็นโซกันโตกุของ AKB48 กรุ๊ปค่ะ!”

เป็นเรื่องปกติที่เม็มเบอร์ที่ติดอันดับ โดยเฉพาะเซ็มบัตสึ จะต้องออกมาประกาศเรื่องน่าจดจำ เป้าหมายหรือความมุ่งมั่นของตัวเอง ซึ่งเม็มเบอร์หนึ่งคนที่ประกาศได้น่าประทับใจที่สุดก็คือมุไกจิ มิอง ซึ่งปีนี้เธอประกาศว่าเธออยากจะเป็นโซกันโตกุของ AKB48 กรุ๊ป (総監督 = ตำแหน่งของเม็มเบอร์ที่เป็นหัวหน้าของไอดอลกรุ๊ปตระกูล 48 ทั้งหมด) ซึ่งแฟน ๆ ก็เห็นว่านั่นไม่ใช่เรื่องทะเยอทะยานเกินตัวเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอมีผลงานเชิงประจักษ์มากมาย

เธอเคยเป็นเซ็นเตอร์ในเพลง Tsubasa wa Iranai เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 44

Play video

เธอคือเม็มเบอร์คนแรกใน AKB48 รุ่นที่ 15 ที่ได้เป็นเซ็มบัตสึจากการเลือกตั้ง

Play video

โอชิมะ ยูโกะ เม็มเบอร์ระดับตำนานของ AKB48 ผู้เป็นเซ็นเตอร์ของเพลง Heavy Rotation อันเป็นตำนาน เจาะจงเลือกเธอเป็นเซ็นเตอร์ของเพลง Heavy Rotation ในงาน AKB48 Request Hour เมื่อปี 2557

ภาพจากรายการ AKB48 SHOW! วันที่ 10 พฤษภาคม 2557

เธอได้อันดับที่ 1 ในการสอบวัดความรู้เกี่ยวกับ AKB48 เธอจึงคว้าตำแหน่งเซ็นเตอร์ของเพลง Kimi wa Boku no Kaze เพลงรองใน Teacher Teacher เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 52 ของ AKB48 มาได้

Play video

และเธอยังเคยเป็นนักแสดงเด็กที่มีชื่อเสียงและผลงานมากมายอีกด้วย

ภาพจากรายการ Music Station วันที่ 27 พฤษภาคม 2559

“ขอบคุณที่มาเป็นคู่แข่งกันนะ”

แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนจับตามองมากที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปของ AKB48 ก็คือใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งสื่อแทบทุกสำนักก็เห็นตรงกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างมัตสึอิ จูรินะ มือหนึ่งแห่ง SKE48 กับมิยาวากิ ซากูระ มือหนึ่งแห่ง HKT48

มัตสึอิ จูรินะเดบิวในฐานะเม็มเบอร์รุ่นที่ 1 ของ SKE48 เมื่อปี 2551 สร้างแรงสั่นสะเทือนด้วยการได้เป็นเซ็นเตอร์ในเพลง Oogoe Diamond เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 10 ของ AKB48 ทั้งที่เพิ่งเดบิวได้เพียง 3 เดือน ติดอันดับเซ็มบัตสึในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา และเป็นเซ็นเตอร์ของ SKE48 ในเกือบทุกซิงเกิ้ล

มิยาวากิ ซากูระเดบิวในฐานะเม็มเบอร์รุ่นที่ 1 ของ HKT48 เมื่อปี 2554 สร้างแรงสั่นสะเทือนด้วยการติดอันดับที่ 47 ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2555 เป็นเม็มเบอร์ HKT48 คนแรกที่ติดอันดับในการเลือกตั้งทั้งที่ขณะนั้น HKT48 ยังไม่มีแม้กระทั่งเพลงต้นฉบับของตัวเองและอันดับเลือกตั้งของเธอก็สูงขึ้นมาโดยตลอด และเมื่อซาชิฮาระ ริโนะ รุ่นพี่ที่เธอรักและเคารพที่ชนะการเลือกตั้งในฐานะเม็มเบอร์ของ HKT48 มาถึง 4 สมัย ได้วางมือจากการเลือกตั้งแล้ว เธอจึงยึดมั่นว่าต้องรักษาตำแหน่งอันดับที่ 1 ไว้ให้ได้ในฐานะมือหนึ่งของ HKT48 เธอถึงกับประกาศว่าการเลือกตั้งในปีนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอแล้ว


มัตสิอิ จูรินะกับมิยาวากิ ซากูระได้เป็นเซ็มบัตสึด้วยกันครั้งแรกใน UZA เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 28 ของ AKB48 เมื่อปี 2555 จูรินะในวัย 15 ปีได้เป็นเซ็นเตอร์ในเพลงนี้ในขณะที่ซากูระในวัย 14 ปียังเป็นเพียงเม็มเบอร์น้องใหม่ไฟแรง (ภาพจาก 【MV full】 UZA -Dance ver.- / AKB48[公式])

แต่ผลที่ออกมา ซากูระไม่เพียงไม่สามารถคว้าอันดับที่ 1 แต่เธอไม่แม้กระทั่งเป็นอันดับที่ 2 ด้วยสิ่งที่เธอแบกรับไว้ จึงเข้าใจได้ไม่ยากว่าเธอเสียใจมากเพียงใด

“ซัชชี่ หนูขอโทษค่ะ”

ด้วยเส้นทางชีวิตไอดอลและประสบการณ์ที่ทั้งมัตสึอิ จูรินะและมิยาวากิ ซากูระได้ผ่านมา คงจะไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องแบกรับได้มากกว่าสองคนนี้อีกแล้ว ดังนั้นเมื่อโทกูมิตสึ คาซูโอะ พิธีกร ได้ขอให้จูรินะพูดกับซากูระ จึงไม่ต้องมีคำพูดอะไรที่มากไปกว่า “ขอบคุณที่มาเป็นคู่แข่งกันนะ”

เพลงที่นานมาแล้วไม่ได้ฟัง

คอนเสิร์ตก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งปีนี้มีวิธีการเลือกเพลงที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนที่ผ่านมา นั่นคือการให้เม็มเบอร์ AKB48 กรุ๊ปโหวตเพลงที่ตัวเองอยากฟังมาคนละ 1 เพลง (ใช้การตอบแบบสอบถาม) และเลือกเพลงที่ได้คะแนนโหวตเพียง 1 คะแนนมาทำการแสดง นั่นทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้มีเพลงไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ไม่ค่อยได้รับความนิยมหรือลืม ๆ กันไปแล้วอยู่หลายเพลงเลยทีเดียว

และในบรรดาเพลงเหล่านี้ นี่คือเพลงที่เราอยากแนะนำให้คุณรู้จัก

1. Lucky Seven

เพลงรองจาก Heavy Rotation เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 17 ของ AKB48 เพลงเนื้อหาให้กำลังใจเพลงนี้เป็นเพลงประกอบโฆษณาร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นประเทศญี่ปุ่น ท่าเต้นที่ใช้แขนทั้งสองข้างทำเป็นรูปเลข 7 นี้ทำให้เราอยากเข้าเซเว่นไปซื้อซาลาเปาเลยทีเดียว (ไม่แน่ อีกหน่อยเราอาจจะได้เห็น BNK48 ใช้เพลงนี้ประกอบโฆษณาเซเว่นบ้างก็ได้)

Play video

2. Kono Namida wo Kimi ni Sasagu

เพลงรักท่วงทำนองสดใสแต่ความหมายซึ้งกินใจนี้เป็นเพลงหลักจากซิงเกิ้ลที่ 2 ของ NO NAME ยูนิตเฉพาะกิจที่ประกอบด้วยเม็มเบอร์ AKB48 เพื่อร้องเพลงประกอบอนิเมะเรื่อง AKB0048 อนิเมะที่พาให้แฟน ๆ อนิเมะจำนวนมากรู้จัก AKB48 (แอบกระซิบว่าเม็มเบอร์ BNK48 หลายคนก็รู้จัก AKB48 จากอนิเมะเรื่องนี้นี่แหละ)

Play video

3. Boku no YELL

เพลงเชียร์ชุ่มชื่นหัวใจเพลงนี้เป็นเพลงรองจาก Ponytail to Shushu เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 16 ของ AKB48 เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่โยโกยามะ ยูอิ โซกันโตกุคนปัจจุบันของ AKB48 ได้ร่วมแสดง ขณะนั้นเธอยังเป็นเพียงเด็กฝึกหัด

Play video

4. Eien Yori Tsuzuku You ni

เพลงเดียวของ AKB48 ที่ไม่ได้ประพันธ์คำร้องโดยอากิโมโตะ ยาซูชิ โปรดิวเซอร์ใหญ่ของ AKB48 เพลงนี้เป็นเพลงเฉพาะกิจที่เกิดขึ้นในรายการ Mechaike! รายการตลกยอดนิยมของญี่ปุ่น เมื่อปี 2555 แต่อากิโมโตะ ยาซูชิชอบใจ จึงได้นำเพลงนี้มาบรรจุใน Eien Pressure เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 29 ของ AKB48 นั่นเอง

ภาพจากรายการ Mechaike! วันที่ 1 ธันวาคม 2555

5. Deai no Hi, Wakare no Hi

เพลงรองจาก Bokutachi wa Tatakawanai เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 40 ของ AKB48 เพลงนี้บอกเล่าเรื่องราวและความรู้สึกระหว่างกันของทากาฮาชิ มินามิ อดีตโซกันโตกุของ AKB48 และโยโกยามะ ยูอิ โซกันโตกุคนปัจจุบันของ AKB48 เพลงลงรายละเอียดถึงหยดน้ำฝน ชั้นเรียนเต้น ความฝันและการฝากฝัง ใครที่รับรู้เรื่องราวระหว่างสองคนนี้ก็ยากนักที่จะไม่เสียน้ำตา

ภาพการแสดงเพลง Deai no Hi, Wakare no Hi ในการเลือกตั้งครั้งที่ 7 วันนั้นทากาฮาชิ มินามิยังอยู่ โยโกยามะ ยูอิยังหวั่นใจว่าจะสืบทอดตำแหน่งโซกันโตกุได้ดีหรือไม่

ภาพการแสดงเพลง Deai no Hi, Wakare no Hi ในการเลือกตั้งครั้งที่ 10 วันนี้ทากาฮาชิ มินามิไม่อยู่แล้ว มีแต่โยโกยามะ ยูอิที่ยืนอยู่ด้านหน้าทุกคนในฐานะโซกันโตกุอย่างเต็มภาคภูมิ

อันนี้แถม! พิเศษสำหรับแฟนบอยสาว ๆ BNK48

WRD48 ยูนิตเฉพาะกิจที่เป็นยิ่งกว่าฝัน

ในช่วงอังกอร์ของคอนเสิร์ตก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งปีนี้ มีการประกาศยูนิตเฉพาะกิจ นั่นก็คือ WRD48 ยูนิตที่รวมสมาชิกจาก AKB48 กรุ๊ปนานาชาติไว้ด้วยกัน โดยมีเม็มเบอร์ของ BNK48 เข้าร่วม 3 คนได้แก่เจนนิษฐ์ มิวสิคและเฌอปราง โดยเฌอปรางได้เป็นเซ็นเตอร์ของยูนิตนี้

ทั้งที่ BNK48 เพิ่งเดบิวเมื่อปีที่แล้ว ความฝันที่จะได้แสดงร่วมกับเม็มเบอร์รุ่นพี่ดูเป็นความฝันที่ห่างไกล ยิ่งเป็นการแสดงในโดมต่อหน้าแฟน ๆ นับหมื่นคนยิ่งเป็นความฝันที่ห่างไกลขึ้นไปอีก และการได้เป็นเซ็นเตอร์ยืนนำหน้ารุ่นพี่ยิ่งเหมือนความฝันที่ไกลสุดขอบจักรวาล

ภาพจากรายการ BNK48 Senpai ep.13 (Part 2)

แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว แล้วเฌอปรางจะห้ามน้ำตาแห่งความปลื้มปิติได้อย่างไร

กัปตันเฌอปรางกลายเป็นเด็กน้อยไปเลยเมื่ออยู่กับโซกันโตกุ อันดับที่ 1 และอันดับที่ 2 ในการเลือกตั้งปีนี้

姉ちゃんに任せろ!เชื่อใจพี่สาวคนนี้ได้เลย!

เมื่อมิวสิคทราบว่าตัวเองได้อันดับที่ 72 มิวสิคก็ได้ทำหน้าเหวอและเดินเข้าไปสวมกอดอิซึตะ รินะทั้งน้ำตา และพี่สาวที่แสนดีคนนี้ก็เดินมาส่งเธอที่หน้าเวที

เมื่อโทกูมิตสึ คาซูโอะประกาศว่าเฌอปรางได้อันดับที่ 39 อิซึตะ รินะก็ลุกขึ้นสวมกอดเฌอปรางและเดินมาส่งเฌอปรางที่หน้าเวทีเช่นกัน

อิซึตะ รินะไม่ได้แค่มาส่งมิวสิคและเฌอปรางด้วยการลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกมาส่ง

รินะมาส่งมิวสิค เฌอปราง และ BNK48 ทุกคนด้วยการจาก AKB48 จากประเทศบ้านเกิด ข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมหัวจมท้ายกับ BNK48 ที่ขณะนั้นยังไม่รู้ว่าจะออกหรือก้อย ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับ BNK48 เป็นพี่สาว เป็นครู เป็นทุกอย่างที่แสนดีของน้อง ๆ การันตีด้วยสุนทรพจน์ของเฌอปรางและคำพูดของเม็มเบอร์ BNK48 ในหลายโอกาสว่า “ไม่มีอิซึตะ รินะ ไม่มี BNK48 ในวันนี้”

ถึงแม้อิซึตะ รินะจะไม่เคยได้ไปยืนที่หน้าเวทีอย่างที่เธอฝันเหมือนมิวสิคและเฌอปราง แต่เธอก็ได้ใช้พลังของเธอส่งรุ่นน้องไปถึงฝันแล้ว

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับภาพความประทับใจที่เราเลือกมาในวันนี้ เดี๋ยวซิงเกิ้ลใหม่ของ AKB48 ก็จะมาแล้ว แถมยังจะมีเฌอปรางกับมิวสิคจาก BNK48 ด้วย ก็อย่าลืมเก็บเงินแต่เนิ่น ๆ และอย่าลืมว่าวันที่ 17 กรกฎาคมนี้เรามีนัดกันนะครับ ^_^