เชื่อว่าคอหนังสยองขวัญหลายคนน่าจะจำหนังสุดหักมุมเรื่อง Orphan เมื่อปี 2009 กันได้ดี ที่คู่สามี-ภรรยา ได้รับอุปการะเด็กหญิงหน้าตาน่ารักวัย 9 ขวบ แต่แล้วเธอก็พยายามเคลมพ่อเลี้ยงของตัวเองแล้วหาทางกำจัดแม่เลี้ยงเสีย ซึ่งสุดท้ายตัวตนของเธอก็ถูกเผยออกมาว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่เด็ก แต่เป็นหญิงวัย 33 ปี ที่เกิดมาแคระแกร็นตัวเล็กเหมือนเด็ก ใครจะไปคิดว่าล่ะว่าพลอตหนังเหลือเชื่อแบบนี้ จะเกิดขึ้นได้จริง

Orphan (2009)

Orphan (2009)

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่เหมือนหนัง Orphan เกิดขึ้นจริง ๆ อ้างอิงจากรายงานข่าวในมลรัฐทิปปีแคนู รัฐอินเดียนา มีคู่สามี-ภรรยา โดนดำเนินคดีข้อหา “ทอดทิ้งลูกเลี้ยง” ของตัวเอง แต่ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าพวกเค้าต่างหากที่ตกเป็นเหยื่อในคดีนี้

คริสติน และไมเคิล บาร์เน็ตต์

คริสติน และไมเคิล บาร์เน็ตต์

ข้อความตอนหนึ่งจากเอกสารที่ยื่นฟ้องต่อศาลทิปปีแคนู คริสติน และไมเคิล บาร์เน็ตต์ คู่สามี-ภรรยา ได้ไปรับเด็กหญิงชาวยูเครเนียนผู้มีลักษณะทางกายภาพแคระแกร็นมาไว้ในอุปการะเมื่อปี 2010 แต่แล้วในปี 2013 ทั้งคู่กลับทอดทิ้งเด็กหญิงไว้เพียงลำพังให้อยู่ในแฟลตที่เมืองลาฟาแยต แล้วทั้งคู่ก็ย้ายไปอยู่แคนาดา ในข้อกล่าวหานั้นยังอ้างอีกว่า คู่สามี-ภรรยา ได้ดำเนินการทางกฏหมายแก้ไขอายุเด็กหญิงจาก 8 ขวบ เป็น 22 ปี แล้วยังกำชับเด็กหญิงให้บอกทุกคนว่าภาพลักษณ์ของเธอดูอ่อนกว่าอายุจริง

เป็นผลให้ทั้งคู่โดนดำเนินคดีข้อหา “ทอดทิ้งบุคคลผู้อยู่ในอุปการะ” ต่อมาทั้งคู่ได้รับการประกันตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คริสตินได้อธิบายข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าวว่า กระบวนการอุปการะเด็กนั้นล้วนเป็นกรรมวิธี “ต้มตุ๋น” นาตาเลีย เด็กหญิงที่เธออุปการะมานั้นแท้จริงแล้วคือหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่ แต่เธอใช้ประโยชน์จากความผิดปกติทางกายภาพที่ดูเหมือนเด็กหญิงคอยหลอกลวงครอบครัวอุปการะไปเรื่อย ๆ

คริสตินเล่าต่อว่า เธอและไมเคิล ซึ่งขณะนั้นยังเป็นสามีของเธออยู่ ได้ไปรับนาตาเลียมาจากศูนย์รับเลี้ยงบุตรบุญธรรม ในฟลอริดา ในวันนั้นนาตาเลียต้องการครอบครัวดูแลอย่างเร่งด่วน เหตุจากครอบครัวที่ดูแลเธอก่อนหน้านี้ ได้ยกเลิกการรับอุปการะด้วยเหตุผลที่ไม่เปิดเผย  คริสตินและไมเคิลรู้สึกเมตตานาตาเลียจึงรับตัวเธอมาโดยที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเธอมากนัก

นาตาเลีย กับไมเคิล และคริสติน

นาตาเลีย กับไมเคิล และคริสติน

แต่เมื่อรับนาตาเลียมาอยู่ด้วยไม่กี่สัปดาห์ เธอและสามีก็เริ่มสังเกตได้ว่าแท้จริงแล้วนาตาเลียไม่ใช่เป็นเด็ก 8 ขวบอย่างที่เข้าใจ เธอมีพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างที่ชี้ชัดว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะด้วยการพูดจาด้วยศัพท์สำนวนแบบผู้ใหญ่ เธอไม่ค่อยสุงสิงกับเด็กวัยเดียวกัน คริสตินเคยอาบน้ำให้เธอ แล้วก็รู้สึกช็อกเมื่อเห็นว่าเธอมีขนที่อวัยวะเพศเหมือนกับผู้ใหญ่ และที่สำคัญเธอมีประจำเดือน

คู่สามี-ภรรยา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่พาตัวนาตาเลียไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบหาอายุจริงของเธอ แพทย์ทำการตรวจสอบมวลกระดูกของนาตาเลียแล้วยืนยันว่า นาตาเลียมีอายุอย่างน้อยก็ 14 ปีแล้ว ตั้งแต่นั้นเธอและสามีก็ปฏิบัติต่อนาตาเลียดังกับเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง อาจจะด้วยความไม่พอใจที่ความจริงถูกเปิดเผย นาตาเลียเริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรงต่อพ่อแม่อุปการะ ด้วยการขู่ว่าจะฆ่าทั้งคู่เสีย ซึ่งเธอก็ทำจริง ทั้งการใส่น้ำยาเช็ดกระจกลงในกาแฟของคริสติน โชคดีที่คริสตินไปเห็นเข้าโดยบังเอิญ เธอถามนาตาเลียว่าทำอะไร ซึ่งนาตาเลียก็ตอบตามตรงว่า

“ฉันจะวางยาพิษแก”

นาตาเลียยังพยายามทำร้ายคริสตินอยู่หลายครั้ง บางครั้งก็ผลักคริสตินใส่รั้วไฟฟ้า หรือเคยกระทั่งวาดภาพการสังหารคริสตินและไมเคิล เป็นภาพที่เธอฆ่าทั้งคู่แล้วม้วนร่างใส่ผ้าห่ม แล้วเอาไปฝังในสวนหลังบ้าน นาตาเลียยังทำเรื่องน่ากลัวอีกมาก เช่นกระโดดออกจากรถที่กำลังวิ่งอยู่บนถนน เอาเลือดตัวเองไปละเลงบนกระจก

บ้านของครอบครัวบาร์เร็ตต์

บ้านของครอบครัวบาร์เร็ตต์

ถึงขนาดนี้ไม่น่าจะอยู่เป็นสุขแล้วล่ะครับ ไม่รู้หลับ ๆ ไปจะโดนฆ่าไหม ว่าแล้วคริสตินและสามีก็หาทางออกด้วยการพาตัวนาตาเลียไปโรงพยาบาลจิตเวช เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยสภาพจิตของเธอโดยด่วน ในระหว่างการรักษานาตาเลียยอมรับกับแพทย์ว่าแท้จริงแล้วเธอมีอายุมากกว่าที่อ้างมา แล้วเธอก็ยืนยันเจตนาว่าต้องการฆ่าพ่อแม่อุปการะด้วย ซึ่งแพทย์ก็ทำการลงผลการวินิจฉัยเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่า

“นาตาเลีย ได้ใช้ประโยชน์จากภาพลักษณ์ที่ดูอ่อนกว่าวัยในการหาเลี้ยงชีพ ด้วยการหลอกลวงเหยื่อที่ดูมีเจตนาดีต่อเธอเรื่อยมา”

ในวันที่พ่อแม่และลูกบุญธรรมยังดูรักใคร่อบอุ่น

ในวันที่พ่อแม่และลูกบุญธรรมยังดูรักใคร่อบอุ่น

คริสตินและสามีจึงนำเอกสารทางการแพทย์นี้ไปยื่นกับศาลสูงแห่งมลรัฐแมเรียนในเดือนมิถุนายน 2012 เพื่อให้ศาลรับพิจารณายืนยันสถานะว่าเธอเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กหญิงอีกต่อไป เพื่อที่คริสตินจะได้ส่งเธอเข้ารับการบำบัดทางจิตได้ตามสถานะของผู้ใหญ่คนหนึ่ง ไม่เพียงแค่นั้นคริสตินยังได้ดำเนินการขอเลขทะเบียนประกันสังคมให้กับนาตาเลียอีกด้วย เพื่อให้เธอได้สิทธิ์รับแสตมป์แลกอาหารตามสวัสดิการของรัฐ แล้วก็มีบัตรประชาชนอีกด้วย

ถึงตรงนี้เรื่องราวดูจะราบรื่นดี แต่ก็สงบอยู่ได้ไม่นาน พลอตช่างเหมือนหนังสยองขวัญ เพราะนาตาเลียได้รับการปล่อยตัวสถาบันจิตเวชในเดือนสิงหาคมปีนั้น แต่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจาก “สาธารณสุขของรัฐ” ถึงแม้นาตาเลียจะได้รับการวินิจฉัยว่าปลอดภัยต่อสังคมแล้ว แต่คริสตินก็ไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่ร่วมชายคาเดียวกับนาตาเลียอีก เธอจึงจัดให้นาตาเลียไปพักอยู่ในแฟลตที่เมืองลาฟาแยตแทน และอีกเหตุผลสำคัญคือ เจคอบ ลูกชายจริง ๆ ของคริสติน ซึ่งเป็นเด็กออทิสติกแต่มีความอัจฉริยะทางด้านฟิสิกส์ วันนี้เจคอบอายุ 21 ปีแล้ว และความอัจฉริยะของเจคอบ ทำให้เขาได้เข้าเรียนใน the Perimeter Institute for Theoretical Physics ในเมืองวอเตอร์ลู รัฐออนทาริโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งคริสตินได้ย้ายตามไปดูแลลูกชาย

ครอบครัวบาร์เน็ตต์ นาตาเลียนั่งติดกับคริสตินทางด้านหัวโต๊ะ

ครอบครัวบาร์เน็ตต์ นาตาเลียนั่งติดกับคริสตินทางด้านหัวโต๊ะ

ในด้านการดูแลนาตาเลียนั้นเธอก็ไม่ได้เพิกเฉย แม้จะโดนพยายามฆ่ามาแล้วหลายครั้ง แต่คริสตินก็ยังพาเธอไปสมัครเข้าเรียนที่ the Lafayette Adult Resource Academy ซึ่งภายหลังนาตาเลียก็หยุดเรียนไปเสียเฉย ๆ แล้วยังถูกขับไล่ออกจากแฟลตในเดือนพฤษภาคม 2014 ตั้งแต่นั้นคริสตินก็บอกว่าเธอไม่สามารถติดต่อนาตาเลียได้อีกเลย คริสตินกังวลว่าเธอจะหยุดกินยาที่ช่วยรักษาอาการทางประสาท แล้วก็ดำเนินแผนแกล้งเป็นเด็ก 8 ขวบ แล้วหาครอบครัวอุปการะใหม่อีก

คริสตินเล่าอีกว่า “ฉันเคยพยายามบังคับให้นาตาเลียกลับเข้ารักษาในสถาบันจิตเวช แต่ในทางกฏหมายฉันไม่สามารถบังคับเธอได้อีกต่อไป เพราะว่าเธอเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว”

โฉมหน้าชัด ๆ ของนาตาเลีย

โฉมหน้าชัด ๆ ของนาตาเลีย

เรื่องราวยังยืดเยื้อมาจนถึงปี 2016 เมื่อคริสตินยังคงพยายามยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอสิทธิ์เป็นผู้ปกครองของนาตาเลีย (เจ๊เป็นแม่พระเหรอ) แต่นาตาเลียปฏิเสธคำร้อง อ้างว่าเธอเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ต้องการมีผู้ปกครอง ในชั้นศาลนาตาเลียยังพาพยานมายืนยันต่อหน้าผู้พิพากษาด้วยว่าเธออายุ 22 ปีแล้วจริง ๆ ซึ่งศาลก็ยอมรับผลการยืนยัน ทำให้คำร้องขอเป็นผู้ปกครองจากคริสตินเป็นอันตกไป

แต่แล้วในวันนี้คริสตินและสามีกลับตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทอดทิ้งผู้อยู่ในอุปการะ ทั้ง ๆ ที่ศาลเองก็รับรองผลการยืนยันอายุของนาตาเลียไปแล้วเมื่อปี 2016 คริสตินบอกว่าเธอสับสนกับศาลบ้านเธอมาก จะเอายังไงแน่

ในขณะที่รายงานข่าวนี้ ยังไม่มีผลการตัดสินครั้งล่าสุดจากศาลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ติดตามเรื่องราวแล้วรู้สึกว่าเรื่องราวของนาตาเลีย น่าจะสนุกชวนติดตามกว่าในหนัง Orphan เสียอีกนะ

 

อ้างอิง