รู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านไปไม่กี่ปีเองนะกับหนังแอนิเมชัน Frozen ภาคแรก เรายังคงได้ยินเสียงเพลง Let It Go กันอยู่เรื่อย ๆ เลย แต่ถ้านับนิ้วเอาจริง ๆ ก็ผ่านไปถึง 6 ปีแล้วนะ ถึงวันนี้ถ้าใครได้ชมไปเพียงรอบเดียว คงจำเรื่องราวได้ไม่ครบถ้วนนัก วันนี้ Frozen II ก็เข้าฉายแล้ว เนื้อหาในภาคนี้ดำเนินต่อเนื่องจากภาคแรกด้วย ถ้าไปชมเลย อาจจะปะติดปะต่อเรื่องราวจากภาคแรกได้ไม่ครบถ้วนนัก เราเลยช่วยทำการบ้านให้ ด้วยการหยิบเอา 5 ประเด็นสำคัญจากภาคแรกมาย้อนความทรงจำให้ เพื่ออรรถรสในการชม Frozen II ได้อย่างราบรื่น

1.อดีตที่น่าเศร้าในวัยเด็กของ อันนา และ เอลซา

วัยเด็กของเอลซาและแอนนา

วัยเด็กของเอลซาและอันนา

อันนา และเอลซา เป็น 2 เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรเอเรนเดลล์ ด้วยเหตุที่มีกันอยู่แค่ 2 พี่น้อง ทั้งคู่จึงใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก กิจกรรมโปรดของทั้งคู่คือการวิ่งเล่นด้วยกันรอบปราสาท แล้วเอลซาก็ใช้พลังวิเศษในการควบคุมหิมะของเธอ มาเล่นสนุกกับน้องสาว แต่ด้วยความซุกซนของทั้งคู่ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เอลซาลื่นล้มแล้วพลาดทำให้แท่งน้ำแข็งจากมนต์วิเศษของเธอฟาดไปที่ศีรษะของอันนา เพื่อช่วยชีวิตของอันนาที่บาดเจ็บสาหัส กษัตริย์และราชินีแห่งเอเรนเดลล์ พ่อและแม่ของอันนาและเอลซา จึงรีบนำตัวอันนาไปที่หมู่บ้านโทรลล์ที่แอบซ่อนอยู่ในหุบเขา เพื่อให้โทรลล์ผู้มีพลังวิเศษในการรักษาได้ช่วยชีวิตอันนา โทรลล์ช่วยชีวิตอันนาไว้ได้ แต่อันนาจะสูญเสียพลังวิเศษและความทรงจำ อันนายังคงมีความทรงจำเพียงเล็กน้อยถึงความสนุกที่ได้วิ่งเล่นกับเอลซา แต่เธอจะจำเรื่องพลังวิเศษของเอลซาไม่ได้อีกเลย

เมื่ออันนาหายดี กษัตริย์และราชินี ตัดสินใจจับลูกสาวทั้งสองแยกจากกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นอีก แล้วยังปิดประตูปราสาทไม่ต้อนรับบุคคลภายนอกอีกด้วย ทั้งคู่ต่างแยกกันอยู่อย่างโดดเดี่ยว เอลซาใช้เวลาว่างของเธอไปกับการฝึกควบคุมพลังวิเศษ ส่วนอันนาก็คุยกับภาพเขียนบนผนังอยู่คนเดียว แต่แล้วเรื่องร้ายในเอเรนเดลล์ก็ยังเกิดขึ้นอีก เมื่อกษัตริย์และราชินีต้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเรือล่ม

2.พลังน้ำแข็งอันลึกลับของเอลซา

แอนนาตามหาเอลซาจนเจอ

อันนาตามหาเอลซาจนเจอ

เมื่อทั้งคู่เติบโตเป็นสาว เอลซาก็พร้อมแล้วที่จะขึ้นครองราชบัลลังก์แห่งเอเรนเดลล์ แล้วเธอก็พิสูจน์ตัวเองให้ได้เห็นว่าเธอมีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นราชินีแห่งอาณาจักรนี้แล้ว โดยที่เหล่าข้าราชบริภารและพสกนิกรต่างไม่มีใครล่วงรู้ ถึงมนต์วิเศษของเอลซา ในวันที่ทำพิธีขึ้นครองราชย์ เธอต้องพยายามควบคุมสติตัวเองอย่างมากไม่ให้เผลอปล่อยพลังสร้างน้ำแข็งออกมาตลอดการทำพิธี เมื่อทุกอย่างเกือบจะผ่านพ้นไปด้วยดี จนกระทั่งปาร์ตี้ฉลองตำแหน่ง อันนาก็ปรากฏตัวขึ้น พี่น้องได้เจอกันคร้้งแรกหลังจากถูกแยกจากกันมาอย่างยาวนาน เอลซาเกิดสติแตกทันทีปล่อยพลังออกมาอย่างพลุ่งพล่าน ไม่สามารถควบคุมได้ เธอรีบวิ่งหนีไปจากเอเรนเดลล์ แต่เธอก็ได้ทำให้เอเรนเดลล์ได้กลายเป็นอาณาจักรที่อยู่ภายใต้ฤดูหนาวเหน็บไปตลอดกาล แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเอลซาหนีไปอยู่ที่ใด

ห่างออกไปในดินแดนส่วนตัวของเอลซา เธอรู้สึกสบายใจที่ได้ปลดปล่อยพลังน้ำแข็งได้ตามใจชอบ พลังเธอกล้าแข็งขึ้นมาก สามารถสร้างทุกอย่างได้ด้วยพลังน้ำแข็งของเธอ แล้วความกล้าแข็งของพลังก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ภายในของเธอด้วย เราเห็นพลังอันน่ากลัวของเธอแล้ว แต่ในภาค 2 ที่ทิ้งช่วงห่างจากภาคแรกหลายปี เอลซาก็ยังพัฒนาพลังน้ำแข็งของเธอมากขึ้นไปอีก เธอยังค้นพบความสามารถใหม่ ๆ อีกมาก

3.คริสทอฟ คนรักของอันนา

คริสทอฟ

คริสทอฟ

เหตุเพราะอันนาเติบโตมาท่ามกลางความโดดเดี่ยวหงอยเหงา ทำให้เธอโหยหาความรักความสนใจมาตลอดโดยไม่รู้ตัว แล้วมันก็ทำให้เธอตกหลุมรักได้โดยง่าย ในคืนที่เอลซาขึ้นครองราชย์นั้น อันนาได้พบกับเจ้าชายฮาน เพียงได้รู้จักแค่ครู่เดียว อันนาก็ตกหลุมรักเขาอย่างจริงจัง และตกลงรับหมั้นเขาในคืนนั้นเลย โดยที่อันนาหารู้ไม่ว่า ฮานต้องการหมั้นหมายกับอันนา ก็เพราะเธอคือเจ้าหญิงแห่งเอเรนเดลล์ เมื่อได้สมรสกันก็จะทำให้ฮานเป็นกษัตริย์แห่งเอเรนเดลล์โดยปริยาย นั่นคือเป้าหมายของฮาน ในขณะที่อันนาออกไปตามหาเอลซา เธอก็ไว้ใจฮาน ด้วยการปล่อยให้เขาดูแลปกครองอาณาจักรเอเรนเดลล์ แต่ระหว่างที่ออกผจญภัยนั้น อันนาก็ได้เจออีกหนุ่มแปลกหน้านามคริสทอฟ แล้วเธอก็คิดว่านี่คือชายที่เธอรักด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ฉาบฉวย และเป็นพระเอกตัวจริงที่ยังอยู่กับอันนาต่อเนื่องมาถึงภาค 2

คริสทอฟเปิดตัวมาในรูปแบบที่ต่างจากพระเอกในการ์ตูนดิสนีย์ในรูปแบบนิยมที่เราคุ้นเคย ว่าต้องหล่อหรือเป็นเจ้าชาย แต่คริสทอฟเป็นชายชาวบ้าน ที่เสนอตัวช่วยอันนาตามหาเอลซา แล้วยังช่วยเตือนสติอันนาถึงการตกลงใจหมั้นหมายแบบไม่ยั้งคิด คริสทอฟเป็นชายที่มีเสน่ห์ แต่ขณะเดียวกันก็มีอดีตที่ค่อนข้างประหลาด เขามีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนานกับเหล่าโทรลล์ที่เคยช่วยชีวิตอันนาเมื่อตอนเด็ก เขามีเพื่อนเพียงตัวเดียวนั่นก็คือ สเวน เจ้ากวางเรนเดียร์ ที่คริสทอฟบอกว่ามันพูดได้ แต่ที่จริงคือเขาทำเสียงแทนตัวมัน แม้ว่าเขาจะดูแปลกประหลาดไปสักนิด แต่เขาก็คือพระเอกตัวจริงของอันนา

4.โอลาฟ เจ้ามนุษย์หิมะที่ไม่มีวันละลาย

olaf

olaf

หลังจากเอลซาหนีหายไปจากเอเรนเดลล์ อันนาได้ออกตามหาเธอ แล้วเธอก็ได้ทำลายคำสาปแห่งหิมะ ในระหว่างทางที่ออกผจญภัยตามหานั้น อันนาได้พบกับโอลาฟ มนุษย์หิมะมีชีวิต ที่เอลซาสร้างมันขึ้นมาจากความทรงจำในวัยเด็ก ตอนที่เธอสร้างมนุษย์หิมะเล่นกับอันนา แต่ด้วยเวทมนตร์ที่แรงกล้าของเอลซา ทำให้โอลาฟเป็นมนุษย์หิมะที่มีความคิดจิตใจเป็นของตัวเอง

ท่ามกลางเรื่องราวดราม่าของเอลซา และอันนาน้้น โอลาฟคือตัวละครที่มีความน่ารักและเป็นสีสันของ Frozen อย่างแท้จริง โอลาฟเป็นตัวขโมยซีน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อย่างมาก กลายเป็นตัวละครที่คนดูรักและกลายเป็นสินค้าขายดีอีกมาก จากหลายฉากหลายตอนที่โอลาฟได้สร้างความจดจำต่อผู้ชม อย่างความใฝ่ฝันของโอลาฟ คือการอยากไปนอนอาบแดด ทั้ง ๆ ที่ตัวมันเป็นมนุษย์หิมะถ้าไปตากแดดก็ละลายอย่างแน่นอน หรือในช่วงท้ายเรื่อง ที่โอลาฟได้ช่วยชีวิตอันนาไว้จากภยันตราย แล้วทำให้รู้เจตนาที่แท้จริงของฮาน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับอันนา โอลาฟจำต้องเสี่ยงชีวิตตัวเอง ด้วยการก่อกองไฟ อันนารู้ว่าถ้าโอลาฟทำเช่นนั้นตัวโอลาฟจะละลาย จึงออกปากห้าม แต่โอลาฟก็ตอบมาด้วยประโยคโคตรเท่ “บางคนก็มีค่าพอที่ผมจะยอมละลายให้” พอมาถึงฉากจบที่แฮปปี้เอนดิ้ง อันนาและเอลซาได้กลับมาอยู่ด้วยกัน เอลซาก็ตัดสินใจร่ายมนต์วิเศษอีกครั้งให้กับโอลาฟ ด้วยมนต์นี้จะทำให้โอลาฟเป็นมนุษย์หิมะที่ไม่มีวันละลาย

5.ความรักสามารถละลายใจที่เป็นน้ำแข็งได้

แอนนา โดนสาปเป็นน้ำแข็ง

อันนาโดนสาปเป็นน้ำแข็ง

ตามพลอตนิยมของเทพนิยายดิสนีย์ มักจะวนอยู่กับใจความที่ว่า “รักแท้ทำลายคำสาปได้” แต่กับ Frozen ก็ล้มเลิกพลอตนิยมนี้ซะแล้ว ในฉากที่อันนาตามหาเอลซาจนเจอ เธอพยายามขอร้องพี่สาวให้กับไปล้มล้างคำสาปที่เธอทำให้เอเรนเดลล์กลายเป็นเมืองหิมะตลอดกาลเสียที แต่แล้วเอลซาก็พลั้งมือยิงคำสาปใส่อันนาอีกครั้ง แล้วครั้งนี้มันทิ่มแทงมาที่หัวใจของอันนา เธอจึงมุ่งหน้าไปหมู่บ้านโทรลล์อีกครั้งเพื่อให้ช่วยแก้ไขคำสาปนี้ แต่โทรลล์บอกว่า “มีเพียงรักแท้เท่านั้นที่จะทำลายคำสาปนี้ได้” อันนานึกถึงเจ้าชายฮานทันที มุ่งหน้ากลับเอเรนเดลล์ เพื่อหวังว่าจุมพิตจากฮานจะล้างคำสาปนี้ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เธอล่วงรู้ถึงเจตนาอันชั่วร้ายของฮานแทน

ชายคนต่อไปที่เธอนึกถึงก็คือ “คริสทอฟ” ในระหว่างที่ร่วมผจญภัยด้วยกันนั้น ทั้งคู่ต่างได้พัฒนาความสัมพันธ์ต่อกันโดยไม่รู้ตัว แต่ความคาดหมายที่อันนาคิด ก็ยังไม่ใช่คริสทอฟ ล่วงเลยมาจนถึงเหตุการณ์คับขัน เมื่อฮานเผยความชั่วร้ายของตน ด้วยการพยายมามฆ่าเอลซา ที่เป็นเสี้ยนหนามในการบัลลังก์ของเขา อันนากระโดดเข้ามาขวางระหว่างฮานกับเอลซา ทำให้เธอกลายเป็นน้ำแข็ง กลายเป็นว่าการกระทำของอันนา เป็นบทพิสูจน์ถึงความเสียสละด้วยความรักอย่างแท้จริง และนั่นคือชนวนที่หักล้างคำสาป กลายเป็นว่า “รักแท้ชำระล้างคำสาป” ที่อยู่คู่การ์ตูนดิสนีย์มาอย่างยาวนาน โดนตีความใหม่ในFrozen เสียนี่ ไม่จำเป็นว่ารักแท้จะต้องเป็นความรักระหว่างหนุ่มสาว ชายหญิงเสมอไปนะ เพราะประเด็นหลักใน Frozen คือความรักความผูกพันของ 2 ศรีพี่น้องเอลซา และอันนาการเสียสละของอันนา ทำให้เอลซา ซาบซึ้งความรักที่น้องสาวมีต่อเธอ และทำให้เอลซาได้รู้ว่าความรักนี่เองที่เธอสามารถใช้ควบคุมพลังน้ำแข็งของเธอได้ แล้วเธอก็ใช้มันลบล้างคำสาปที่เธอเคยสะกดเอเรนเดลล์ไว้ให้อยู่ภายใต้หิมะตลอดกาล

ติดตามความสนุกในการผจญภัยของสมาชิกแก๊งเดิม เอลซา,อันนา, คริสทอฟ. โอลาฟ และ สเวน ได้ใน Frozen II รอบนี้จะพาเราไปหาคำตอบว่าพลังหิมะของเอลซาเป็นมาอย่างไร

 

อ้างอิง