![[รีวิวละคร]ปลายจวัก : ละครน้ำดีที่ดูไป หิวไป ท้องร้องเลยอ่ะ คำเตือน!! รีวิวนี้ ระวังหิวววววว](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2019/12/1Iy1QI95gSTm-default.jpg)
Our score
6.8[รีวิวละคร]ปลายจวัก : ละครน้ำดีที่ดูไป หิวไป ท้องร้องเลยอ่ะ คำเตือน!! รีวิวนี้ ระวังหิวววววว
จุดเด่น
จุดสังเกต
-
ความสมบูรณ์ของบท
6.0
-
คุณภาพงานสร้าง
6.0
-
คุณภาพนักแสดง
7.0
-
ความสนุกน่าติดตาม
7.0
-
คุ้มเวลาในการรับชม
8.0
มันเป็นความฝันเลยละค่ะ ที่อยากจะเห็นละครไทยสักเรื่องนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารไทยให้สมกับที่ประเทศของเรามีวัฒนธรรมอาหารสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แล้วก็มาพบกับละครเรื่องนี้ ปลายจวัก เป็นละครที่นําเสนอเกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารของไทยที่มีอัตลักษณ์สุดวิจิตร สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตในยุคสมัยตามประวัติศาสตร์ โดยเล่าผ่านชะตาชีวิตของตัวละครและบริบทสังคมในสมัยรัชกาลที่ ๕
เรื่องมันเริ่มที่ พ.ศ.๒๔๑๘ ณ บ้านริมน้ำ คลองอัมพวา
คุณช้อย (นฤมล พงษ์สุภาพ)กำลังกํากับการครัวเพื่อรอรับคุณหลวงพิชัยธานี (จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว) ผู้เป็นสามีที่กำลังเดินทางกลับจากการไปทำราชการที่นครศรีธรรมราช ในครัวนี่กำลังวุ่นวายกันเชียวแหละ ตำพริก เตรียมเครื่องกันจ้าละหวั่นเพราะวันนี้คุณช้อยเตรียมทำเมนูพิเศษ ที่นาน ๆ จะทำสักครั้งเพราะมีขั้นตอนยุ่งยากคือ “ยำทวาย” เพื่อต้อนรับคุณหลวงกลับบ้าน โดยมี คุณกล้า ลูกชายวัย 10 ขวบดำน้ำงมกุ้งมาให้แม่เพื่อใส่ในยำทวาย
แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้คุณช้อยถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะคุณหลวงไม่ได้กลับพร้อมวัตถุดิบจากทางปักษ์ใต้เท่านั้น แต่ยังพา ทองสําลี (ปัทมวัลย์ เค้ามูลคดี) บุตรีคุณพระสันต์ หัวหน้าโปลิสคนสําคัญของเมืองนครศรีธรรมราชกลับมาเป็นอนุภรรยา ในเรื่องนี้คุณหลวงแกก็ไม่ได้เจ้าชู้ไก่แจ้แบบพ่อขุนแผนหรอกนะคะ ที่รับทองสำลีมาก็เพราะคุณพระสันต์ยกลูกสาวให้เพื่อเป็นการขอบคุณที่คุณหลวงช่วยชีวิต แหม…คนสมัยก่อนเขาก็ช่างมีน้ำใจ ตอบแทนกันด้วยลูกสาวตัวเป็น ๆ กันซะงั้น
คุณหลวงพาทองสำลีเข้าบ้าน
คุณช้อยก็อกไหม้ไส้ขม
ทั้งคุณช้อยและทองสำลี ต่างก็มีฝีมือการทำอาหารที่แตกต่างกันไป คุณช้อยมีเอกลักษณ์การทําอาหารรสชาติกลมกล่อมตามตํารับชาววัง ส่วนทองสำลีก็มีฝีมือการทำอาหารที่รสชาติจัดจ้านร้อนแรงแบบปักษ์ใต้ ละครเรื่องอื่นถ้าเมียน้อยเมียหลวงมาเจอกัน คงห้ำหั่นกันด้วยฝีปาก ด่าทอ จิกทึ้ง แต่เรื่องนี้เขาห้ำหั่นกันด้วยฝีมือการทำอาหารที่ไม่มีใครยอมใคร และผลตอบแทนที่ได้ก็คือ อร่อยกันทั้งบ้าน
ดูไปก็หิวไปค่ะเรื่องนี้สมชื่อละครเกี่ยวกับอาหารจริง ๆ เพราะวัน ๆ ก็เอาแต่เข้าครัวกันทั้งเรื่อง เดี๋ยวทำนั่น เดี๋ยวทำนี่ นอกจากเราจะได้เห็นอาหารแปลก ๆ ที่หารับประทานไม่ได้ในสมัยนี้ (แต่ถึงหาได้ก็ไม่รู้จะมีใครกล้าเอามาทำกินกันหรือเปล่า) เราจะยังได้รู้เคล็ดลับในการทำอาหารแต่ละสำรับตำรับโบราณจริง ๆ กันอีกด้วย
เมื่อทองสําลีตั้งท้อง คุณช้อยก็ท้องตามมา ทองสําลีคลอดลูกสาวชื่อวาด ในขณะที่คุณช้อยก็คลอดลูกสาวเหมือนกันชื่ออ่อน แต่เสียเลือดมากจนเสียชีวิต ทําให้คุณหลวงเสียใจมากจนพาลโกรธอ่อนว่าเป็นตัวกาลกิณีทําให้ภรรยาสุดที่รักตายจาก ทองสำลีก็เลยตกที่นั่งคุณนายเจ้าของเรือนไปตามระเบียบ แต่ก็เลี้ยงดูกล้าและอ่อนมาอย่างลูกของตนเอง
อ่อน กับ วาด ในวัยเด็ก
จนกระทั่งทั้งอ่อนและวาด อายุได้ ๑๑ ขวบ อ่อนเรียบร้อยสวยหวาน วาดก็แสนซนแก่นเซี้ยว อ่อนรู้ว่าพ่อไม่รักและรังเกียจตน ก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวและอยู่อย่างผู้อาศัย แต่สองพี่น้องทั้งวาดและอ่อนก็รักใคร่กันดี ละครเรื่องนี้น่ารักมาก ๆ อยู่ตรงที่เป็นละครอบอุ่น ถึงจะมีแอบเศร้าบ้างก็ตามครรลองที่ควรจะเป็น คุณกล้า (นวไพบูลย์ วุฒินานนท์)โตเป็นหนุ่มได้เรียนเป็นทหารเรือ ในขณะนั้นพ.ศ.๒๔๓๔ ประเทศไทยถูกคุกคามจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแรงขึ้นเรื่อย ๆ คุณกล้าจําเป็นต้องไปทําภารกิจที่ลาว ทองสําลี อ่อน และบ่าวไพร่ในบ้านจึงช่วยกันคิดเมนูอาหารสําหรับเดินทางไกลและออกรบเพื่อให้คุณกล้าและเพื่อน ๆ ได้กินระหว่างเดินทาง
ขอให้พี่กล้าปลอดภัย
ความเป็นห่วงพี่ชายของสองสาว อ่อน และ วาด จึงไปบนบานศาลกล่าวว่าถ้าพี่กล้ากลับมาปลอดภัย จะทำขนมต้มแดง ขนมต้มขาวมาถวาย เราก็เลยได้รู้ถึงตำนานขนมต้มแดง ขนมต้มขาวกันก็คราวนี้….ทำอาหารกันทั้งเรื่องค่ะ บอกแล้ว
แต่คุณกล้าไปได้เพียงครึ่งทางก็เป็นไข้ป่าเจียนตายจนต้องถูกส่งตัวกลับ ยังไม่ทันได้ไปรบกับเขาเลยค่ะคุณ พ่อป่วยเฉย…ระหว่างคุณกล้าป่วยก็มีเพื่อนมาเยี่ยม เป็นชายหนุ่มที่กําลังฝึกเป็นมหาดเล็กหลวง ชื่อคุณเลิศ (เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) ก็ทำให้สองสาวได้รู้จักกับคุณเลิศครั้งแรกก็วันนี้
จนในที่สุด คุณกรุ่น (รัดเกล้า อามารดิษ) ญาติของคุณช้อย ตัวแทนจากพระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ มาคุยกับคุณพระ (พ่อของอ่อนกับวาดตอนนี้ได้เลื่อนยศเป็นคุณพระแล้ว) มาขอตัวอ่อนไปอยู่ในวัง แต่ในขณะเดียวกันทองสําลีก็ขออนุญาตคุณพระให้พาวาดเข้าวังไปด้วย ในที่สุดสองพี่น้อง อ่อนและวาดจึงได้เดินทางเข้าวังไปกับคุณกรุ่น ได้ฝึกเรียนรู้การทําอาหารในวัง จน อ่อน (ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์) และ วาด (เนสท์ นิศาชล สิ่วไธสง) โตเป็นสาวชาววังในห้องเครื่องเสวยอย่างเต็มตัว
ห้องเครื่องเสวยพระองค์เจ้าสายฯ
สาวชาววัง
เรื่องดำเนินมาถึง พ.ศ.๒๔๓๖ มีการจัดตั้งสภาอุณาโลมแดง ในห้องเครื่องตื่นตัวกันมาก มีการบรรจุหีบห่อของกินและเวชภัณฑ์ของใช้สําหรับส่งไปให้ทหารสยามในลาว สิน (วีระชัย ขวัญอําไพ) บุตรชายพ่อค้าชาวจีน เป็นอาสาในทีมขนของจากสภาอุณาโลมแดงไปลาว และอาสาขอร่วมรบด้วยโดยเป็นล่ามฝรั่งเศส
สภาอุณาโลมแดง
หลังจากแพ้สงครามให้ฝรั่งเศสจนไทยต้องเสียดินแดนส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่ อย่างที่ในประวัติศาสต์ทราบกันดี ในหลวงทรงเสียพระทัยมากและไม่เสวย ห้องเครื่องจึงพยายามทําของรสเลิศต่าง ๆ ถวาย ซึ่งอ่อนกับวาดก็เป็นกําลังสําคัญในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร แต่ก็ไม่สามารถทำให้พระองค์เสวยได้
เรื่องดำเนินมาถึง Ep8 แล้ว ดูจนหิวแล้วหิวอีก เห็นถึงความพิถีพิถันในการทำอาหารของสตรีชาววัง เห็นถึงเคล็ดลับการถนอมอาหารของชาวบ้านร้านตลาด ไม่ว่าไทยกลาง ไทยใต้ ไทยอีสาน แต่ละเมนูชวนน้ำลายสอกันทั้งนั้น ขนาดฉากที่ไปรบ ยังพูดถึงเรื่องอาหารกันได้ จ่อปืนจะยิงกันอยู่โต้ง ๆ เกิดท้องร้อง เห็นกบอ๊บ ๆ กระโดดผ่านมา ก็ลดปืนลงแล้วตั้งวงทำอ่อมกบกินกันเฉย หนำซ้ำระหว่างคุมตัวเชลยยังมีเวลาชักชวนกันไปสอยไข่มดแดงมาทำกินกันได้อีก
ดิฉันอยากจะยกให้ละครเรื่องนี้เป็นละครคู่บ้านคู่เมือง เพราะบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน อาหาร ความเสียสละ ความจงรักภักดีที่มีต่อชาติบ้านเมือง วิถีชีวิตที่คิดถึง เป็นละครน้ำดีที่เน้นเรื่องการทำอาหารอย่างจริงจัง แต่ก็มีมุมที่ทำให้เราตื้นตันกับความเป็นปึกแผ่นของคนในชาติ มีกลิ่นไอของความอบอุ่นเอื้ออาทรต่อกันฉันพี่น้อง จนทำให้อยากจะลบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ส่วนของตัวละครไปแต่ก็ไม่อาจจะมองข้ามไปได้เพราะก็ชัดอยู่พอสมควร ทั้งการจัดแสง การแสดงบางบทบาทที่ยังไม่ถึงในอารมณ์ที่ควรจะถึง การลำดับภาพที่หลายฉากยังขาด ๆ เกิน ๆ โดยเฉพาะระบบเสียงที่มีบางช่วงบางตอนมีความดังที่ไม่สัมพันธ์กัน แต่ให้อภัยค่ะ ขอให้อภัยข้อบกพร่องทั้งหลายเป็นการส่วนตัวเลยจริง ๆ เพราะเป็นละครน้ำดีที่อยากให้ทุกคนได้ดู
“ปลายจวัก”
บทโทรทัศน์ : ปราณประมูล
กำกับการแสดง : วินัย ปฐมบูรณ์
ผลิต : บ. กำลังดี ซอย ๖ โปรดักชัน จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 21.30 น. ทาง ไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 รับชมย้อนหลังได้ที่ Thai PBS และ Line tv
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส