Sci-Fi Films 2010s
Sci-Fi Films 2010s

ดูครบทุกเรื่องหรือยัง? 10 หนังไซไฟ (ที่ไม่ใช่ภาคต่อ) ที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีนี้

สำหรับคอหนังที่ชอบเรื่องราวแนววิทยาศาสตร์ มีวิทยาการล้ำ ๆ อย่างเช่น หุ่นยนต์ A.I. การเดินทางไปในจิตใต้สำนึก หรือเรื่องราวแนวดาราศาสตร์ ที่มีการเดินทางในอวกาศ หรือกระทั่งการเดินทางข้ามมิติเวลา ก็อาจจะรู้สึกไม่แปลกใจนักเวลาได้เห็นข่าววิทยาการใหม่ การค้นพบดาวดวงใหม่ หรือ A.I. ที่ฉลาดขึ้นทุกทีในปัจจุบัน เพราะเรื่องจริงใน พ.ศ. นี้ ล้วนแล้วแต่เคยถูกกล่าวถึงในหนังไซไฟมาแล้วทั้งสิ้น และอะไรที่ยังไม่เกิดก็น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตได้เช่นกัน เพราะความรู้ไม่สำคัญเท่าจินตนาการ

หนังไซไฟจึงเปรียบดั่งต้นธารแห่งจินตนาการของนักวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ ในการทดลองค้นคว้าถึง “ความเป็นไปได้” เผื่อว่า เรื่องราวที่ฝันไว้ในหนังอาจจะทำให้เกิดขึ้นจริงในอีกสิบอีกร้อยปีข้างหน้า และนี่คือ 10 หนังไซไฟที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (อ้างอิงตามคะแนนของเว็บไซต์ iMDB และขอเลือกมาเฉพาะหนังต้นฉบับที่ไม่ใช่ภาคต่อและหนังซูเปอร์ฮีโร แม้ว่าจะมีองค์ประกอบบางส่วนเป็นหนังไซไฟก็ตาม) และหลายเรื่องดูได้แล้วบน Netflix

อันดับ 10 Looper (2012) (Score 7.4/10)

Looper (2012)
Looper (2012)
  • นักแสดง: Joseph Gordon-Levitt, Bruce Willis, Emily Blunt
  • ผู้กำกับ: Rain Johnson (Star Wars: The Last Jedi, Knives Out)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 30 / 176 ล้านเหรียญฯ
  • หมวดของความไซไฟ: หนังย้อนเวลา-มิติคู่ขนาน
  • สนุกยังไง: นี่คือผลงานหนังที่ทำให้ผู้กำกับ Rian Johnson เข้าตาค่ายหนังใหญ่จนได้สร้าง Star Wars เรื่องราวของ “โจ” ผู้มีอาชีพที่เรียกว่าลูปเปอร์ มือปืนที่คอยฆ่าเหยื่อที่ถูกส่งมาจากอนาคตปี 2072 ห่างจากปีที่โจอยู่ 30 ปี แต่เหยื่อรายล่าสุดที่ทำให้โจทำงานพลาดก็คือ ตัวของเขาเองที่ถูกส่งมาจากอนาคต โจเด็กจึงต้องหาทางกำจัดโจแก่ (ผู้ที่คิดว่าโจแก่ควรตายได้แล้วตามลูปที่วนซ้ำ) แต่โจเด็กก็ยังสับสนเพราะโจแก่ก็คือตัวของเขาที่ฆ่าไม่ลง ขณะโจแก่นั้นเก๋าและรู้ไต๋โจเด็กดีทุกอย่าง และมีแผนการบางอย่างเพื่อจะเปลี่ยนอนาคตด้วย หนังชวนลุ้นกับเส้นไทม์ไลน์ที่หักทฤษฎีเวลาของหนังเรื่องอื่นไปพอสมควร แต่ก็ทำให้ได้ลุ้นเพราะอนาคตใหม่อาจไม่เหมือนกับอดีตเดิม ๆ ก็ย่อมเป็นไปได้

อันดับ 9 Source Code (2011) (Score 7.5/10)

Source Code (2011)
  • นักแสดง: Jake Gyllenhaal, Michelle Monaghan, Vera Farmiga, Jeffrey Wright
  • ผู้กำกับ: Duncan Jones (Moon, Mute, Warcraft)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 32 / 147 ล้านเหรียญฯ
  • หมวดของความไซไฟ: หนังย้อนเวลาวนลูป-มิติคู่ขนาน
  • สนุกยังไง: หนึ่งในหนังวนลูปตายแล้วตายอีกที่สนุกที่สุดเรื่องหนึ่ง และจะเรียกว่าหนังหักมุมกลาย ๆ ก็ไม่ผิดนัก เพราะสำหรับใครที่ได้ดูครั้งแรก เมื่อดูไปถึงกลาง ๆ เรื่องก็คงจะช็อกพอ ๆ กับ “โคลเตอร์” พระเอกในเรื่องเช่นกัน โคลเตอร์ที่ร่วมงานทดลองของรัฐบาลในการแฝงความคิดเข้าไปยังร่างของบุคคลอื่น และมีเวลา 8 นาที ในร่างนั้นเพื่อหาทางยับยั้งเหตุการณ์ระเบิดรถไฟที่เดินทางไปชิคาโก แต่แน่นอนว่า เขาไม่สามารถหาคนร้ายที่วางระเบิดหรือยับยั้งการระเบิดนั้นได้ และทุกครั้งที่เขาตายทุกอย่างก็จะกลับไปเริ่มใหม่ในเฮลิคอปเตอร์ที่ตกอยู่ในอัฟกานิสถาน โดยเขาต้องคุยกับนายทหารหญิงปลายสายที่ดูมีลับลมคมไหนกับภารกิจแสนงงงวยนี้

อันดับ 8 Predestination (2014) (Score 7.5/10)

Predestination (2014)
  • นักแสดง: Ethan Hawke, Sarah Snook, Christopher Kirby, Christopher Sommers
  • ผู้กำกับ: Michael and Peter Spierig (Jigsaw, Daybreakers, Winchester)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: ทุนสร้างไม่ปรากฎ / 4 ล้านเหรียญฯ
  • หมวดของความไซไฟ: หนังย้อนเวลา-มิติคู่ขนาน-หักมุม
  • สนุกยังไง: เป็นหนังย้อนเวลาและมิติคู่ขนานที่ตอนดูในโรงคงต้องร้องออกมาตอนที่หนังเฉลยว่า เล่นกันแบบนี้เลยเหรอ! เพราะถือว่าหักทฤษฎีเวลาของหนังส่วนใหญ่พอสมควร รวมถึงยังไม่เคยเห็นใครกล้านำเสนอหนังย้อนเวลาด้วยมุมมองนี้ พูดมากกว่านี้คงสปอยล์และอยากให้ดูรอบแรกเองมากกว่าสำหรับคนที่ยังไม่เคยดู เรื่องย่อก็คือ พระเอกคือเจ้าหน้าที่ทางการที่เรียกว่า Temporal Agent ประจำหน่วยงานที่ชื่อว่า Predestination ที่ทำงานยับยั้งอาชญากรรม ด้วยการเดินทางย้อนเวลาไประงับเหตุก่อนเกิดเหตุการณ์จริง เขาทำหน้าที่ฝึกปรือเจ้าหน้าที่หญิงคนใหม่ ขณะเดียวกันก็เกิดเหตุมือระเบิดอาละวาด ทำให้ทั้งคู่ร่วมมือกันในการตามยับยั้งอาชญากรรายนี้ แต่ก็พบว่าต้องตามหลังอยู่ก้าวหนึ่งเสมอ

อันดับ 7 Gravity (2013) (Score 7.7/10) -มีใน Netflix

Gravity (2013)
Gravity (2013)
  • นักแสดง: Sandra Bullock, George Clooney, Ed Harris
  • ผู้กำกับ: Alfonso Cuarón (Roma, Children of Men, Harry Potter and the Prisoner of Azkaban)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก : 100 / 732 ล้านเหรียญฯ
  • หมวดของความไซไฟ : หนังนักบินอวกาศติดอยู่ในอวกาศ
  • สนุกยังไง: หนังไซไฟที่เข้าถึงออสการ์มากที่สุดในรอบ 10 ปีนี้ ชนะ 7 รางวัลออสการ์รวมถึงผู้กำกับยอดเยี่ยมและถ่ายภาพยอดเยี่ยม กับซีน Long-take เปิดเรื่องบนอวกาศยาวนาน 20 นาทีและตลอดทั้งเรื่องที่ถ่ายทำฉากอวกาศได้สวยงามหมดจด เรื่องราวของ “ดร.ไรอัน สโตน” วิศวกรด้านการแพทย์ที่ปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศเป็นครั้งแรก ร่วมกับ “แม็ตต์ โควัลสกี้” นักบินอวกาศมากประสบการณ์ แต่ระหว่างที่ออกไปเดินสำรวจอวกาศกันอยู่นั้น ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นสถานีอวกาศพังสิ้นสภาพจนสโตนและโควัลสกี้ต้องลอยคว้างในอวกาศ พวกเขาจะต้องพาตัวเองไปให้ถึงสถานีอวกาศอีกแห่งที่ใกล้ที่สุดเพื่อขึ้นยานกลับโลก

อันดับ 6 Ex Machina (2014) (Score 7.7/10)

Ex Machina (2014)
  • นักแสดง: Osca Isaac, Domhnall Gleeson, Alicia Vikander
  • ผู้กำกับ: Alex Garland (Annihilation, Writer-28 Days Later, Sunshine, Never Let Me Go)
  • ทุนสร้าง/รายได้ทั่วโลก: 15 / 36 ล้านเหรียญฯ
  • หมวดของความไซไฟ: หนังหุ่นยนต์มีชีวิต
  • สนุกยังไง: หนังมีทีมนักแสดงนำที่โด่งดังและคว้าออสการ์กันหมดแล้วทุกวันนี้เคยเล่นกันตอนยังไม่ดัง ทั้งสองนักแสดงจาก Star Wars ไตรภาคหลังและลารา ครอฟท์คนล่าสุด หนังยังเป็นผลงานของผู้กำกับหนังไซไฟปีนบันไดดูสุดล้ำเรื่อง Annihilation ที่มี Natalie Portman นำแสดงด้วย ส่วนเรื่องนี้เล่าถึงรักสามเส้าของ เคเล็บ โปรแกรมเมอร์ที่ถูกเลือกให้ไปทดสอบโครงการลับของกูรูเทคโนโลยี ผู้ปราดเปรื่องและร่ำรวย โดยทดสอบกับหุ่นยนต์หญิงสาว ซึ่งเป็นงานที่เขาออกแบบมาล่าสุด เธอที่มีความคล้ายกับมนุษย์จริง ๆ แต่สิ่งที่แคเล็บไม่รู้ก็คือ เขาถูกดึงเข้าสู่เกมหลอกล่อโรคจิตระหว่างผู้สร้างกับหุ่นยนต์ แถมยังนำพาไปสู่เรื่องราวความหึงหวงระหว่างผู้สร้างและผู้ถูกสร้างอีกด้วย

(กดอ่านต่อหน้า 2 ได้เลย)