Fast & Furious ภาค 7 หรือที่ใช้ชื่อในการฉายที่สหรัฐฯ ว่า Furious 7 เข้าฉายในปี 2015 และกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดของแฟรนไชส์ Fast Saga ทำรายได้รวมทั่วโลกไปกว่า 1,500 ล้านเหรียญฯ แต่อย่างที่แฟนหนังทั่วโลกทราบกัน ระหว่างการถ่ายทำทุกคนต้องสูญเสียนักแสดงนำอย่าง Paul Walker ไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2013 ซึ่งกระทบกับการถ่ายทำหนังทันที เพราะเพิ่งถ่ายฉากที่มี Paul ไปแค่ 50%

นั่นก็ทำให้หนังต้องเลื่อนฉายจากกำหนดเดิมในปี 2014 ไปอีก 1 ปี เพื่อให้น้องชายแท้ ๆ ทั้งสองคนของ Walker อย่าง Cody และ Caleb มาแสดงแทนและทีมงานใช้ CGI สวมหน้าของ Paul ทับเข้าไป รวมกับฉากเก่า ๆ จากภาคก่อนที่ใช้เทคนิคตัดต่อเข้าช่วย หนังยังมีฉากจบของหนังที่น่าจดจำที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ อย่างที่ Vin Diesel นักแสดงนำอีกคนบอกไว้ว่า “มีไม่กี่ครั้งหรอกที่แฟนหนังผู้ชายทั่วโลกจะมาร่วมหลังน้ำตาในหนังเรื่องเดียวกัน” แต่แฟน ๆ หนังก็ย่อมสงสัยว่า แล้วตอนจบในฉบับดั้งเดิมก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรล่ะ?

Chris Morgan ผู้เขียนบทหนังแฟรนไชส์ Fast Saga มาทุกภาคตั้งแต่ภาค 3 ได้ออกมาเปิดเผยว่า ฉากตอนจบของภาคนี้ก็ยังคงจะเกี่ยวข้องกับตัวละคร “โดมินิค ทอร์เร็ตโต” และ “ไบรอัน โอคอนเนอร์” แต่จะไม่ได้เป็นฉากเศร้าอย่างที่เห็น เพราะหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในภาค 7 นี้กับการจัดการ “ก็อดส์ อาย” โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต้นเหตุความวุ่นวายของภาคนี้ที่จะตรวจจับผู้คนต่าง ๆ บนโลกเพื่อทำลายได้อย่างง่ายดาย

ฉากแอ็กชันในหนังยังคงเป็นแบบเดิมที่ดอมต้องต่อสู้กับเดคคาร์ด ชอว์ และไบรอันก็ไปแท็กทีมสู้กับก็อดส์ อาย ร่วมกับแฮ็คเกอร์สาวแรมซีย์ (ในฉากท้าย ๆ นั้นหลายตอนที่ Paul ก็ไม่ได้อยู่ร่วมแสดงแล้ว) ทีม Fast ทั้งหมดจะจบภาคนี้ด้วยการรับภารกิจใหม่ที่ต้องไปลุยกันต่อในภาค 8 โดยตัวละครของไบรอันถูกกำหนดไว้ให้เป็นสัญลักษณ์ของคนที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างครอบครัวของตัวเอง และครอบครัวใหญ่ของ Fast ที่ยังคงต้องทำภารกิจต่าง ๆ ต่อไป

เรื่องราวตั้งแต่ภาค 8 ที่ Chris Morgan วางแผนโครงเรื่องเอาไว้ จะมีความเกี่ยวข้องและจุดศูนย์กลางของการดำเนินเรื่องอยู่ที่ตัวละคร “มิสเตอร์โนบอดี้” ที่รับบทโดยนักแสดงมือเก๋า Kurt Russell ปรากฎตัวครั้งแรกในภาค 7 และภาค 8 ก็ยังกลับมา นอกจากนั้นอีกตัวละครที่จะมีบทบาทสำคัญก็คือตัวร้ายหญิง “ไซเฟอร์” ของนักแสดงออสการ์ Charlize Theron อย่างไรก็ตาม Morgan ไม่ได้อ้างถึง โครงเรื่องของ Vin Diesel ผู้อำนวยการสร้างอีกคนของหนัง Fast Saga ที่บอกมาตลอดว่า หนังจะจบอวสานที่ภาค 10 และภาค 8-10 จะเป็นไตรภาคที่มีเรื่องราวต่อเนื่องกัน

ในตัวอย่างของหนังภาค 9 เปิดขึ้นมาด้วยเพลง See You Again ซึ่งผู้กำกับ Justin Lin ที่กลับมาด้วยกับภาคนี้ ชวนให้สงสัยว่าหรือตัวละครไบรอันของ Paul Walker จะกลับมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ Vin Diesel ก็เคยลงรูป Cody Walker พี่ชายของ Paul มาเยี่ยมกองถ่ายด้วย แต่ล่าสุด นักแสดงร่วมในเรื่องอย่าง Tyreese Gibson ก็ได้เปิดเผยว่า ครอบครัวของ Paul อยากให้บทไบรอันสิ้นสุดลงแค่ภาค 7 เท่านั้น หนัง Fast 9 จะเข้าฉาย 2 เมษายน 2021 ถูกเลื่อนไปอีกหนึ่งปีจากที่ทีแรกนั้น ในเวลานี้เราคงจะได้ดูหนังภาคนี้กันแล้วถ้าไม่มีโควิด-19

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส