“ตั้งแต่นี้ไปผมจะไม่กอดพี่ในฐานะน้องชายอีกแล้วนะ

คำพูดที่อำพลได้หว่านเสน่ห์ให้คนดูฟินเคลิ้มไว้ใน Ep7 ก่อนที่จะพักการออกอากาศเพราะสถานการณ์ โควิด-19 เชื่อว่าทำให้แฟนคลับหลายคนอารมณ์ค้าง และรอคอยการกลับมาสานต่อสิ่งที่หย่อนเชื้อเอาไว้กันอย่างใจจดใจจ่อ ก็เพราะพระ-นางคู่นี้ ช่างชวนจิ้นจนหยุดไม่ได้น่ะสิจ๊ะ แต่สิ่งที่รอคอยก็สร้างความผิดหวังเล็กน้อยเพราะการกลับมาครั้งนี้ เป็นการเริ่มฉายใหม่ 7 ตอนก่อนที่จะหยุดออกอากาศ

ซึ่งชั่วโมงนี้เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ‘ก็อต จิรายุ’ ในบท ‘อำพล’ จากละครเรื่อง กระเช้าสีดา 2021 กำลังเป็นที่จับตามองและทำให้ฐานแฟนคลับของผู้ชายคนนี้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่แน่นอยู่แล้วให้แน่นมากขึ้นไปอีก เพราะอำพลเวอร์ชันนี้นั้น!! พ่อคุณเอ้ย โพหลัวไม่อ่อนแรงเลยจริง ๆ ค่ะคุณแม่ขา…ขอบคุณพี่ฉอดที่จัดให้แฟนคลับได้แอบลุ้นไปกับความรักของ น้ำพิงค์ และ อำพล ซึ่งตอนนี้ก็เดินทางมาถึงตอนต่อที่ทุกคนรอคอยกันแล้วละ และเราก็เห็นแววมาแล้วว่า แซ่บถึงใจและหวานเวอร์ อบอุ่นละมุนตุ้นกว่าเดิมกันเห็น ๆ

หากจะพูดถึงกระเช้าสีดาเวอร์ชันนี้ก็ต้องบอกว่า เนื้อหาต่าง ๆ นั้น ได้เติมต่อออกมาจากบทประพันธ์ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปจากเวอร์ชันเก่าในปี 2537 มากมายเลยทีเดียว กับเรื่องราวของ น้ำพิงค์ (นุ่น วรนุช) สาวสวยที่เพียบพร้อมทั้งฐานะและชาติตระกูล เธอตัดสินใจแต่งงานกับ ลือ (ปีเตอร์ คอร์ปไดเรนดัล) อดีตนายแบบที่ผันตัวมาทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งไม่ว่าใครจะเตือนว่าลือเป็นคนเจ้าชู้ยังไง น้ำพิงค์ก็มั่นใจที่จะเลือกลือ จนกระทั่งเธอจับได้ว่าลือได้แอบมีความสัมพันธ์สุดแซ่บกับ รำนำ (กรีน อัษฎาพร ) เด็กในบ้านที่ลือได้อุปการะไว้ การเอาคืนของน้ำพิงค์ในครั้งนี้ก็ทำให้ลือแทบสิ้นเนื้อประดาตัว แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ ชีวิตใหม่ของน้ำพิงค์ที่มีมี อำพล (ก็อต จิรายุ) น้องชายของเพื่อนสนิท มาอาสาเยียวยาจิตใจจะเป็นไปดั่งหวังของคนดูหรือไม่ นั่นแหละค่ะ

และแน่นอนว่าความแซ่บถึงใจตามสไตล์ CHANGE2561 นั้น อื้อหืม ไม่ทิ้งลายเลยจริง ๆ จาก Ep1-Ep7 ที่ผ่านมา จูบจริง ตบจริงและสิ่งที่เห็นว่า นี่คือการเอาใจแฟนคลับแบบสุด ๆ เลยก็คือ บทของอำพลและน้ำพิงค์ที่มาสานต่อความฟิน ที่ค้างเอาไว้นั้นแทบจะเป็นเส้นเรื่องผสมจนสามารถแยกไปทำละครเรื่องใหม่ได้อีกเรื่องกันเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นการแบ่งภาคกันชัดเจนระหว่าง อำพล ผู้ชายดี ๆ ที่ไม่ควรมีคนเดียวในโลก กับ ลือ ผู้ชายห่วย ๆ ที่ควรหมดจากโลกไปเสียที กันแบบเห็น ๆ งานนี้ก็ต้องชม ปีเตอร์ด้วยว่าสามารถสวมบทลือให้เราสมน้ำหน้าได้แนบเนียนดีจริง ๆ

Ep8 ที่เห็นตัวตนของอำพลชัดเจนขึ้น

ไม่ไหวบอกไหวค่ะสำหรับบทนี้ที่ทำเอาสาว ๆ คอยเอาใจช่วยและจิตใจอ่อนยวบไปกับปมชีวิตของอำพล ก็เพราะชีวิตที่ผ่านมานั้นช่างขมขื่นและมีจุดอ่อนอยู่ที่ ‘ความรัก’ เวอร์ชันเก่าเป็นอย่างไรจำไม่ได้แล้ว แต่เวอร์ชันนี้เราได้เห็นชัดเจนเลยว่าเป็นการเขียนบทใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิม และดึงพลังของนักแสดงออกมาฟาดฟันกันได้แบบถึงพริกถึงขิง โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่อำพลต้องปะทะคารมณ์กับ ท่านจรินทร์ (นพพล โกมารชุน) พ่อของตัวเอง ที่ทำให้เราเห็นตัวตนของตัวละครตัวนี้ได้ชัดเจนและหลงรักเขามากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

จนพูดได้ว่ากระเช้าสีดาเวอร์ชันนี้บรรจุไปด้วยอารมณ์และสันดานของมนุษย์ทุกสปีชีส์เอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งความเห็นแก่ตัวที่แสดงออกมาในตัวของท่านจริณทร์ จนอำพลไม่สามารถเรียกผู้ชายคนนี้ว่าพ่อได้เต็มปาก เรียกได้ว่ารังเกียจที่จะเรียกว่างั้นเถอะ ทั้งความทะยานอยากจนไม่รู้จักผิด ชอบ ชั่ว ดี ของรำนำ ที่อยากจะพาชีวิตของตัวเองไปอยู่ในจุดที่สูงและได้รับการยอมรับ ความอยากมีตัวตนกับการหาทางออกด้วยวิธีที่ผิดต่อศีลธรรมก็เต็มใจที่จะทำ ซึ่งหากจะว่ากันตามตรงแล้ว ละครเรื่องนี้มีเนื้อเรื่องไม่ต่างจากละครเรื่องอื่น ๆ เท่าไหร่นักที่ สามีนอกใจ เมียจับได้ เลิกกัน และเมียน้อยทะเยอทะยานลับฝีปากกันกับเมียหลวง ตบ จิก และพยายามจะคว้าทุกอย่างมาเป็นของตัวเองด้วยการ แย่งชิง

แต่สิ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ จนกลายเป็นที่สนใจและอดพูดถึงไม่ได้จริง ๆ ก็เห็นจะเป็นความฉลาดสู้ของเมียหลวง ที่เห็นคุณค่าในตัวเอง มีสมอง ที่จะไม่ลดตัวลงไปตบแย่งผู้กับใครแน่นอน แต่วางแผนให้คนอื่นไปทำแทน แสบสุด ๆ และเคมีพระนางที่ฟินไม่ไหวของ ก็อตและนุ่น ที่การกลับมาออกอากาศคราวนี้ แสงสว่างแห่งความฟินก็เจิดจ้ามาให้เห็นกันแล้วแบบมีความหวัง กับความอบอุ่นและรักแท้ที่กำลังจะมอบความเป็นอมตะให้นางเอกของเราในไม่ช้า ว้ายยย ก็การกินเด็กเขาว่าจะเป็นอมตะนี่นะ จริงป่ะล่ะ

ยืนยันสกิลกินเด็กของนุ่น วรนุช

จากเคมีกรี๊ดสลบที่นุ่น วรนุช ได้ทำไว้กับ จอส เวอาห์ ในเกมรักเอาคืน คราวนี้คุณแม่เอาอีกแล้วจ้าาา ด้วยการยืนยันสกิลกินเด็กให้ชัด ๆ กันไปเลยว่า ฉันนี่แหละคือสตรีที่เด็กหนุ่มใฝ่ฝันหา แถมว่าที่สามีเด็กในคราวนี้ก็เป็นผู้ชายที่อบอุ่นและพร้อมจะอยู่เคียงข้างไม่ห่างไปไหน แถมยังไม่หวั่นไหวในทุกสถานการณ์ซะด้วยสิ และเป็นความรักมั่นคงยาวนาน ไม่สนอายุ ไม่แคร์อดีต สนใจก็เพียงแต่ตัวตนของผู้หญิงที่ตนรักเท่านั้น เรียกได้ว่ามีความเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ สุขุม รู้จักคิด ที่สาว ๆ สามารถฝากชีวิตไว้ได้แบบสบายใจ ขนาดนี้เลยละจ้ะอำพลของเรา

ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มีค่าเพียงพอและนุ่น วรนุช ในบทของ น้ำพิงค์ ก็ดันมีสิ่งนั้นอย่างครบถ้วน จากการวางแผนเอาคืนลืออย่างแยบยลและยืนยันความจริงข้อหนึ่งเลยว่า อย่าทำให้ผู้หญิงเจ็บ เพราะเมื่อถึงเวลาเอาคืนคุณจะเจ็บกว่าหลายเท่า และน้ำพิงค์ไม่ใช่นางเอกที่จะยอมให้หมากัดฟรี ๆ จากการฟาดฟันกับรำนำที่ไม่มีใครยอมใคร จนเห็นความต่างของตัวละครอย่างชัดเจน บ่งบอกถึงคุณค่าและมันสมองที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว

งานนี้ กรีน อัษฎาพร ก็ประชันฝีมือกับรุ่นใหญ่อย่างนุ่นได้สมบทบาท ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่ปูเนื้อเรื่องมาทั้งหมดตั้งแต่ต้น น้ำพิงค์ไม่ทีวันที่จะกลับไปกินซากเน่าอย่างสามีเก่าแน่นอน เพราะอาหารหลักหวานกรุบกรอบก็รออยู่ตรงหน้านี้แล้วเห็น ๆ ก็ภาวนาให้บทที่เขียนขึ้นมาใหม่อีกหลายตอนจะเห็นบทสรุปที่ตรงใจผู้ชม ซึ่งคิดเห็นไปในทางเดียวกันซะเป็นส่วนมาก คือรักสมหวังฟินหวานของคู่ ก็อต-นุ่น ให้เป็นกำไรของการรอคอย และจุดจบที่เดาได้ไม่ยากของตัวละคร รำนำ ที่ถึงแม้ไม่เคยอ่านนิยายหรือเคยดูเวอร์ชันเก่ามาก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่คนดูตั้งตารอดูเลยก็คือ จุดจบนั้นจะสาแก่ใจอิช้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

จากน้องชายมาเป็นชายคนรัก

สมมติว่าเรื่องนี้คือความรักของหญิงชายคู่หนึงที่อายุต่างกันหลายปีมาก ๆ ฝ่ายหญิงมองผู้ชายคนนี้อย่างน้องชายมาโดยตลอด รัก สนิทสนม มีความผูกพันฉันพี่น้องร่วมโลกกันมายาวนาน อะไรที่จะทำให้ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนความรู้สึกจาก น้องชายมาเป็นชายคนรัก เชื่อว่านี่คือโจทย์ยากพาฟินที่หลายคนรอคอยและเป็นการบ้านที่ผู้จัดและผู้เขียนบทต้องขบคิด ซึ่งเขาคงคิดกันเสร็จเรียบร้อยแล้วละถึงเริ่มออนแอร์มาได้ แต่จะสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้มากแค่ไหน และโจทย์ที่ว่าจะร้อยเรียงเรื่องราวได้สมเหตุสมผลหรือไม่

เพราะปมที่ผูกเอาไว้ให้กับความสัมพันธ์ชนิดนี้ ไม่ธรรมดา ไหนจะฐานะทางสังคมที่ฝ่ายชายเป็นลูกของผู้ชายที่บ้าอำนาจและอยู่บนเส้นทางทุจริต เรียกว่าเป็นอันธพาลในคราบนักการเมืองก็ไม่ผิด การจองล้างจองผลาญของรำนำที่บ้าไม่เลิก การตามวอแวของสามีเก่าที่ไม่เจียมบอดี้และน่ารำคาญสุด ๆ ในฐานะคนดู ไม่สงสารอีตาลือนี่เล้ยและอุปสรรคใหญ่ก็คือ ความรู้สึกที่ต้องเปลี่ยนจากน้องชายมาเป็นชายคนรัก อะไรทำให้น้ำพิงค์มองอำพลในฐานะใหม่ได้อย่างสนิทใจ จะเป็นการมองที่สมเหตุสมผลและสมจริงแค่ไหน ในบริบทของหัวใจผู้หญิงที่ชื่อน้ำพิงค์ เป็นเรื่องที่น่าจับตารอดูมากกว่าจุดจบของรำนำซะแล้ว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส