เมื่อพูดถึงสิ่งของต้องคำสาปในโลกของอนิเมะ หลายคนคงจะรู้จักของต้องคำสาปมากมายที่มอบหายนะให้กับผู้ใช้ ที่มีทั้งทางตรงทางอ้อมไม่ว่าจะเป็นสมุดต้องสาปที่เขียนชื่อใครคนนั้นก็จะตาย แต่คนใช้สมุดเล่มนี้ก็จะไม่ได้ไปทั้งสวรรค์หรือนรก หรือจะเป็นเหล่าดาบต้องสาปที่ โรโรโนอา โซโล (Roronoa Zoro) เคยใช้ผ่านมือมาแล้วหลายต่อหลายเล่ม ที่ชื่อหรือรูปลักษณ์ของมันก็บอกอยู่แล้วว่าคือของต้องคำสาป แต่ก็มีอุปกรณ์สิ่งของการกระทำบางอย่างในอนิเมะที่ถ้าเราไม่ดูดี ๆ หรือเก็บมาคิดให้รอบคอบ เราจะไม่รู้เลยว่าสิ่งของเหล่านี้คือสิ่งของต้องสาปที่มีโทษให้กับผู้ใช้และคนรอบข้าง ที่บางอย่างมันร้ายแรงขนาดถึงชีวิตตนเองและของผู้อื่นได้เลย หรือบางอย่างก็ร้ายแรงขนาดสามารถใช้ครองโลกได้เลยก็มี แต่บางอย่างก็เป็นให้คำสาปแบบเล็ก ๆ ที่ทำให้ผู้ถูกกระทำบ่นออกมาแต่ก็ยังทำมัน เรามาดูกันดีกว่าว่ามีของต้องสาปอะไรที่เราคิดไม่ถึงในโลกของอนิเมะบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย

หน้ากากคุ้มภัยที่สร้างหายนะมาให้คนใส่ จากเรื่อง Kimetsu no Yaiba

Kimetsu no Yaiba

เริ่มต้นอุปกรณ์ต้องสาปชิ้นแรกจากเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba) กับสิ่งที่เรียกว่าหน้ากากคุ้มภัย ที่น่าจะเป็นเครื่องรางนำโชคให้คนสวม แต่มันกลับนำหายนะมาสู่ลูกศิษย์ทุกคนที่เข้าสอบเป็นนักล่าอสูร ที่ใครเคยอ่านหรือดูอนิเมะมาแล้วจะทราบดีว่าลูกศิษย์ทุกคนของ ซาคอนจิ อูโรโคดากิ (Sakonji Urokodaki) ที่หลังจากจบหลักสูตรวิชาเพลงดาบวารีแล้ว ทุกคนก็จะต้องไปสอบเพื่อเป็นนักล่าอสูร โดยผู้เป็นอาจารย์อย่างซาคอนจิก็จะทำหน้ากากหมาจิ้งจอกให้ศิษย์ เพื่อเป็นเครื่องรางคุ้มภัยให้ลูกศิษย์ปลอดภัยในการสอบ แต่เมื่อไปถึงสนามสอบดันมีอสูรตนหนึ่งที่แค้นซาคอนจิ เพราะมันเคยถูกซาคอนจิจับมาขังในสนามสอบเป็นเวลากว่า 50 ปี มันจึงแค้นซาคอนจิมาก ๆ ที่เมื่อมันเจอผู้เข้าสอบที่สวมหน้ากากมันจะไล่ล่าฆ่าทิ้งจนหมดเพื่อเอาคืน ซึ่งแทนที่หน้ากากนี้จะเป็นเครื่องรางนำโชคกลับกลายเป็นของต้องสาปที่พาลูกศิษย์ไปตายเสียอย่างนั้น

Kimetsu no Yaiba

หนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ที่หยุดซื้อไม่ได้ จากเรื่อง Gintama

Gintama

นับว่าเป็นปัญหาสำหรับใครหลาย ๆ คนโดยเฉพาะในยุคก่อน ที่หนังสือและสิ่งตีพิมพ์คือของยอดนิยมที่หลายคนซื้อมาอ่านเพื่อติดตามข่าวสาร ที่ในตอนนี้สิ่งเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปโดยเฉพาะหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ในบ้านเราที่ล้มหายตายจากไปหมดแล้ว แต่ในญี่ปุ่นและในเรื่อง ‘Gintama’ ก็ยังคงมีการอ่านหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์อยู่ และคนที่ติดหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ก็คือ ซากาตะ กินโทกิ (Sakata Gintoki) คุณลุงที่กำลังเข้าสู่วัยกลางคนที่ยังคงติดการอ่านหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ ที่อ่านไปก็บ่นไปว่าจะซื้อมาอ่านทำไมทุกอาทิตย์เปลืองเงินแถมรกบ้านอีก และพอการ์ตูนที่เราชอบออกรวมเล่มทั้งที่อ่านไปแล้วก็ยังซื้อมาอ่านซ้ำอีกรอบ มันเหมือนวงจรที่ไม่รู้จบที่เมื่อเรารู้สึกตัวอีกทีก็ซื้อมันมาอ่านอีกแล้ว นั่นคือสิ่งที่กินโทกิบ่นออกมาระหว่างอ่านหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ แถมครั้งหนึ่งระหว่างที่กินโทกิกำลังไปซื้อหนังสือก็เกิดอุบัติเหตุด้วย เมื่อเป็นแบบนั้น (อ้างอิงจากคำพูดของชายที่กำลังเข้าสู่วัยกลางคน) เราจึงขอฟันธงว่าหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์คือหนึ่งในสิ่งของต้องสาปที่ทำให้เราหลงใหลจนซื้อมาอ่านแบบไม่รู้จบนั่นเอง

Gintama

เครื่องเกม Sega ทำให้ชายวันกลางคนบ้าเกมจนแยกความจริงไม่ออก จากเรื่อง Uncle from Another World

Uncle from Another World

คราวนี้มาดูของต้องสาปที่จะมีผลเฉพาะบางคนเท่านั้น และไม่ใช่แค่คนในโลกอนิเมะแต่ในโลกแห่งความเป็นจริงหลายคนก็ติดของต้องสาปนี้ นั่นก็คือเครื่องเกมหรือวิดีโอเกมที่เรารู้จัก ซึ่งเราจะได้เห็นผู้คนหลงรักการเล่นเกมจนติดงอมแงม บางคนไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากเล่นเกม ขณะที่หลายคนก็เสียเงินมากมายเพื่อเติมเกมให้ตัวละครในเกมเก่งขึ้น เหมือนกับชายวัยกลางคนที่เคยไปต่างโลกมาแล้วและกลับมาได้อย่างคุณน้าของ ทาคาฟุมิ ทาคาโอกะ (Takafumi Takaoka) ที่นอนเป็นผักมากว่า 17 ปี ที่จู่ ๆ คุณน้าก็ฟื้นขึ้นมาและบอกว่าตนเองไปต่างโลกมาพร้อมกับได้พลังต่าง ๆ ในต่างโลกติดตัวมาด้วย น้าหลานคู่นี้เลยจะใช้พลังนี้หาเงินในเรื่อง ‘Uncle from Another World’ หรือชื่อไทยอย่าง “ยอดคุณน้าจากต่างโลก” ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณน้าที่อยู่ต่างโลกยังมีกำลังใจไม่ย่อท้อในการใช้ชีวิตที่ยากลำบากมาได้ก็มาจากความรักที่มีต่อเครื่องเกม ‘Sega’ ที่เป็นรักครั้งแรกและรักเดียวของชายวัยกลางคน ๆ นี้ ซึ่งความรักของเขานั้นมีมากมายขนาดที่แยกโลกแห่งความจริงกับโลกเกมไม่ได้เลยทีเดียว จนหลายครั้งเขาก็เอาสิ่งที่อยู่ในเกมมาพูดจนคนคิดว่ามันคือความจริง แต่ตัวเองกลับแยกโลกแห่งความจริงกับโลกต่างมิติที่ตัวเองไปมาได้เสียอย่างนั้น และด้วยคำสาปของวิดีโอเกมจึงทำให้คุณน้าหลุดความเบียว (ความคลั่งไคล้จนแยกความจริงไม่ออก) เกี่ยวกับเกมออกมาหลายครั้ง จนหลานชายอย่างทาคาฟุมิบอกว่าวิดีโอเกมมันคือของต้องสาปในยุคสมัยนี้จริง ๆ

หมายเหตุ รูปด้านล่างคือคุณน้าที่ใช้เวทมนตร์แปลงร่างเป็นเอลฟ์สาวจากต่างโลก เพื่อเล่นเกมเครื่อง ‘Sega’ ผ่านช่อง ‘YouTube’ ให้คนดู จนได้ยอดคนดูถล่มทลายต่างกับตอนที่เป็นคุณน้ามาเล่นเกมให้คนดู

Uncle from Another World

คำสาปจากเสียงเพลงที่ร้องได้แย่

Doraemon
Kaguya-sama wa Kokurasetai
Detective Conan

อีกหนึ่งคำสาปที่มีเฉพาะบุคคลเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้ กับการร้องเพลงแบบไม่เอาไหนจนไม่สามารถฟังได้ ขนาดที่ว่าคนฟังต้องเอามือปิดหูบางคนถึงกับเป็นลมอาเจียนเข้าโรงพยาบาลเลยก็มี โดยในโลกอนิเมะนั้นจะมีคนที่มีคำสาปร้องเพลงได้แย่ขนาดนี้เท่าที่คิดออกก็มีอยู่ 3 คน เริ่มจากคนแรกที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี กับชายผู้มีฉายาจากเพื่อน ๆ ว่า ‘Giant’ หรือชื่อจริงคือ โกดะ ทาเคชิ (Goda Takeshi) จากเรื่อง ‘Doraemon’ ที่พลังเสียงของเขานั้นสามารถทำคนเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว ที่ครั้งหนึ่งเสียงร้องเพลงของ ‘Giant’ หลุดไปทางสถานีถ่ายทอดสด จนทำให้ชาวญี่ปุ่นที่ได้ชมรายการรตอนนั้นเข้าโรงพยาบาล คนที่ 2 คือท่านประธานนักเรียน มิยูกิ ชิโรงาเนะ (Miyuki Shirogane) จากเรื่อง สารภาพรักกับคุณคางุยะ ซะดี ๆ หรือ ‘Kaguya-sama wa Kokurasetai’ หนุ่มหล่อเก่งสมบูรณ์แบบแต่มีข้อเสียตรงที่การร้องเพลงของท่านประธานที่แย่มาก ๆ ขนาดคนฟังถึงกับเป็นลมเลยทีเดียว ส่วนคนสุดท้ายนั้นถือว่าดีกว่าทั้ง 2 คนก่อนหน้านี้ กับเด็กชายที่ตัวเป็นเด็กแต่สมองก็เป็นผู้ใหญ่อย่าง เอโดงาวา โคนัน (Edogawa Conan) จากเรื่อง ‘Detective Conan’ ที่เสียงร้องของโคนันนั้นแค่ร้องไม่ตรงกับจังหวะเท่านั้น แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้คนฟังรู้สึกแย่ตอนที่ฟังโคนันร้องเพลง ซึ่งหลายคนก็เรียกสิ่งนี้ว่าคำสาปเฉพาะบุคคล ที่อาจจะร้ายแรงยิ่งกว่าวาจาต้องสาปของ อินุมากิ โทเกะ (Inumaki Toge) จากมหาเวทผนึกมารเสียอีก

Doraemon
Kaguya-sama wa Kokurasetai
Detective Conan

การ์ดพระเจ้าที่สามารถครองโลกได้ จากเรื่อง Yu-Gi-Oh!

Yu-Gi-Oh!

คุณเคยคิดกันไหมว่าสิ่งของเล็ก ๆ อย่างการ์ดกระดาษ 3 ใบที่เรียกว่าการ์ดพระเจ้าในเรื่อง เกมกลคนอัจฉริยะ หรือ ‘Yu-Gi-Oh!’ นั้นจะเป็นดั่งของต้องสาปที่มีพลังมหาศาล ขนาดที่ถ้าใครรวบรวมการ์ดนี้ครบทั้งสามใบจะมีพลังอำนาจในการครองโลกได้ แต่พลังอันยิ่งใหญ่กลับถูกใส่ลงบนกระดาษเสียอย่างนั้น แต่เห็นเป็นกระดาษแบบนี้ความร้ายกาจของการ์ดนี้มันส่งผลให้ผู้ใช้การ์ดเสียสติเป็นบ้าไปจนถึงตายได้เลย ถ้าคน ๆ นั้นไม่ใช่คนที่ถูกเลือกหรือมีจิตที่เข้มแข็งตอนใช้การ์ดในการแข่ง นี่ยังไม่นับการเอาการ์ดพระเจ้าไปทำเป็นของเลียนแบบของปลอม คนทำการ์ดปลอมขึ้นมาก็จะถูกเทพเจ้าลงโทษอย่างหนักถึงชีวิต นี่ยังไม่นับคนที่คิด (แค่คิด) จะทำลายการ์ดก็จะถูกเทพเจ้าในการ์ดลงโทษ จนไม่สามารถทำลายได้สุดท้ายต้องเอาไปซ่อนแทนการทำลาย ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็คือของต้องสาปชัด ๆ แถมคนที่ถูกการ์ดเทพทำร้ายในการแข่งก็รุนแรงขนคน ๆ นั้นเข้าโรงพยาบาลถึงเสียชีวิตเลยทีเดียวเลย เมื่อเป็นแบบนั้นเราจึงขอนับการ์ดพระเจ้าทั้ง 3 ใบนี้คือของต้องสาปก็แล้วกัน

Yu-Gi-Oh!

Tomie ความสวยที่ทำให้คนรักจนเกิดเป็นความเกลียด จาก คลังสยอง

 คลังสยอง

คราวนี้เปลี่ยนมาที่เรื่องราวจริงจังกันบ้าง กับคำสาปที่เรียกว่า “ความสวย” ที่เชื่อว่าสาว ๆ ทุกคนต่างก็คงอยากได้อยากสวยกันทุกคน แต่บางครั้งความสวย (นับความหล่อด้วย) บางทีก็นำภัยมาสู่ตัวคนสวยได้เหมือนกัน เหมือนอย่าง โทมิเอะ (Tomie) จากเรื่องคลังสยอง ที่ความสวยของโทมิเอะนั้นรุนแรงขนาดที่ว่า ใครที่ได้เห็นหรือสบตาเธอต่างก็หลงรักในความสวยของเธอกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือชาย ที่บางคนก็รักในตัวโทมิเอะขนาดที่ว่าอยากจะฆ่าเธอให้ตาย เพื่อให้โทมิเอะอยู่ในใจเขาคนเดียว หรือสาว ๆ หลายคนต่างอิจฉาความสวยของโทมิเอะจนฆ่าเธอทิ้ง แต่ปัญหาคือเมื่อฆ่าโทมิเอะไปแล้วแทนที่เธอจะตาย ตรงข้ามเธอกลับฟื้นคืนชีพ และมีโทมิเอะหลายคนที่เกิดจากชิ้นเนื้อที่เกิดเป็นร่างกายตัวตนใหม่ที่ไม่รู้จบ ซึ่งแต่ละร่างที่ฟื้นต่างก็โดนความสวยของตนเองสร้างปัญหาให้กับผู้คนหรือตนเองมากมาย ใครสนใจก็ไปหาอ่านหรือดูอนิเมะได้ บอกเลยว่าความสวยของโทมิเอะนั้นน่ากลัวจริง ๆ

 คลังสยอง

ความรักคือคำสาปที่น่าขยะแขยงที่สุด จากเรื่อง Jujutsu Kaisen 0  

Jujutsu Kaisen 0  

อีกหนึ่งสิ่งที่เรียกว่าเป็นคำสาปทั้งในอนิเมะและในชีวิตจริง ที่หลายคนต่างก็คงจะได้พบเจอกันมาแล้วกับสิ่งที่เรียกว่า “ความรัก” ซึ่งถ้าเราจะอธิบายเกี่ยวกับความรักในรูปแบบของคำสาปที่ชัดเจนที่สุด ก็คงต้องเป็นเรื่อง มหาเวทย์ผนึกมาร 0 หรือ ‘Jujutsu Kaisen 0’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของความรักในวัยเด็กของ ยูตะ โอคคตสึ (Yuta Okkotsu) ที่ไปทำสัญญากับเพื่อนสาวสมัยเด็กว่าจะแต่งงานด้วยเมื่อโตขึ้น แต่เด็กสาวกลับเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเสียก่อน และด้วยความรักที่มีต่อยูตะจึงทำให้เพื่อนสาวในวัยเด็กกลายเป็นคำสาป ที่คอยหึงหวงและปกป้องยูตะจนกลายเป็นคำสาประดับพิเศษที่แสนน่ากลัว ที่แม้แต่ยูตะก็ไม่สามารถควบคุมเพื่อนสาวคนนี้ได้ ซึ่งใครที่ได้ดู ‘Jujutsu Kaisen 0’ มาแล้วคงจะได้เห็นพลังแห่งความรักของเด็กสาว ที่เปลี่ยนความรักที่สวยงามให้มีตัวตนที่แสนน่ากลัวไปได้ ไม่ต่างกับโลกแห่งความจริงที่ความรักก็ทำร้ายทำลายชีวิตคนมามากมายไม่ต่างกับในการ์ตูนเรื่องนี้เลย แม้ขนาดอาจารย์ โกโจ ซาโตรุ (Gojo Satoru) ยังพูดเลยว่า “ความรักคือคำสาปที่น่าขยะแขยงที่สุด” ซึ่งมันก็ถูกต้องตามที่อาจารย์พูดมาจริง ๆ

Jujutsu Kaisen 0  

ความฝันที่กัดกินชีวิต จากเรื่อง Bakuman  

Bakuman

ปิดท้ายกับคำสาปที่ได้ฆ่าเหล่าผู้พยายามมาแล้วมากมายตั้งแต่อดีตมาจนถึงตอนนี้ กับสิ่งที่เรียกว่า “ความฝัน” ที่ไม่ว่าจะเป็นโลกแห่งความจริงหรือในการ์ตูน เราก็คงจะได้เห็นผู้คนที่ไล่ตามความฝันต้องมาล้มตายไม่ก็ย่อท้อเลิกล้มกลางทางเพราะทำความฝันนั้นไม่สำเร็จ ซึ่งที่ยกตัวอย่างได้ง่ายที่สุดก็คือเหล่านักเขียนการ์ตูนในเรื่อง ‘Bakuman’ วัยซนคนการ์ตูน ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กชายสองคนที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน ที่ไม่ใช่เพียงแค่ทั้งคู่ที่ตามความฝันนี้แต่ก็มีคนมากมายที่ทำความฝันนั้นแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายบางคนก็จบชีวิตหรือเลิกล้มทิ้งความฝันนั้นไป เพราะแม้จะพยายามทุ่มเทเท่าใดก็ทำความฝันนั้นไม่สำเร็จ จนหลายคนเรียกความฝันว่าคำสาป ที่ล่อลวงผู้คนให้เข้าไปเพื่อให้เรายอมทุ่มเททั้งเวลาความพยายามเพื่อสิ่งที่เราต้องการ ที่สุดท้ายก็ไม่เป็นผลสำเร็จตามที่เราต้องการ เหมือนอย่างคุณอาของตัวเอกที่เขียนการ์ตูนจนเสียชีวิตคากระดาษ เพราะพยายามเขียนการ์ตูนให้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าคุณมีความฝันก็จงทุ่มเทและขอให้ความฝันนั้นที่คุณหวังสำเร็จ อย่าให้ความฝันนั้นกลายเป็นคำสาปสู้กันต่อไปนักล่าฝันทุกคน

Bakuman

ก็จบกันไปแล้วกับการรวบรวมคำสาปต่าง ๆ ในโลกอนิเมะและโลกแห่งความเป็นจริงที่คุณคิดไม่ถึงหวังว่าจะถูกใจกัน เพราะเอาจริง ๆ ก็ยังมีคำสาปแบบแปลก ๆ จากการ์ตูนอีกหลายเรื่องเอาไว้มีโอกาสเราจะหยิบมานำเสนอใหม่ โดยเป้าหมายของบทความนี้ต้องการให้ผู้อ่านได้รับความสนุกของเนื้อหาไปพร้อมกับสาระ เพราะบางสิ่งที่เราคิดไม่ถึงหรือไม่ได้มองนั้นบางทีมันก็อาจจะเปลี่ยนเป็นคำสาปหรือของต้องสาปก็ได้ แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะมีแต่ข้อเสียแต่ถ้าเรารู้จักใช้หรือเข้าใจในสิ่งนั้น ๆ คำสาปก็อาจจะเปลี่ยนเป็นสิ่งดี ๆ ก็ได้ มันขึ้นอยู่กับการมองและตัดสินใจของคนที่โดนสิ่งนั้นมากกว่า ว่าจะเปลี่ยนสิ่งที่เราเจอเป็นคำสาปหรือปล่อยวางให้มันเป็นไป ซึ่งคุณเป็นคนกำหนดสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ใครมาชี้นิ้วว่าคุณเป็น ฝากไว้ให้ทุกคนได้คิดกัน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส