แม้ว่า Iron Man หรือ โทนี่ สตาร์ก ได้ปิดฉากวีรบุรุษเกราะเหล็กไปแล้วใน Avengers : EndGame แต่เขาก็ได้ฝากความทรงจำในใจแฟน ๆ มาร์เวล เป็นซูเปอร์ฮีโรผู้ที่วางรากฐานให้กับจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นซูเปอร์ฮีโรรายที่มาร์เวลเลือกมาสร้างเป็นเรื่องแรกในปี 2008 แล้วก็มีบทบาทในฐานะผู้รวบรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโรมาเป็น Avengers นอกเหนือจากหนังเดี่ยวของตัวเอง 3 ภาคแล้ว Iron Man ยังมีบทบาทในเรื่องอื่น ๆ ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล รวมแล้วถึง 11 เรื่องจากทั้งหมด 23 เรื่อง แล้วยังมีข่าวว่าเขาอาจจะมีบทรับเชิญใน Black Widow อีกด้วย

แม้ว่าเขาจะติดอยู่ในอันดับที่ 3 จากการจัดอันดับ Top 50 Avengers ของ IGN เมื่อปี 2012 แต่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลแล้ว เขาคือซูเปอร์ฮีโรที่ได้รับความนิยมมากสุดเป็นอันดับที่ 1 ทั้งนี้ก็ต้องชื่นชมบทบาทการแสดงของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ด้วยที่ถ่ายทอดบุคลิกของโทนี่ สตาร์ก ให้ออกมาดูมีเสน่ห์ประทับใจแฟน ๆ และแฟน ๆ ก็ยังมีแฟน ๆ อีกมากที่ยังคิดถึง Iron Man และยังคาดหวังว่าเขาจะกลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง เพราะตำนานของ Iron Man บนโลกคอมิกนั้นยาวนานมาก เขาถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1968 ด้วยอายุที่มากถึง 52 ปี บนโลกคอมิก จึงมีเรื่องราวของ Iron Man เกิดขึ้นมากมาย แค่ตัว โทนี่ สตาร์ก ยังตายแล้วฟื้นกลับมาตั้งหลายครั้ง และหลาย ๆ เรื่องก็ช่างหลุดโลกไปมาก ทีมผู้สร้างภาพยนตร์จึงต้องคัดสรรเรื่องราวที่น่าสนใจจริง ๆ มาถ่ายทอดในเวอร์ชันภาพยนตร์ และนี่คือ 8 เรื่องประหลาดของ Iron Man ที่ทีมเขียนบทภาพยนตร์ขอไม่แตะต้องจะดีกว่า

1.Demon in a Bottle

เรื่องราวของ “Demon in a Bottle” หรือ “ปีศาจในขวดเหล้านั้น” เป็นเรื่องราวสำคัญที่บรรยายตัวตนของ โทนี่ สตาร์ก ได้อย่างลงลึก ซึ่งแฟน ๆ ที่ติดตาม Iron Man มาตั้งแต่เวอร์ชันคอมิกต่างก็แปลกใจที่มาร์เวล ไม่ได้หยิบเรื่องราวส่วนนี้มาขยายในเวอร์ชันภาพยนตร์ ผู้ชมได้เห็น โทนี่ สตาร์ก เมาสุดก็แค่ฉากหนึ่งใน Iron Man 2 ตอนที่เขาจัดปาร์ตี้ในบ้านตัวเอง โทนี่ สตาร์ก สวมเกราะเต็มยศ เมาเซไปเซมา จน เพปเพอร์ พอตต์ ต้องมาดูแล แต่ก็ยังพลาดยิงพลังแสงจากฝ่ามือทำลายผนังกระจกในบ้านตัวเอง

https://www.youtube.com/watch?v=kqmw6baoLNY

นอกเหนือจากที่เราได้รู้จัก โทนี่ สตาร์ก ในฐานะมหาเศรษฐี, บุรุษผู้สวมชุดเกราะ และ หนวดเคราอันเป็นเอกลัษณ์แล้ว ช่วงที่เขาเป็น แอลกอฮอลิก ก็เป็นอีกภาพลักษณ์สำคัญที่ติดตัวเขาอยู่ระยะหนึ่ง ที่ถูกเล่าในหนังสือการ์ตูนเมื่อปี 1979 เป็นช่วงตกต่ำของ โทนี่ สตาร์ก เลยก็ว่าได้ ที่เขาติดเหล้าอย่างหนัก ถึงขั้นถูกเตะออกจากทีม อเวนเจอร์ส เลย ทำให้เขาต้องหันไปต่อสู้กับอาการแอลกอฮอลิกของตัวเองจนหายดี ซึ่งถ้านำมาเล่าก็น่าจะสอดคล้องดีกับชีวิตจริงของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เลยนะ

ด้วยเนื้อหาในส่วน Demon in a Bottle นั้น เป็นความแปลกใหม่ของหนังสือการ์ตูนในยุคนั้นที่หยิบเอาปัญหาผู้คนในชีวิตจริงมาผสมผสานเข้ากับเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร จึงทำให้แฟน ๆ ยกย่องว่า Demon in a Bottle เป็นตอนที่ดีที่สุดของ Iron Man แล้วยังส่งผลต่อตัวตนของ โทนี่ สตาร์ก ในช่วงหลังอีกด้วย เขากลายเป็นคนที่มีประสบการณ์เลวร้ายกับการติดแอลกอฮอล์ที่สมาชิก Avengers ต่างรู้กันดี ครั้งหนึ่งเขายังช่วย แครอล เดนเวอร์ส ให้ผ่านพ้นสภาวะแอลกอฮอลิกมาได้ด้วยเช่นกัน

2.Iron Man ในคอมิก ไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

ในหัวข้อนี้เนื้อหาในการ์ตูนนั้นแตกต่างจากภาพยนตร์อย่างมาก แต่จากที่ได้ดูหนังแล้วก็ยืนยันว่าเนื้อหาที่ดัดแปลงใหม่นั้นไปถูกทางแล้ว ตั้งแต่ฉากจบของ Iron Man ภาคแรกปี 2008 ที่โทนี่ สตาร์ก เปิดเผยตัวตนในงานแถลงข่าวว่า “I am Iron Man” กลายเป็นวลีที่ติดตัวเขาไปตลอดเลย แล้วยังถูกนำกลับมาใช้แบบถูกที่ถูกเวลา ในฉากดีดนิ้วพลีชีพใน Avengers : End Game อีกด้วย

และการเปิดเผยตัวตนของ Iron Man นี่ล่ะ ที่มีส่วนทำให้หนัง Iron Man ประสบความสำเร็จ และโดดเด่นจากแวดวงหนังซูปอร์ฮีโรเรื่องอื่น ๆ ที่บรรดาพระเอกมักจะปิดบังตัวตนไม่ให้สังคมรับรู้ตัวจริงของเขา แต่การเปิดเผยตัวตนของ โทนี่ สตาร์ก ว่าเขาคือ Iron Man ก็ถูกนำมาใช้เป็นประเด็นหลักตลอดเวลาที่เขาปรากฏตัวในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แถมยังมีเหตุผลสมทบที่หนักแน่นดูน่าเชื่อถือ การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์มาเป็นซูเปอร์ฮีโรในนามของ โทนี่ สตาร์ก เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้สังคม ก็เหมือนกับการลบล้างภาพพจน์แย่ ๆ ในอดีตของเขา ที่เป็นพ่อค้าอาวุธสงคราม แล้วทำให้เรื่องเดินหน้าไปอย่างราบรื่น

ส่วนโทนี่ สตาร์ก ในการ์ตูนนั้น กลับเดินหน้าไปไร้เหตุผลสมควรมาก เพราะต้องติดอยู่ในกรอบที่ปิดบังตัวตน ทำให้เขาต้องคอยสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาตลอดเวลา โดยอ้างว่า Iron Man คือบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขา และเป็นนักบินที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเองและโทนี่ สตาร์ก แต่ก็สร้างช่องโหว่ใหญ่ ๆ ในเนื้อหา เหมือนกับที่เคยเกิดกับ Super Man และ Spider Man ที่มีแต่คนสงสัยว่าเไม่เคยเห็น คลาร์ก เคนต์ ปรากฏตัวพร้อมกับ Super Man หรือไม่เคยเห็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ปรากฏตัวพร้อมกับ Spider-Man

3.กลุ่ม อิลลูมินาติ


จากที่ผ่านมาบุคลิกลักษณะอย่างหนึ่งที่เด่นชัดของ โทนี่ สตาร์ก ก็คือการชอบวางตัวในฐานะ “ผู้นำ” แม้ว่าตามตำแหน่งแล้ว Captain America จะเป็นหัวหน้าทีม Avengers แต่เราก็เห็นอยู่บ่อยครั้งว่า โทนี่ สตาร์ก ก็มีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องสำคัญอย่างมาก แล้วเขาเองก็คือผู้รวบรวมสมาชิกมาเข้าทีม Avengers เรื่องบทบาทผู้นำของ โทนี่ สตาร์ก นั้นมีพื้นเพมาตั้งแต่เวอร์ชั่นการ์ตูนแล้ว และโทนี่ สตาร์ก ในการ์ตูนนั้นออกจะหนักหนากว่าที่เราเห็นในหนังเสียด้วยซ้ำ เพราะโทนี่ ไม่เพียงแค่ก่อตั้ง Avengers เท่านั้น เมื่อโลกมนุษย์เริ่มถูกรุกรานจากเหล่าวายร้ายนอกโลก เริ่มจากเหตุการณ์ในนอน the Kree-Skrull War โทนี่ สตาร์ก ก็เลยรวบรวมสมาชิกมาก่อตั้งทีมใหม่ในชื่อว่า “Illuminati”

สมาชิกที่ โทนี่ สตาร์ก คัดสรรนั้น เขาพิจารณาจากระดับสติปัญญาเป็นหลัก ซึ่งประกอบไปด้วยตัวเขาเอง โทนี่ สตาร์ก, รีด ริชาร์ด จาก Fantastic Four, Dr.Strange, Black Bolt จากกลุ่ม Inhumans และ Namor มีการทาบทาม Black Panther ด้วย แต่กษัตริย์ทีชัลลาดูทีท่าแล้วกลุ่มนี้น่าจะพากันไปวุ่นวายพอควร เลยไม่ขอเข้าร่วม

จะว่าไปวีรกรรมของ อิลลูมินาติ ก็มีเรื่องแปลก ๆ พอควร อย่างเนื้อหาตอนที่เกี่ยวกันกับ อินฟินิตี้ สโตน นี่ล่ะ หลังจากกำราบธานอสได้แล้ว อิลลูมินาติ ก็เลือกที่จะเก็บ อินฟินิตี้ สโตน ไว้กับกลุ่มพวกเขาเอง แล้วกลุ่มนี้ล่ะที่เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์วุ่นวายครั้งใหญ่ในจักรวาลมาร์เวล นั่นก็คือ World War Hulk แฟน ๆ มาร์เวลน่าจะเคยรู้เรื่องนี้กันมาพอสมควร งั้นขอกล่าวถึงสั้น ๆ แล้วกัน ว่า บรู๊ซ แบนเนอร์ เริ่มจะควบคุมพลังของ ฮัลค์ ไว้ไม่อยู่ หลายครั้งที่เขาเริ่มควบคุมร่างยักษ์เขียวไว้ไมได้ ก็เป็นกลุ่มอิลลูมินาตินี่ล่ะ ที่โดดเข้ามาทำหน้าที่แก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีง่าย ๆ เมื่อ ฮัลค์ มันก่อความวุ่นวายก็ส่งมันไปนอกโลกซะก็สิ้นเรื่อง ก็เลยล่อหลอกฮัลค์ให้เข้าไปในยานอวกาศแล้วก็ยิงออกจักรวาลไป กลายเป็นการสร้างความแค้นเคืองให้กับฮัลค์ เขาไปเป็นกษัตริย์ในอาณานิคมต่างดาว แล้วก็รวบรวมไพร่พลกลับมาแก้แค้นกลุ่มอิลลูมนาตินี่ล่ะ

ก็พอเข้าใจได้นะ ที่มาร์เวลไม่เลือกที่จะพูดถึงกลุ่มอิลลูมินาติ เพราะคงจะทำให้เรื่องราวทับซ้อนกับ Avengers เพราะสมาชิกบางคนก็อยู่ทั้ง 2 กลุ่มนี้เลย และอีกหลายคนก็ยังไม่มีโครงการว่าจะถูกแนะนำตัวเข้ามาในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล

4.โฮเวิร์ด สตาร์ก ไม่ใช่พ่อที่แท้จริง

แม้ว่า โฮเวิร์ด สตาร์ก จะไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร แต่ลองมองย้อนไปใน 23 เรื่องที่ผ่านมานี่สิ เขาก็เป็นตัวละครที่มีบทบาทอย่างมาก มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับซูเปอร์ฮีโรหลายรายเลย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้าง Captain America, เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหน่วย S.H.I.E.L.D. เคยทำงานร่วมกับ แฮงค์ พิม, เคยปฏิบัติการร่วมยาวนานกับ เพ็กกี้ คาร์เตอร์ แต่ในฐานะพ่อ เขาก็ไม่ใช่พ่อที่สนิทสนมรักใคร่กับ โทนี่ สตาร์ก ลูกชายนัก จึงส่งผลให้ โทนี่ สตาร์ก รู้สึกกระดากกระเดิดเวลาที่ทำหน้าที่ผู้ดูแล ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์

จะสังเกตได้ว่าถ้ามองย้อนไปในมาร์เวลยุคอดีตนั้น โฮเวิร์ด สตาร์ก จะไปมีบทบาทแทบทุกเรื่องทุกคนเลย ถ้ารู้สึกว่าบนจอนั้นยังสร้างความสับสนไม่พอ ให้มาดูที่เวอร์ชันการ์ตูน เพราะจะชวนสับสนกว่านั้นมาก ในการ์ตูน Iron Man ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2016 มีการเผยความจริงว่า โทนี่ สตาร์ก ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของ โฮเวิร์ด – มาเรีย สตาร์ก แต่พ่อที่แท้จริงของเขาคือ จูด สายลับสองหน้าที่ทำงานให้กับ S.H.I.E.L.D. และ HYDRA ส่วนแม่ของเขาคือ อแมนดา อาร์มสตรอง สายลับหญิงประจำหน่วย S.H.I.E.L.D. เบื้องหน้าของเธอคือนักร้องนักแต่งเพลงที่ออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ซึ่งใช้ประโยชน์จากการเดินสายนี้ออกปฏิบัติหน้าที่สายลับได้อย่างแนบเนียน เมื่อเธอตั้งท้องกับจูดแล้ว อแมนดาก็คลอด โทนี่ ที่บัลแกเรีย ด้วยภาระหน้าที่ของสายลับทำให้เธอไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ เธอจึงต้องเอาลูกชายไปทิ้งไว้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เรื่องนี้ไปล่วงรู้ถึงหูของ โทนี่ และ มาเรีย สตาร์ก พอดีที่ทั้งคู่กำลังหาเด็กมาอุปการะพอดี ก็เลยขอรับเด็กชายมาเลี้ยงเป็นลูก และเก็บเป็นความลับจนตัวตาย

5.บริษัท Stark Industries ในการ์ตูนวุ่นวายกว่ามาก

ในหนัง Iron Man เราเห็น โทนี่ สตาร์ก ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท สตาร์ก อินดัสทรี มาโดยตลอดทุกภาค มีความวุ่นวายแค่ภาคแรกเท่านั้น ที่เขาต้องแย่งชิงบริษัทคืนจาก โอบาเดียห์ สเตน พนักงานรุ่นก่อตั้ง สตาร์ก อินดัสทรี ที่หวังฮุบบริษัทด้วยการจ้างผู้ก่อการร้ายให้ลักพาตัวโทนี่ สตาร์กไป จนเขาต้องสร้างชุดเกราะ Mark 1 กลับมาโค่นล้ม โอบาไดอาห์ และชิง สตาร์ก อินดัสตรี้ กลับคืนมา หลังจากนั้นสถานะประธาน สตาร์ก อินดัสทรี ก็ดูราบรื่นดี แต่ในเวอร์ชันการ์ตูนนั้น สถานะประธาน สตาร์ก อินดัสตรี ของโทนี่ สตาร์ก จะวุ่นวายสั่นคลอนอยู่หลายครั้งหลายครา บางครั้ง สตาร์ก อินดัสทรี ก็ล้มละลายบ้าง ซึ่งทำให้เนื้อหาของ Iron Man ดูมีอารมณ์ดราม่าอยู่บ่อยครั้ง

ในเวอร์ชั่นการ์ตูนนั้น โอบาไดอากห์ สเตน นั้นไม่ได้พนักงานของ สตาร์ก อินดัสทรี แต่เป็นบริษัทคู่แข่ง ที่พยายามจะซื้อบริษัท สตาร์ก อินดัสทรี มาเนิ่นนานแล้ว แล้วในที่สุดเขาก็ได้เป็นเจ้าของ สตาร์ก อินดัสทรี แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Stane International ส่วน โทนี่ สตาร์ก นั้น ก็หอบลูกน้องที่จงรักภักดีกลุ่มหนึ่งย้ายไปตั้งรกรากกันใหม่ในลอส แองเจลิส เปิดบริษัทขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Circuits Maximus ภารหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็น Stark Enterprises ในช่วงนี้ โอบาไดอาห์ยังคงตามจองล้างจองผลาญโทนี่ สตาร์ก อยู่ มีการฟ้องร้องคดีความที่โทนี่แพ้ และต้องเข้าคุก เขาฆ่าตัวตายในคุก เรื่องราวในช่วงนี้ โทนี่ สตาร์ก จะตายไปแค่ช่วงสั้น ๆ บริษัท Stark Enterprises ถูกบริษัทญี่ปุ่นซื้อไป กลายเป็นชื่อ Stark-Fujikawa ไม่นานจากนั้น โทนี่ สตาร์ก ก็กลับมา เขาเปิดบริษัทใหม่เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจในชื่อ Stark Solutions แล้วเปลี่ยนมาเป็น Stark Enterprises ในภายหลัง แล้วก็เปลี่ยนเป็น Stark Unlimited อีกที สรุปมาแค่นี้ยังรู้สึกว่าสับสนวุ่นวายเลย เรื่องนี้ก็เห็นชอบแล้วล่ะ ที่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ไม่พูดถึง Stark Industries มากมายนัก

6.โทนี่ สตาร์ก มีงานหลายตำแหน่งหน้าที่

ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลนั้น พูดถึงโทนี่ สตาร์ก ในบทบาทหน้าที่เดียวคือประธานของ Stark Industries ส่วนบทบาทในภาพลักษณ์ Ironman ก็เป็นผู้รวบรวมสมาชิก Avengers แต่ในเวอร์ชันการ์ตูนนั้น โทนี่ สตาร์ก มีหลายบทบาทหน้าที่มาก ในช่วงหลังจากเหตุการณ์ Civil War แล้ว โทนี่ สตาร์ก ได้เป็นผู้อำนวยการหน่วย S.H.I.E.L.D. แทน นิก ฟิวรี่ อยู่ช่วงสั้น ๆ ไม่นานจากนั้น หน่วย S.H.I.E.L.D. ก็เปลี่ยนเป็นหน่วยงานใหม่ในชื่อว่า H.A.M.M.E.R. ชื่อย่อเท่ ๆ ที่ไม่มีคำเต็ม ตำแหน่งผู้อำนวยการจากโทนี่ สตาร์ก ถูกส่งต่อไปให้ นอร์แมน ออสบอร์น ชื่อคุ้น ๆ ใช่ไหมครับ เขาก็คือตัวละครสำคัญจาก Spider-Man นั่นล่ะ ในการ์ตูนนี่เชื่อมโยงกันไปหมดเลย ในช่วงนั้นเขาได้สร้างวีรกรรมต่อสู้กับเอเลียนที่รุกรานโลกมนุษย์แล้ววีรกรรมของเขาได้แพร่ภาพออกทีวี รัฐบาลเห็นความดีความชอบเลยมอบตำแหน่งผู้อำนวยการให้ไป

นอกจากนั้น โทนี่ สตาร์ก ยังเคยได้รับตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นตำแหน่งใหญ่ระดับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเลยทีเดียว เขาได้ตำแหน่งนี้ เพราะเหมือนกับว่ารัฐบาลอยากจะชดเชยความผิดพลาดในอดีต ที่ครั้งหนึ่งเคยจะพยายามยึดครอง ชุดเกราะไอรอนแมน ทั้งหมดมาเป็นของรัฐบาลเสียเอง เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Stark Industries ยังคงอยู่ภายใต้สัญญาเป็นผู้ผลิตอาวุธให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ

7.เมื่อเกราะIron Man มีชีวิต

เป็นอีกเหตุการณ์ในการ์ตูนที่ประหลาดหลุกโลกไปมาก เหตุการณ์มันเริ่มต้นจากความอัจฉริยะของ โทนี่ สตาร์ก ที่เขาคิดค้นชุดเกราะรุ่นใหม่ขึ้นมาในชื่อว่า “Safe Armor” หัวใจสำคัญของชุดเกราะนี้คือระบบปฏิบัติการ AI รุ่นล่าสุด โทนี่ตั้งชื่อให้ว่า Irony ความพิเศษของระบบปฏิบัติการนี้คือสามารถมีความคิดตัดสินใจควบคุมทุกอย่างได้เอง ถ้าโทนี่หมดสติ หรืออยู่ในภาวะที่ไม่สามารถสั่งการได้ เรื่องมันประหลาดตรงที่ว่า โทนี่ เลือกเอา Irony ไปติดตั้งบนชุดเกราะพิเศษ ที่ Ultron เป็นผู้สร้างขึ้น เชื่อว่าทุกคนยังจำ Ultron กันได้นะครับ เป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะที่เกลียดมนุษย์ ทำหน้าทีตัวร้ายใน Avengers: Age of Ultron แต่โทนี่ ก็ดันไว้ใจเอาระบบปฏิบัติการนี้ไปติดตั้งบนชุดเกราะนี้อีก

ผลก็คือระบบ AI ทำงานได้ดี ชุดเกราะเริ่มมีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง และมันเกิดความลุ่มหลงในตัว โทนี่ สตาร์ก แต่ลงเอยด้วยความต้องการที่อยากจะเป็นโทนี่ สตาร์ก เสียเอง ถึงกับคิดค้นผิวหนังเทียมมาห่อหุ้มร่างกายเพื่อจะให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ภายนอกเหมือนโทนี่ สตาร์ก แล้วพยายามสังหารโทนี่ สตาร์ก ด้วยการลักพาตัวเขาบินไปบนยอดโบสถ์ เซนต์ แอนดรูว์ จับตัวโซนี่ขึงติดไว้กับไม้กางเขน ผลก็คือ โทนี่ สตาร์ก เกิดอาการหัวใจวาย ด้วยความลุ่มหลงในตัวโทนี่ สตาร์ก ที่ยังฝังอยู่ภายในจิตสำนึกของระบบ Irony ทำให้ชุดเกราะยอมสละร่างตัวเอง ด้วยการถอดหัวใจปฏิกรณ์บนชุดเกราะ มาเสียบเข้าใส่ร่างของโทนี่ สตาร์ก เพื่อให้หัวใจของเขาทำงานได้ต่อไป

8.Teen Tony


เป็นการ์ตูนซีรีส์ Teen Tony ที่เนื้อหาประหลาดหลุดโลกพอดู อย่างที่เรารู้กันมาก่อนว่าในจักรวาลการ์ตูนมาร์เวลนั้น Iron Man ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร รายที่ได้รับความนิยมจากผู้อ่านเท่าใดนัก ทางมาร์เวลก็พยายามรีบูตบ้าง แต่งเติมเนื้อหาเข้าไปเพือจะดันให้ Iron Man เป็นการ์ตูนฮิตเสียที หนึ่งในความพยายามขั้นสุดเกิดขึ้นในปี 1996

เนื้อหาของ Teen Tony นั้น แทบจะเขียนเรื่องราวของ โทนี่ สตาร์ก ใหม่เลยล่ะ ในตอนนี้มีวายร้ายตัวใหม่ชื่อ Immortus เป็นวายร้ายที่สามารถสะกดบังคับจิตใจได้ และสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้ เหยื่อของ Immortus ก็คือ โทนี่ สตาร์ก ในวันที่ยังคงเป็นสมาชิกคนสำคัญของ Avengers ในขณะที่เขาอยู่ภายใต้มนตร์สะกดของ Immortus เขาได้ฆ่าคนที่อาศัยใน อเวนเจอร์ส แมนชัน ไปถึง 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นซูเปอร์ฮีโร แล้วก็ป้ายความผิดให้กับ Hawkeye จนภายหลังสมาชิก Avengers ล่วงรู้ความจริงว่าเป็นฝีมือของ Immortus จะต้องหาคนมาจัดการกับ โทนี่ สตาร์ก ที่อยู่ภายใต้มนตร์สะกดนี้ให้ได้ ผลการตัดสินใจของสมาชิก Avengers ก็คือเอาตัว โทนี่ สตาร์ก ฝ่ายดี มาจัดการกับ โทนี่ สตาร์ก ฝ่ายร้าย ด้วยการข้ามไปอีกมิติคู่ขนาน แล้วย้อนเวลาไปเอาตัว โทนี่ สตาร์ก ตอนวัยรุ่นกลับมามิติปัจจุบันนี้ ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงออกมาเป็นวิธีที่ลำบากยากเย็นเพียงนี้

เมื่อพาตัวโทนี่ สตาร์ก วัยรุ่นกลับมาได้ ก็เสี้ยมสอนให้โทนี่วัยรุ่นไปจัดการกับโทนี่วัยผู้ใหญ่ แต่ด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวกรากกว่า โทนี่ผู้ใหญ่ก็จัดการโทนี่วัยรุ่นได้อย่างไม่ยากเย็น แถมยังสังหารด้วยวิธีเหี้ยมโหดด้วยการควักหัวใจโทนี่วัยรุ่นออกมา หลังสังหารแล้วโทนี่วายร้ายเกิดสำนึกผิดชอบ เขานำชุดเกราะไอรอนแมนมาสวมให้กับโทนี่วัยรุ่นเป็นการช่วยชีวิตไว้ได้ ส่วนตัวโทนี่ผู้ใหญ่ก็หันกลับไปจัดการกับ Immortus ด้วยตัวเอง เรื่องราวเนื้อหาสุดประหลาดนี้ สามารถเขียนลากยาวได้ถึง 25 เล่มจบ หลังจบซีรีส์นี้ โทนี่วัยรุ่นก็ยังมีบทบาทใน Avengers ต่อไปอีกเป็นปี จนกระทั่งมาร์เวลรีบูตเรื่อง Avengers เสียใหม่

อ้างอิง