นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ถูกจับตามากที่สุดในรอบปี สำหรับการเปิดตัวสเตจใหม่ล่าสุดของ BNK48 ภายใต้บริษัท อินดิเพนเด้นท์อาร์ทิสท์เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ I AM (ไอแอม) ซึ่งถือเป็นการเปิด BNK48 The Campus อีกครั้งในรอบหลายเดือน หลังจากที่ต้องเว้นวรรคไปเนื่องจากวิกฤติ COVID19  
 
การกลับมาของเธียเตอร์ของวงไอดอลอันดับหนึ่งแห่งนี้จึงเป็นที่ติดตามในหมู่แฟนคลับอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว แต่สเตจใหม่นี้ยังมีความพิเศษตรงที่ไม่เพียงแต่เป็นสเตจของเค็งคิวเซย์ หรือศิลปินฝึกหัดของ BNK48 โดยเฉพาะ อันหมายถึงการเปิดตัว BNK48 รุ่นที่ 3 บนเธียเตอร์ในฐานะผู้แสดงหลักเป็นครั้งแรก ขณะเดียวกัน สเตจ “Ganbare! Kengkyuusei!” ยังทวีความพิเศษขึ้นอีก เพราะสเตจนี้ที่มีความหมายว่า “พยายามเข้านะ! เค็งคิวเซย์!” เป็นผลงานการโปรดิวซ์ครั้งแรกของ “เฌอปราง อารีย์กุล” กัปตันวง BNK48 อีกด้วย 
 
โดยก่อนการแสดงจะเริ่มขึ้น ก็เป็นการเปิดให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสเตจนี้ โดย “เฌอปราง” พร้อมด้วยทีม BNK48 รุ่นที่ 3 ทั้ง 16 คนที่มาแสดงในรอบนี้ คือ “Earn BNK48-วชิราพร พัฒนพานิช”, “Earth BNK48-นภสรณ์ ศิริปาณี”, “Eve BNK48-อิสรีย์ ทวีกุลพาณิชย์”, “Fame BNK48-นันทภัค กิตติรัตนวิวัฒน์”, “Hoop BNK48-ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย”, “Kaofrang  BNK48-ญาณิศา เมืองคำ”, “Mean BNK48-ณัฐธันยา ดุลยพล”, “Monet BNK48-ภาริตา ริเริ่มกุล”, “Paeyah BNK48-นิพพิชฌาน์ พิพิธเดชา”, “Pampam BNK48-สาริศา วรสุนทร” , “Pancake BNK48-พิทยาภรณ์ เกียรติฐิตินันท์”, “Peak BNK48-ภูษิตา วัฒนากรแก้ว”, “Pim BNK48-ณิชารีย์ วชิรลาภไพฑูรย์”, “Popper BNK48-พิณญาดา จึงกาญจนา”, “Yayee BNK48-ณัฏฐธิดา อาสนานิ” และ “Yogurt BNK48-นพรดา เลิศวิริยะพร” 
 
“สเตจนี้ก็เป็นสเตจใหม่ที่เฌอได้มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับสเตจนี้ หลัก ๆ เลยก็เพื่อให้น้องรุ่น 3 ได้ฝึกฝนตัวเอง แล้วก็มีสเตจของตัวเอง โดยจะเป็นชุดการแสดงใหม่ นอกจากสเตจ BIII และ NV” โปรดิวเซอร์คนสวย กล่าว “ส่วนที่ดูแลก็ตั้งแต่การทำเซ็ตลิสต์เพลง เรื่องชุดต่าง ๆ และเรื่องภาพรวมของสเตจทั้งหมด  โดยช่วยดูกับทางทีมร้องแล้วก็ทีมเต้น แล้วก็คอยถามทางญี่ปุ่นว่าทำอะไรได้บ้าง มีเงื่อนไขอะไรกับสเตจนี้บ้าง ประสานงานกับทางผู้บริหาร”  

ในแง่ของเซ็ตลิสต์นั้น “เฌอปราง” ก็เผยว่าเป็นการนำเพลงต่าง ๆ ของ BNK48 มาเรียงร้อยเป็นโชว์ โดยจะเป็นเพลงที่ไม่ซ้ำกับเพลงใน 4 สเตจก่อน ๆ ของวง ไม่ว่าจะเป็น “PARTY ga Hajimaru yo”, “Saishuu Bell ga Naru” ของทีม BIII, “Theater no Megami” ของทีม NV และ “Waiting Stage” ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เพราะนอกจากจะเป็นสเตจที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้งในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และของไทยเอง เค็งคิวเซย์ยังมีเวลาซักซ้อมสำหรับโชว์นี้ด้วยเวลาที่จำกัดเอามาก ๆ   

“พวกเราตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ เพราะสเตจนี้เป็นสเตจที่จริงจังมาก ๆ โดยพวกเราใช้เวลาซ้อมกันแค่ 2 เดือนค่ะ การซ้อมค่อนข้างหนักมาก ๆ ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตาเลยค่ะ แต่ทุกคนก็พยายามเต็มที่มาก ๆ เพื่อจะทำให้สเตจนี้ออกมาเพอร์เฟกต์ให้ทุกคนได้ชมกันค่ะ” “เอิร์น” อธิบาย  
 
ขณะที่ “ฮูพ” ได้เปิดใจกับการได้มาสานต่องานเธียเตอร์ที่รุ่นพี่ได้บุกเบิกเอาไว้ว่า 
“รุ่นพี่เป็นแบบอย่างที่ดีมาก ๆ ค่ะ พวกรุ่นพี่ทำเอาไว้ดีมาก ๆ พวกเราก็จะพยายามทำกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุดค่ะ”  
 

ปิดท้ายด้วย “ปาเอญ่า” ที่ขอฝากเนื้อฝากตัวและฝากสเตจนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วย 
“สเตจนี้ทุกคนก็จะได้เห็นพวกเรารุ่น 3 โชว์กัน ซึ่งมีเพลงที่น่าดูหลายเพลงเลยค่ะ ยังไงก็ฝากทุกคนติดตามกันสเตจ “Ganbare! Kengkyuusei!” ของพวกเราด้วยนะคะ”  
 
หลังจากที่ “เฌอปราง” พร้อมด้วยBNK48 รุ่นที่ 3 ทั้ง 16 คนร่วมเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย นั่นคือ การแสดงรอบสื่อมวลชน ก่อนหน้าที่จะเปิดรอบปกติตั้งแต่วันเสาร์อาทิตย์ที่ 27-28 มีนาคม 2564 นี้ 

17.00 น. ตรง หลังจากเสียงใส ๆ ของ “ป๊อปเป้อ” อ่านกฎกติกามารยาทในการชมเป็นที่เรียบร้อย เสียงบีตอิเล็กทรอนิกส์และเสียงประกาศก้องของ “Overture” อันเป็นบทเปิดมหรสพของ BNK48 ก็ดังขึ้น ซึ่งแม้ว่าแฟนคลับของวงต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ด้วยถูกใช้เปิดการแสดงทุกครั้งนับร้อยนับพันครั้ง ทว่าสำหรับครั้งนี้เมื่อมาถึงท่อน “A live act you’ve never seen before” นั้นได้ทวีค่าความหมายมากขึ้นอีก ด้วยนี่คือโชว์ที่ยังไม่เคยมีคนนอกได้ชมมาก่อนจริง ๆ  

เมื่อ “Overture” จบพร้อมกับไฟเวทีที่ดับลง เมมเบอร์ของ BNK48 รุ่นที่ 3 ทั้ง 16 คนก็ขึ้นมายืนล้อมวงกันในชุดลายทางสีน้ำเงิน….ทันทีที่เสียงตะโกนประกาศตัวตนในฐานะ “BNK48” จบลง ทุกคนก็รับรู้ได้ทันทีว่าจะได้พบกับอะไรต่อไป… 

“Shonichi -วันแรก-” ถูกนำมาเปิดสเตจได้อย่างเหมาะเจาะอย่างยิ่ง เพราะรอบวันนี้คือ “วันแรก” ของพวกเธอทุกคนอย่างแท้จริง…วันแรกที่ไม่ต้องแสดงเพื่อซัปพอร์ตรุ่นพี่ หรือเพื่อแทนที่เมมเบอร์ตัวหลักคนใด ทว่าเป็น “โชว์ของฉันเอง” อย่างแท้จริง ซึ่งทั้ง 16 คนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยเฉพาะกับ “ปาเอญ่า” ที่รับบทเป็นเซ็นเตอร์ของเพลง เปล่งประกายอย่างน่าจับตามาก 

ต่อเนื่องกันด้วยบทเพลงประจำวง “BNK48” ซึ่งทั้ง 16 คนก็ไม่ทำให้รุ่นพี่ทั้ง 2 รุ่นต้องผิดหวัง ด้วยการแสดงแบบสุดพลังกันทุกคน ขณะที่ “มีน” น้องสาวคนรองสุดท้องของรุ่น 3 นั้นรับบทเซ็นเตอร์ที่ “เฌอปราง” เคยทำไว้ได้อย่างน่าชื่นชม ก่อนจะปิดเพลงเซ็นเปิดเวทีด้วย “BNK Festival” ที่ “แพนเค้ก” เป็นเซ็นเตอร์นำทุกคนเข้าสู่ความสนุกสนานในแบบฉบับของรุ่น 3 ก่อนจะที่จะเข้าสู่ช่วง MC เพื่อทักทายพี่ ๆ สื่อมวลชน และแนะนำตัว โดยแต่ละคนก็ได้งัดเอาแคชเฟสของตัวเองมาอวดโฉมกันอีกครั้ง 

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงเพลงยูนิต ซึ่ง 2 ยูนิตแรกนั้นเป็นเพลงจากละครซีรีย์ “One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ” ทั้งคู่คือ “มปร.” ซึ่ง “อีฟ” กับ “ข้าวฟ่าง” ดูเอตกันได้อย่างไพเราะ ส่วน “สายซับ” นั้นได้ 3 เมมเบอร์ “เอิร์น”, “เอิร์ธ” และ “พีค” มาในธีมชุดนอนก็ให้บรรยากาศทั้งน่ารัก สดใส และอบอุ่น  
 
ถัดจากช่วงเวลาของเพลงเบา ๆ ก็เข้าสู่ช่วงเพลงสนุก ๆ กันอีกครั้ง 3 เพลงรวด นั่นคือ “Heart Gata Virus (หัวใจไวรัส)” โดย 3 สาว “แพนเค้ก”, “โยเกิร์ต” และ “แพมแพม” ซึ่งทั้ง 3 คนสามารถรักษาลุคความสดใสของยูนิต “Mimigumo” ได้ดี ตามด้วย “Wink wa Sankai (วิ้งค์ 3 ครั้ง)” ที่มาในแบบ 6 คน คือ “ปาเอญ่า”, “ยาหยี”, “พิม”, “โมเน่ต์”, “ป๊อปเป้อ” และ “เฟม” ซึ่งแม้จะเป็นเพลงที่มีไลน์เต้นที่ค่อนข้างยากแต่ทั้งหมดก็ถ่ายทอดกันได้อย่างน่าชม ก่อนจะปิดช่วงนี้ด้วย “Temodemo no Namida (ถึงแม้จะมีน้ำตา)” ซึ่งเป็นเพลงที่สลับซับซ้อนทั้งการเต้นและการร้อง แต่ก็ได้ “ฮูพ” กับ “มีน” ที่ถือเป็นเอสของรุ่นในด้านการเต้น “Temodemo no Namida (ถึงแม้จะมีน้ำตา)” ที่ถือเป็นเพลงปราบเซียนจึงออกมาได้อย่างน่าตื่นตา 

หลังจากเบรกด้วยช่วง MC ครู่หนึ่ง ทั้ง 16 คนก็กลับมาสู่เวทีพร้อมด้วยพู่เชียร์กีฬา ซึ่งจะเป็นเพลงไหนไปไม่ได้นอกจาก “Yume e no Route (หมื่นเส้นทาง)” อีกครั้งที่ “ปาเอญ่า” มารับบทเซ็นเตอร์ ซึ่งก็สร้างความประทับใจได้ดีเยี่ยม ก่อนจะตามด้วยเพลงที่รับประกัน “ความเดือด” สำหรับเหล่าแฟนคลับวง นั่นคือ “Oogoe Diamond (ก็ชอบให้รู้ว่าชอบ)” ซึ่งทั้ง 16 คนก็พิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการฝึกฝนอย่างหนักในเพลงนี้ เพราะนอกจากจังหวะจะไวมาก ยังมีไลน์เต้นที่ซับซ้อน แต่ทุกคนก็ทำได้ดี 

สเตจ “Ganbare! Kengkyuusei!” ปิดท้าย(แต่ไม่ท้ายสุด) ด้วยเพลงบัลลาดที่แฟนคลับชื่นชอบมากเป็นอันดับต้น ๆ เสมอมาคือ “365 Nichi no Kamihikouki (365 วันกับเครื่องบินกระดาษ)” ซึ่งพี่ใหญ่ประจำรุ่นอย่าง “เอิร์น” ก็มาทำหน้าที่เซ็นเตอร์ที่ “เจนนิส BNK48” เคยสร้างความประทับใจไว้ ซึ่งโดยรวมก็ถือเป็นการส่งท้ายที่งดงาม 

แต่ตามธรรมเนียมของการแสดง 48 Group ที่จะต้องมีช่วงอังกอร์ หลังจากที่พี่ ๆ สื่อมวลชนร้องขออังกอร์สักครู่ รุ่น 3 ทั้ง 16 คนก็กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง ด้วยชุดสำหรับอังกอร์ คือ เสื้อยืดขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น ก่อนจะเปิดช่วงนี้ด้วย “Jabaja” ที่ “แพนเค้ก” เป็นเซ็นเตอร์นำทีมเพื่อน ๆ ก่อนจะตามด้วย “Warota People” ที่ “ปาเอญ่า” กลับมารับบทเซ็นเตอร์อีกครั้ง ซึ่งทั้ง 2 เพลงก็เรียกภาพทรงจำที่รุ่นพี่ทำเอาไว้ได้ดี 

และแน่นอนว่า เมื่อเสียงระฆังดังกังวานก็สื่อว่า ช่วงเวลาสุดท้ายจริง ๆ ได้มาถึงแล้ว และเมื่อเสียงกลองดังขึ้น ความหวานเศร้าของ “Sakura no Hanabiratachi (ความทรงจำและคำอำลา)” ก็เข้ามาครอบครองความรู้สึกทั้งของผู้ชมและรุ่น 3 ทั้ง 16 คนที่แสดงเองว่า ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็หลีกหนีจากการอำลาไปไม่พ้น  

นั่นอาจจะเป็นที่มาของหยาดน้ำตาของเมมเบอร์หลายต่อหลายคนที่รื้นดวงตาเมื่อถึงตอนต้องเอ่ยคำลาจริง ๆ เพราะเมื่อถึงจุดนี้ ทุกอย่างก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความมุ่งมั่นพยายามจากการฝึกอย่างหนักตลอดระยะเวลา 2 เดือน ไม่รวมถึงเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมากับการตระเตรียมที่จะก้าวไปสู่การเป็นเมมเบอร์ BNK48 อย่างเต็มตัว ก็ได้บำเหน็จทุกคนเป็นเสียงปรบมือและความภาคภูมิใจแล้ว  

และเมื่อม่านของเธียเตอร์ได้ถูกรูกเข้าหากัน นั่นก็หมายความว่า ทุกคนได้เวลากลับบ้านกันแล้ว… 

แต่เดี๋ยวก่อน! ยังมีอีกพิธีการหนึ่งรออยู่เบื้องหน้า BNK48 The Campus นั่นคือพิธีการติดภาพของเมมเบอร์รุ่นที่ส 3 ในชุด “Ganbare! Kengkyuusei!” เพื่อเป็นการบ่งชี้ว่า เค็งคิวเซย์ทั้งหมดได้เป็นส่วนหนึ่งของเธียเตอร์แห่งนี้และ BNK48 อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว นอกจากเมมเบอร์ที่ขึ้นแสดงทั้ง 16 คน ยังมีเมมเบอร์รุ่นที่ 3 อีก 2 คนคือ “Grace BNK48-วิรัลพัชร ธำรงค์พันธวนิช” กับ “Jaokhem BNK48-ชนิกานต์ บุษดี” ที่ไม่ได้ขึ้นแสดงรอบนี้  
 
ขณะที่ “Pakwan BNK48-พาขวัญ น้อยใจบุญ” จากรุ่น 2 เป็นตัวแทนเค็งคิวเซย์รุ่นพี่มาร่วมพิธีติดภาพด้วย ขณะที่เค็งคิวเซย์อีก 4 คนคือ “Mind BNK48-ปณิศา ศรีละเลิง” จากรุ่น 1 และ “Khamin BNK48-มณิภา รู้ปัญญา”, “Ratah BNK48-รตา ชินกระจ่างกิจ” และ “View BNK48-กมนธิดา โรจน์ทวีนิธิ” จากรุ่น 2 ที่ไม่ได้มาร่วมพิธีด้วย “เฌอปราง” “พาขวัญ” และ “ครูปิ๋ม” ชิไฮนินของวงเป็นผู้ติดภาพให้แทน เป็นอันจบงานเปิดตัวสเตจ “Ganbare! Kengkyuusei!” ได้อย่างงดงาม 
 
สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถเริ่มจองบัตรและติดตามชม สเตจ “Ganbare! Kengkyuusei!” กันได้ตั้งแต่วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 27-28 มีนาคม 2564 นี้ โดยเปิดวันละ 1 รอบ เวลา 13:00 น. ด้วยเมมเบอร์เซ็ตเดียวกับรอบสื่อมวลชน 

ขอพลังแต้มบุญจงอยู่คู่ทุกคน สวัสดี

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส