ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหนังในจีนถือเป็นตลาดที่น่าจับตามองมาก เอาแบบมองเห็นชัดเจนคือปริมาณหนังจีนต่อปีที่ทำออกมามากขึ้น จำนวนโรงหนังในประเทศเขาที่ผุดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ดครอบคลุมหัวเมืองต่างๆ แต่ละจังหวัด รายได้เฉลี่ยคนจีนสูงขึ้นจากเศรษฐกิจที่เติบโต พอคนมันกล้าจับจ่าย โจทย์การตลาดก็ง่าย เงินหมุนเวียนสะพัด ทีนี้อุตสาหกรรมหลักๆ ก็โตไว (ยังไม่พูดถึงแวดวงมือถือหรือฟุตบอลไชนีส ซุปเปอร์ลีก) จากความได้เปรียบในเรื่องของประชากรที่มากมายมหาศาลนี่แหละ 

แน่นอนว่ารูปแบบหนังจีนสไตล์กำลังภายในจ๋าก็ถูกทำให้มันโมเดิร์นดูง่ายและน่าเข้าหามากขึ้น (แต่ยังคงสไตล์ความรกอยู่เหมือนเดิม) โดยเฉพาะภาคซีจี เราจะเห็นงานหนังจีนที่เป็นสินค้าส่งออกไปตลาดหนังเมืองนอกนั้น มีความโดดเด่นชัดเจนขึ้นเรื่อยในเรื่องของความเป็นแอ๊คชันไซไฟแบบเยอะๆ ล้นๆ แต่ขณะเดียวกัน ในหลายๆ เรื่องก็ปรับเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับตัวพล๊อตเรื่อง ให้น้ำหนักกับรายละเอียด การปูเรื่องมากขึ้น เหมือนในงานหนังล่าสุดของ เฉิน หลง (แจ๊คกี้ ชาน) อย่าง Railroad Tigers หรือในชื่อ ‘ใหญ่ ปล้น ฟัด’

ใครทำอะไร? ที่ไหน?

ต้องขอบคุณทาง Mono Film ที่เชิญทีมเว็บแบไต๋เราไปร่วมชมรอบพิเศษด้วย ซึ่งหน้าหนัง ‘ฟัดๆ’ แบบนี้ สำหรับคอหนังแล้วคงเดาเรื่องกันได้ไม่ยาก เรียกว่ารู้ว่าจะเจออะไรบ้างในโรงหนัง (ฮา) ส่วนตัวพล๊อตเรื่องของ Railroad Tigers ก็หยิบจับเอาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงในช่วงสงครามแปซิฟิกปี 1940 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นขยายอำนาจและเข้ารุกรานแผ่นดินจีนมาเล่น เป็นเรื่องราวของกลุ่มพนักงานรถไฟในมณฑลซานตงที่มาจากชาวบ้านธรรมดาๆ มารวมตัวกันแบบลับๆ และได้รับการขนานนามว่า ‘พยัคฆ์รถไฟ’ มีแผนสกัดกั้นกองทัพญี่ปุ่น ด้วยการระเบิดสะพานที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการขนเสบียง

นอกจาก เฉิน หลง ที่อยู่ในสถานะแม่เหล็กแล้ว หนังเรื่องนี้น่าสนใจตรงการแคสตัวละครซึ่งได้นักแสดงวัยรุ่นแววดีสไตล์มุ๊งมิ๊งกรุ้มกริ่มหลายคนมาเล่นตั้งแต่ หวงจื่อเทา อดีตสมาชิกวง EXO, หวังข่าย, อลัน อิง และ ดาเรน หวัง รวมทั้งผู้กำกับ ติงเซิง ที่เคยกำกับ ‘วิ่งสู้ฟัด’ และ ‘ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด’ มาแล้ว แม้หลายคนคาดว่าตัวหนังน่าจะแอ๊คชั่นบู๊ล้างผลาญจ๋าๆ แต่ในเรื่องนี้ต้องบอกว่า เฉิน หลง ในบทบาทของ ‘หม่าหยวน’ นั้นสงบเสงี่ยมลงเยอะ และต้องปรับบทให้ขรีมน่าเกรงขามให้สมกับเป็นหัวหน้าแก๊งค์นั่นเอง

หนังมีอะไรมาขาย?

ในช่วงแรก Railroad Tigers เน้นมากกับการ ‘โชว์ของ’ โดยเฉพาะลูกเล่นในการใช้ซีจีมาเป็นเครดิตหนังแปะไว้รายทางในช่วงต้นเรื่อง แม้ว่าบางทีมันอาจดูเยอะ ดูเฝือ ไปขัดจังหวะหนังเองบ้าง แต่ก็ไม่ได้รำคาญขนาดต้องติดใจอะไร ที่น่าเซอร์ไพรส์เลยคือภายใต้แนวทางของหนังเฉินหลงที่หนักในเรื่องบู๊แอ๊คชันเยอะๆ จัดๆ นั้น มีการใช้เวลาไปกับการปูเรื่องราวมากมาย เดินเรื่องช้าในช่วงครึ่งแรก แต่มาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องขององค์ประกอบภาพ ต้องบอกว่าเป็นหนังที่มีภาพสวยมากเรื่องหนึ่งเลย

อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างถูกปูไปเรียบร้อย ตัวหนังก็ค่อยๆ เดินจังหวะได้เร็วขึ้น แม้มีบางฉากที่มาและไปแบบงงๆ ไม่สมเหตุสมผลบ้าง แต่ภาพรวมแล้วถือว่าตรึงคนดูได้ จังหวะหนังคอเมดี้ในสไตล์ เฉิน หลงถูกใส่เข้ามาในหนังแบบพอดีๆ ให้ฮากันอยู่หลายครืน นำพาไปสู่จุดพีคที่ดี แม้หนังมันจะฆ่ากันเอาเป็นเอาตาย แต่ก็เห็นได้ชัดว่างานพะยี่ห้อเฉิน หลง นั้นจะเลี่ยงฉากแหวะอยู่เสมอ

คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปไหม?

แน่นอนว่าด้วยวัยที่ล่วงเลยไปแตะหลัก 62 แล้ว ความดุดัน ความเข้มข้นในฉากบู๊แอ๊คชันของเฉินหลงอาจไม่ได้จัดเต็มจัดหนักให้กดว้าวกันซึ่งเห็นได้ชัดจากตัวหนังในรอบเกือบสิบปีหลัง แต่หากมองงานของเฮียแกในมุมธุรกิจ มันก็ดีเกินพอที่จะเป็นแฟรนไชส์ขายได้เรื่อยๆ เพราะงานมีลายเซ็นต์ มีแฟนคลับทุกรุ่น กลิ่นอายตัวหนังที่มีชื่อยี่ห้อ แจ๊คกี้ ชาน มันอาจไม่จำเป็นแล้วที่ต้องมาวิจารณ์ว่าดีหรือไม่ดี ในเมื่อส่วนผสมของดรามาแอ๊คชันเปื้อนคอเมดี้มันยังสร้างความสุขให้คนดูได้จนถึงทุกวันนี้

ใหญ่ ปล้น ฟัด (Railroad Tigers) เข้าฉาย 5 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ทั้งระบบปกติและ 4DX

Play video

อ้างอิงภาพ

อ้างอิงภาพ2