วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม เจ้าของรถยนต์ SUV ไฟฟ้า Tesla Model Y ได้ทวีตหลังรับมอบรถโดยแสดงภาพให้เห็นรุ่นของการอัปเดตซอฟต์แวร์พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยใหม่ คือกล้องในห้องโดยสารเหนือกระจกมองหลังนั้นสามารถตรวจจับและแจ้งเตือนการไม่เอาใจของคนขับในขณะขับขี่โดยเปิดใช้ระบบ Autopilot

ทั้งนี้ข้อมูลจากกล้องจะไม่ถูกส่งออกจากรถ ซึ่งหมายความว่าระบบไม่สามารถบันทึกหรือส่งข้อมูลได้เว้นแต่จะเปิดใช้งานการแบ่งปันข้อมูล สรุปง่าย ๆ ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะรั่วไหล

การใช้กล้องตรวจสอบความเอาใจใส่ของผู้ขับขี่ได้เพิ่มเติมเข้ามาแทนที่จะตรวจสอบจากแรงจับถือพวงมาลัยเพียงอย่างเดียว ซึ่งตั้งข้อสังเกตได้ว่าหลังจากเกิดเหตุรถยนต์ Tesla Model S 2019 พุ่งชนจนมีผู้เสียชีวิต 2 รายที่เท็กซัสโดยไม่มีคนขับนั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัย จากนั้นมีการพิสูจน์ให้เห็นว่าระบบ Autopilot สามารถทำงานให้รถขับไปเองได้ด้วยการหลอกโดยใช้น้ำหนักถ่วงที่พวงมาลัย

ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ระบบ Autopilot ของเทสลาถูกเปรียบเทียบถึงการใช้ประโยชน์จากกล้องตรงกระจกมองหลังมาช่วยตรวจสอบว่าคนขับยังมองถนนอยู่หรือไม่เหมือนกับรถแบรนด์อื่นอย่าง GM และ Ford ซึ่งจริง ๆ แล้วเทสลาได้เคยทดสอบการใช้กล้องตรวจจับผู้ขับขี่มาแล้วก่อนหน้านี้ แต่หลายปีก่อนซีอีโอ อีลอน มัสก์ ได้ปฏิเสธว่าการติดตามดวงตาผู้ขับขี่นั้นไม่ได้ผล จนในที่สุดตอนนี้ก็ต้องยอมรับมันตามกระแส

นอกจากนี้ในทวีตได้เผยถึงคุณสมบัติด้านความปลอดภัย Summon ช่วยนำทางเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่าง ๆ สำหรับการเข้าจอดที่ซับซ้อนและ Emergency Lane Departure Avoidance ช่วยนำรถกลับเข้าสู่เลนเมื่อตรวจพบว่ารถกำลังออกนอกเลนได้ถูกปิดการใช้งาน อีกทั้งได้เพิ่มระยะห่างการติดตามรถคันข้างหน้าและจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 75 ไมล์/ชม. (120 กม./ชม.) ในคุณสมบัติ Autosteer ซึ่งได้ถูกจำกัดตามที่เทสลาประกาศใช้ระบบ Tesla Vision (ถอดเรดาร์ออกไป) ในรถยนต์ Model 3 และ Model Y ที่ส่งมอบในตลาดอเมริกาเหนือเดือนพฤษภาคม

ที่มา : engadget

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส