วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม วินฟาสท์ (VinFast) บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนามในเครือวินกรุ๊ป (Vingroup) เผยว่ากำลังวางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตเซลล์และแพ็กแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในสหรัฐฯ และจะเลิกผลิตรถยนต์ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินโดยเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นรายแรกเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2022

วินฟาสท์เป็นผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศรายแรกของเวียดนามที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินภายใต้แบรนด์ของตัวเองและเริ่มออกขายสู่ท้องตลาดเมื่อปี 2019 ต่อมาได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและเริ่มจำหน่ายในเวียดนามเมื่อปลายปี 2021

วินฟาสท์ตั้งใจจะนำรถยนต์ SUV ไฟฟ้าบุกสหรัฐฯ โดยหมายแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทสลา (Tesla) และเจเนรัลมอเตอร์ส (General Motors : GM) ด้วยกลยุทธการเช่าแบตเตอรี่ (ข้อดีคือช่วยลดราคาของรถยนต์ที่ลูกค้าต้องจ่ายล่วงหน้า สามารถตรวจสอบมูลค่าแบตเตอรี่และเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ฟรี) อีกทั้งจะตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มแรกจะจัดหาเซลล์แบตเตอรี่ในสหรัฐฯ มาประกอบแพ็กเองและต่อไปก็จะตั้งโรงงานผลิตเซลล์และประกอบแพ็กแบตเตอรี่เองทั้งหมด ในตอนนี้ได้เริ่มสำรวจพื้นที่กว่า 50 แห่งและจะคัดลงมาเหลือ 3 แห่ง

เดือนธันวาคม วินกรุ๊ปเผยว่าได้เริ่มสร้างโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในเวียดนาม ซึ่งเล็งว่าจะเริ่มผลิตแพ็กแบตเตอรี่ให้ได้ 100,000 แพ็กต่อปีด้วยเงินทุน 174 ล้านเหรียญ (5,841 ล้านบาท) และต่อจากนั้นจะปรับอัตราการผลิตเพิ่มเป็น 1,000,000 แพ็กต่อปี สรุปง่าย ๆ ว่าอนาคตวินฟาสท์สามารถนำเทคโนโลยีและความรู้เหล่านี้ไปผลิตในสหรัฐฯ ได้ไม่ยาก

ก่อนหน้านี้วินฟาสท์วางแผนว่าจะเริ่มสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ช่วงปลายปี 2024 และล่าสุดยังมีแผนจะสร้างงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีด้วยเพื่อต้องการให้โรงงานตั้งอยู่ใกล้กับตลาดหรือลูกค้ามากที่สุด

วินฟาสท์ได้เปิดจองรถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่น VF8 ในสหรัฐฯ เริ่มต้นที่ราคา 41,000 เหรียญ (1,376,349 บาท ไม่รวมการจ่ายค่าแบตเตอรี่แบบรายเดือน) ทั้งนี้จะประยุกต์ใช้บล็อกเชนมาบันทึกคำสั่งซื้อและยืนยันความเป็นเจ้าของรถยนต์ โดยจะมาแข่งกับรถยนต์ SUV ไฟฟ้าของเทสลาในระดับราคา 50,000 เหรียญ (1,678,575 บาท) และมีเป้าหมายจะทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2022 ให้ได้ 42,000 คัน

ที่มา : reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส