ภาวะวิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ท่าทางว่าจะยังไม่มีที่สิ้นสุดลงในเร็ววัน ส่งผลให้โรงภาพยนตร์ต้องปิดการให้บริการอย่างไม่มีกำหนด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในธุรกิจดังกล่าวให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้หลังพ้นจากวิกฤตการณ์นี้ สมาคมผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (The National Association of Theatre Owners; NATO) จึงผลักดันให้สภาคองเกรสพยายามหาเงินทุนและเงินกู้ยืมให้แก่ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

งบประมาณความช่วยเหลือนี้ มีมูลค่าประมาณ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (25 มีนาคม 63) และคาดว่าจะได้รับเซ็นลงนามจาก ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ในเร็ววันนี้ งบดังกล่าวจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้แก่ผู้ประกอบการ สร้างความเชื่อมั่นในการกลับมาเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์แก่ชุมชนอีกครั้งในอนาคต 

แพทริค คอร์โคแรน (Patrick Corcoran) หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของสมาคม ฯ แนะนำว่า โรงภาพยนตร์ควรเปิดให้บริการฟรีเมื่อกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง แนวคิดนี้ มีที่มาจากการกลับมาให้บริการของโรงภาพยนตร์ในประเทศจีนที่นำภาพยนตร์เก่ามาฉายให้ชมฟรี หากโรงภาพยนตร์มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง การให้ชมภาพยนตร์ฟรีก็เป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยดึงดูดให้ผู้คนกลับมารำลึกนึกถึงการชมภาพยนตร์จอใหญ่ร่วมกับผู้ชมคนอื่นอีกครั้ง

การแพร่ระบาดของโรคทำให้พฤติกรรมการรับชมภาพยนตร์เปลี่ยนจากการชมในโรงไปสู่การรับชมออนไลน์ในระบบสตรีมมิง ทำให้เกิดความกังวลว่า แม้หลังผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว ผู้ชมก็อาจจะยังยึดติดกับระบบการให้บริการแบบสตรีมมิงอยู่

แค่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการปิดโรงเรียนในสหรัฐ ทำให้ยอดผู้ติดตาม Disney+ พุ่งสูงขึ้นถึงสามเท่า เร่งให้ภาพยนตร์ Frozen 2 เข้าสู่ระบบสตรีมมิงเร็วขึ้น ยิ่งเลื่อนการฉายรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ออกไปเท่าใด ก็ดูเหมือนว่า ผู้ให้บริการในระบบสตรีมมิงอย่างเช่น เน็ตฟลิกซ์ และฮูลู จะกลายเป็นเพียงโลกแห่งความบันเทิงเดียวในตอนนี้ การอัดฉีดงบประมาณดังกล่าวให้แก่โรงภาพยนตร์ จึงมีส่วนช่วยให้คนกลับมารับชมภาพยนตร์ในโรง และประคับประคองอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้กลับมาสู่ภาวะปกติได้อีกครั้ง

อ้างอิง1
อ้างอิง2

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส