หนุ่นน้อยรายนี้มีชื่อว่า อาวิ ชิฟฟ์แมน วัยเพียงแค่ 17 ปี เขาเป็นชายเมืองซีแอตเทิลโดยกำเนิด ชื่อของอาวีเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อเขาทำเว็บไซต์ https://ncov2019.live/ เพื่อติดตามผลการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทั้งในสหรัฐฯและทั่วโลก พื้นเพดั้งเดิมของอาวีเขาก็เหมือนเด็กหนุ่มในวัยนี้ทั่วไป ที่ชอบเล่นวิดีโอเกมเป็นชีวิตจิตใจ เกมโปรดคือ Minecraft แล้วยังชอบเล่น CS:GO กับเพื่อน ๆ จนเมื่อทั่วโลกประสบวิกฤตการณ์ไวรัส Covid-19 แพร่ระบาด จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาหันมาทำเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลติดตามผล
อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เขารวบรวมข้อมูลมากมายเพียงนี้?
การออกแบบหน้าตาเว็บที่ดูง่าย ทำให้ผู้คนชื่นชอบ
อาวีเล่าว่าขั้นตอนที่ยากที่สุดในการทำเว็บไซต์นี้คือการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากจากทั่วโลก โดยเฉพาะข้อมูลจากรัฐบาลจีน ที่เขาเจอปัญหาหนักคือการแปลภาษาจีน ทำให้เขาต้องใช้วิธีการพลิกแพลงเสียหน่อยกับข้อมูลภาษาจีนกว่าจะได้ตัวเลขที่ถูกต้อง
อาวีบอกว่าจุดมุ่งหมายในการทำเว็บไซต์นี้ เพื่อต้องการให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ จำนวนผู้ที่รักษาหาย หรือผู้ที่เสียชีวิตจากทุก ๆ ประเทศ และข้อมูลอื่น ๆ อีกมากที่เป็นประโยชน์ และเว็บไซต์ของเขามีข้อมูลที่ละเอียด ดูง่าย ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในระยะเวลาอันสั้น แม้แต่ตัวเขาเองยังตกใจที่เห็นว่ามีผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเขาแล้วถึง 350 ล้านคน นั่นคือประมาณ 30 ล้านคนต่อวัน
แน่นอนว่าเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากมายขนาดนี้ ย่อมเป็นที่สนใจของบรรดานายทุนหลายราย ที่มาขอลงโฆษณาบนเว็บไซต์ของเขา อาวีเล่าว่าเขาได้รับการติดต่อขอลงโฆษณาบ่อยมาก บางรายเสนอตัวเลขสูงถึง 8 ล้านเหรียญแต่เขายังบอกปัดไป
ทำไมถึงปฏิเสธข้อเสนอที่มูลค่ามากขนาดนั้น?
อาวี ชิฟฟ์แมน ก็ยังชอบเล่นวิดีโอเกมกับเพื่อน ๆ
อาวีเผยเหตุผลกับ Bloomberg ว่า ที่เขาปฏิเสธข้อเสนอไปเพราะ
“เหตุที่ผมบอกปฏิเสธข้อเสนอพวกนั้นง่าย ๆ ก็เพราะผมไม่ได้ทำเว็บไซต์นี้เพื่อมาหาเงิน ผมมีความรู้สึกนึกคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมอยากจะรีไทร์ตอนนี้เลยก็ได้ แต่ผมยังไม่อยากเลิกทำตอนอายุ 17 หรอกนะ ผมยังอยากเรียนรู้อะไรอีกเยอะ ข้อมูลกว่าครึ่งในเว็บไซต์ของผมเนี่ย ก่อนทำผมยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ”
“แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการทำเว็บไซต์นี้ ไม่ใช่ความยากลำบากในการเขียนโปรแกรม แต่ผมต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างมากที่ลงมือทำ ผมทำตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีใครพูดถึงไวรัสตัวนี้เลย ผมหวังว่าสิ่งที่ผมทำลงไปนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่อย่างผมได้พบแนวทางที่เขาจะช่วยเหลือสังคมได้เช่นกัน อย่างสถานการณ์แพร่ระบาดที่ทุกคนเผชิญกันอยู่นี้ ถ้าพวกเขารู้ตัวว่าเขาถนัดอะไร ก็ให้นำทักษะนั้นออกมาสร้างสรรค์อะไรสักอย่างเหมือนอย่างที่ผมทำนี่”