ผ่านมาเกือบ 3 ปีหลังจากโซนี่เปิดตัว Walkman A100 และ ZX500 ที่กลับมาใช้ Android อีกครั้ง ในที่สุดโซนี่ก็เปิดตัวเครื่องเล่นเพลงระดับเริ่มต้นตัวใหม่คือ Sony Walkman A300 (รหัส NW-A306) และเครื่องเล่นเพลงระดับกลางคือ Walkman ZX700 (รหัส NW-ZX707) ที่ปรับปรุงดีไซน์และอายุแบตเตอรี่ให้นานขึ้น ลงแอปสตรีมเพลงอย่าง Spotify, Tidal, Apple Music ได้ พร้อมรองรับเสียง Hi-Res Audio ทันที ที่สำคัญคือนำฟีเจอร์ USB-DAC กลับมาด้วย

Sony Walkman A300

Sony Walkman A300 3 สี
Sony Walkman A300 3 สี

หน้าตาของ Walkman A300 นั้นไม่ต่างจาก A100 รุ่นเดิมมากนัก ตั้งแต่ขนาดใกล้เคียงกัน (A300 ขนาด 56.5mm x 98.4mm x 11.8mm หนัก 113 กรัม ส่วน A100 มีขนาด 55.9mm x 98.9mm x 11.0mm หนัก 103 กรัม) แถมยังมีจอ 3.6 นิ้วความละเอียด 720p เท่ากันด้วย

แต่ที่แตกต่างกันคือฝาหลังที่รุ่นใหม่ดีไซน์เป็นลอนๆ แถมมีให้เลือกแค่ 3 สีคือเทา, น้ำเงินแก่ ๆ และดำ ที่เน้นไปในลุคผู้ใหญ่ มากกว่า A100 ที่มี 5 สี เน้นสีสันสดใสโดนใจวัยรุ่น

ส่วนสเปกด้านเสียงไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมาก คือดีไซน์วงจรภายในแยกบล็อกเสียงกับบล็อกพาวเวอร์ เพื่อลดสัญญาณรบกวนระหว่างกัน ใช้โลหะบัดกรีคุณภาพสูงผสมทองคำเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณภายใน และใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิสก์ภายในเกรดพิเศษสำหรับงานเสียง แล้วก็รองรับ DSEE Ultimate เพื่ออัปสเกลเสียง และใช้แอปดิจิทัล S-Master HX เหมือนกันครับ

แต่จุดที่ปรับปรุงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคืออัปเกรดจาก Android 9 มาใช้ Android 12 ซึ่งน่าจะมีการอัปเกรดหน่วยประมวลผลด้วย ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้น และอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุด 36 ชั่วโมง (ส่วนถ้าฟัง FLAC 96 kHz จะเหลือ 32 ชั่วโมง) เทียบกับ A100 รุ่นเดิมฟังได้สูงสุด 26 ชั่วโมง

ที่สำคัญคือความสามารถ USB-DAC หรือการต่อ Walkman เข้ากับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านช่อง USB-C เพื่อใช้งานแทนซาวด์การ์ดเพื่อให้เสียงจากคอมพิวเตอร์ดีขึ้น ที่ตัดออกไปใน A100 นั้นกลับมาในรุ่นนี้ด้วย

Sony Walkman ZX700

สำหรับรุ่นพี่อย่าง ZX700 นั้นปรับดีไซน์จาก ZX500 ตัวก่อนหน้านี้ไปเยอะครับ จากเดิมเป็นดีไซน์โค้งมน แล้วก็มีจอขนาด 3.6 นิ้วเท่ากับตัว Walkman A100 มาถึงรุ่นใหม่นี้ปรับดีไซน์เป็นขอบตัด ปรับขนาดจอเพิ่มเป็น 5 นิ้ว แล้วปรับขนาดเครื่องทุกด้านให้ใหญ่ขึ้น (ZX700 ขนาด 72.5 มม. x 132.3 มม. x 16.9 มม. แล้วหนัก 227 กรัม เทียบกับ ZX500 ที่มีขนาด 57.9 มม. x 122.6 มม. x 14.8 มม. หนัก 164 กรัม)

จุดแตกต่างสำคัญระหว่าง ZX700 ที่นับว่าเป็นรุ่นกลางกับ A300 ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นคือ ZX700 รองรับช่องหูฟังแบบ balanced 4.4 mm ทำให้เสียงที่ส่งออกมาสงัดขึ้น แทนที่จะมีช่องเสียบหูฟัง Unbalanced 3.5 mm อย่างเดียวเหมือน A300 ก็ทำให้ ZX700 ออกมาตอบสนองผู้นิยมเสียงเพลง Audiophile ระดับสูงขึ้น

Sony Walkman ZX700
Sony Walkman ZX700

นอกจากนี้ยังมี DSD Remastering Engine เพื่อแปลงเสียงจาก PCM ปกติเป็น DSD ก่อนที่จะส่งให้เราฟัง ซึ่งโซนี่เคลมว่าให้เสียงที่เป็นแบบแอนะล็อกมากขึ้น นอกจากนี้ก็มีเทคโนโลยีพวก DSEE Ultimate หรือ DC Phase Linearizer เหมือนกับรุ่นเล็กครับ ส่วนฟังก์ชัน USB-DAC ก็ใส่กลับมาเหมือนกัน

ชิ้นส่วนภายในพื้นฐานเหมือน A300 แต่เพิ่ม Capacitor โพลีเมอร์ความจุสูงแบบแข็งขนาดใหญ่ พร้อมตัวเก็บประจุโพลีเมอร์ความจุสูง พร้อมบล็อกกลึง Oxygen-Free Copper ครอบป้องกันสัญญาณรบกวนมากขึ้น

ภายในของ Sony Walkman ZX700
ภายในของ Sony Walkman ZX700

แต่จุดที่ ZX700 ด้อยกว่าคืออายุแบตเตอรี่นั้นใช้ต่อเนื่องสูงสุดได้ 25 ชั่วโมง เทียบกับ A300 ที่ใช้ต่อเนื่องได้ 36 ชั่วโมง

ซึ่งถ้าความสามารถของ Walkman ZX700 ยังไม่สะใจคอเพลงระดับเทพแล้ว โซนี่ก็ยังมีตัวท็อปที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้อย่าง Sony Walkman WM1ZM2 และ Walkman WM1AM2 ที่ราคาเริ่มต้น 49,990 บาท

ราคาและวันวางขาย

Sony Walkman A300 (NW-A306) ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 46,200 เยน หรือราว 12,000 บาท โดยความจุเริ่มต้นที่ 32 GB และมีรุ่น 64 GB ให้เลือก ซึ่งประเทศไทยจะมีแค่รุ่น 32 GB สีดำขายในราคา 11,990 บาท

ส่วน Sony Walkman ZX700 (NW-ZX707) มีความจุเดียวให้เลือกคือ 64 GB โดยตั้งราคาไว้ 104,500 เยน ส่วนราคาไทยคือ 29,990 บาทครับ

ทั้ง 2 รุ่นสามารถใส่การ์ด microSD เพื่อใส่เพลงได้ และมีกำหนดวางขายในญี่ปุ่นวันที่ 27 มกราคมนี้ ส่วนราคาและวันวางขายในไทยตอนนี้ยังไม่ระบุ แต่คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมครับ

อย่างไรก็ตาม ทั้ง Sony Walkman ทั้ง 2 รุ่นไม่รองรับ Bluetooth Codec รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Qualcomm aptX Adaptive แต่เน้นการรองรับ Sony LDAC ที่รองรับ Hi-Res Audio Wireless อยู่แล้วครับ

อ้างอิง: Sony

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส