ช่วงนี้ค่ายเกมที่น่าจะมีดราม่าเยอะที่สุดในตลาดคงหนีไม่พ้น Konami ครับ หลังจากที่ Hideo Kojima ลาออกจากค่าย เกม Silent Hill ภาคล่าสุดยกเลิกการพัฒนา ผู้สร้าง Castlevania ก็ลาออกไปสร้างเกมของตัวเอง ขนาดคนไม่ได้ตามข่าวยังรู้ว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในบริษัท ล่าสุด CEO ของโคนามิคนใหม่ออกมาให้สัมภาษณ์ 2 ประเด็นล้มศรัทธาแฟนเกม Konani เดิม คือบริษัทจะหันไปทำเกมมือถือเป็นหลัก และจะเน้นการซื้อฟีเจอร์ในเกมแบบ in-app

อีตานี้แหละ

อีตานี้แหละ

Hideki Hayakawa CEO คนใหม่ของ Konami ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Trendy Net ถึงภารกิจใหม่ที่ Konami จะต้องมุ่งต่อไปในยุคนี้ ซึ่งคุณ NeoGAF ถอดความออกมาเป็นภาษาอังกฤษ และเว็บแบไต๋ขอแปลเป็นภาษาไทยว่า

พวกเราจะมุ่งพัฒนาเกมสำหรับโมบายอย่างหนัก โดยต่อไปนี้แพลตฟอร์มหลักของ Konami คืออุปกรณ์พกพา พร้อมนำโมเดลธุรกิจแบบ Pay-as-you-play มาใช้ เหมือนในเกม Power Pro และ Winning Eleven ที่จะเปลี่ยนจากการขายไอเท็ม มาเป็นการขายฟีเจอร์ในเกมแทน

เราเห็นว่าถึงผู้ซื้อจะซื้อตัวเกมจริงๆ ไปแล้ว แต่ก็ยังซื้อเนื้อหาเพิ่มเติมด้วย จากความสำเร็จของ Power Pro ทำให้เราต้องการดันเกมชื่อดังของเราสู่โมบายมากกว่าแต่ก่อน

วงการเกมอาจจะมีหลายแพลทฟอร์ม แต่วันนี้เราเห็นแล้วว่าแพลมฟอร์มที่ใกล้ชิดเรามากที่สุดคือโมบาย โมบายจะเป็นอนาคตของเกม ซึ่งเราก็หวังว่าเกมอย่าง MGSV หรือ Winning Eleven จะยังขายได้ดี แต่เราก็มองลู่ทางไว้เสมอว่าจะนำลงสู่อุปกรณ์พกพาอย่างไร ซึ่งโมบายนี้แหละที่จะเชื่อมคนจำนวนมากเข้าสู่วงการเกม

ในฐานะเกมเมอร์ที่เล่นเกมมาตลอดทั้งบนอุปกรณ์พกพา และเครื่องเล่นเกมจริงๆ ต้องบอกว่า 2 ตลาดนี้เหมือนจะมาแทนที่กันได้ แต่จริงๆ มันแทนที่กันไม่ได้ ไม่มีใครล้มตลาดใคร กลับกันทั้ง 2 ต่างผลักดันกันให้ตลาดเติบโต

การที่ Konami ออกมาประกาศว่าต่อไปจะมุ่งเน้นแต่เกมมือถือ นั้นดูเหมือนจะเป็นทางที่ถูกต้องเมื่อดูจากตัวเลข เพราะเกมมือถือใช้เวลาพัฒนาน้อยกว่า แต่ได้กำไรสูงกว่า คนเข้าถึงได้เยอะกว่า เมื่อเทียบกับเกมระดับ AAA ที่ต้องลงทุนมหาศาลทั้งกราฟฟิค เสียง และรูปแบบการเล่น แต่สามารถเข้าถึงได้แต่เกมเมอร์ระดับฮาร์ดคอร์

เกมมือถือปัจจุบัน เกมที่ทำเงินมีแต่แนวซ้ำๆ เพราะผู้เล่นเป็นคนทั่วไป ไม่ใช่เกมเมอร์

แต่สิ่งที่คนเล่นเกมสังเกตเห็นมาตลอดคือความเสื่อมโทรมของตลาดเกมพกพา ที่ความคิดสร้างสรรค์ค่อยๆ หายไปจากเกมกระแสหลัก เกมอะไรที่ดังขึ้นมา ก็พร้อมจะมีเกมเลียนแบบอีกเป็นสิบเกมทำตามออกมา แล้วก็แปะโฆษณา แปะ in-app ในขณะที่เกมจริงๆ ที่ซื้อครั้งเดียวเล่นได้จนจบเกมลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ เพราะผู้ใช้อุปกรณ์พกพาจำนวนมาก ไม่อยากซื้อเกมราคาหลักร้อย หลักพันมาเล่น ซึ่งต่างจากผู้เล่นเกมในเครื่องเกมจริงๆ

อนาคตของ Konami จะเป็นยังไงต่อยังไม่รู้ แต่ตอนนี้รู้สึกเสียดายเกมในมือ Konami อย่าง Castlevania, Contra, Metal Gear, Silent Hill, Suikoden มาก

ปล. ว่าแต่การซื้อฟีเจอร์ในเกมเพิ่มที่ CEO ของ Konami ว่า รวมถึงซื้ออะไรแปลกๆ อย่างซื้อฉากจบเกม หรือซื้อการควบคุมเพิ่มไหมนะ

ที่มา: Forbes