ถึงคราวต้องโบกมือลา Flash แล้ว เมื่อ website ชื่อดังต่างๆเริ่มทยอยยกเลิกการใช้งาน เพื่อตัดปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

Screen Shot 2558-07-15 at 10.21.49 AM

ดูเหมือนว่า มันใกล้จะถึงคราวอวสานของ Flash แล้ว เมื่อ website ชื่อดังต่างๆเริ่มทยอยยกเลิกการใช้งาน

Facebook

เริ่มที่ Facebook ที่ส่งสัญญาณชัดเจนมาก จากข่าวของเมื่อวานนี้ ที่ Alex Stamos หัวหน้าแผนกความปลอดภัยคนใหม่ของ Facebook ต้องการจะระบุวันที่ที่แน่นอนที่จะยกเลิกการใช้งาน Flash แล้ว

Mozilla Firefox

ตัว browser เวอร์ชั่นล่าสุดของ Mozilla Firefox ก็ได้ทำการบล็อค Adobe Flash ไปแล้ว โดยทาง Mark Schmidt หัวหน้าทีม support ของ Firefox ได้ทวีตเอาไว้ว่า การ update ล่าสุดของ Firefox จะทำการบล็อคการแสดงผลของ Flash Player ทุกเวอร์ชั่นบน web browser

แต่ผู้ใช้งานยังสามารถเปิดใช้งานได้ แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงจากการใช้งานไว้เอง

Screen Shot 2558-07-15 at 10.43.10 AM
YouTube

ในรายของ YouTube นั้นไวที่สุด โดยที่บริษัทฯทำการยกเลิกใช้งาน Flash ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว และเปลี่ยนมาใช้งาน HTML5 แทน

Google Chrome

browser ของทาง Google จะใช้ระบบที่ตรวจจับเนื้อหาบนหน้า website ซึ่งหากเป็น Flash ตัว browser จะปิดกั้นการแสดงผล และไม่ให้เล่นโดยอัตโนมัติ  แต่มันก็ยังเปิดใช้งานได้อยู่ ถ้าหากผู้ใช้งานต้องการ

Screen Shot 2558-07-15 at 11.18.23 AM

ถึงแม้ทาง Adobe จะหยุดพัฒนา Flash Player บนอุปกรณ์ mobile ไปแล้วทั้งแต่ปี 2011 เนื่องจากมันด้อยกว่า HTML5 อย่างเห็นได้ชัด

ลองย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ทาง Steve Jobs แห่ง Apple ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนเอาไว้ว่า Apple จะไม่สนับสนุนการทำงานของ Flash ซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ณ ตอนนั้น แถมยังรองรับการทำงานได้หลายภาษาด้วย

Jobs ได้ให้เหตุผลว่า Flash เป็นปัญหาหลักที่ทำให้เครื่อง Mac นั้นแฮงค์ และค้าง และเค้าเองได้เคยบอกเรื่องนี้กับทาง Adobe แล้วให้แก้ไขปัญหา พร้อมปิดช่องโหว่ของระบบซะ เพื่อความปลอดภัยของเครื่อง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่ถูกแก้ไข และยังคงอยู่อย่างนั้น

กระแสการต่อต้าน Flash นั้นอาจจะยังไม่สามารถทำให้อีกหลายๆเจ้ายกเลิกการใช้งาน Flash Player ทันที แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆแล้วว่า น่าจะถึงจุดจบของ Adobe Flash Player แล้ว

และทาง Adobe ก็เหมือนจะตัดใจจาก Flash Player แล้วเช่นกัน จึงไม่ได้พยายามจะหาทางแก้ไข หรืออุดช่องโหว่ที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่

ที่มา : theverge
รูปจาก : bestofmicro