ซิลิคอน ธาตุโลหะที่มีปริมาณมากเป็นลำดับที่ 2 บนเปลือกโลก ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นวัสดุสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ไปจนถึงการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ได้กลายเป็นวัสดุหายากมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

เว็บไซต์ Japan Times ได้รายงานว่า ปัญหาการขาดแคลนซิลิคอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลทำให้ราคาของซิลิคอนนั้น พุ่งสูงขึ้นถึง 300% หรือ 3 เท่า ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หลายบริษัทยังจำเป็นต้องประกาศหยุดการผลิตสินค้า ยกตัวอย่างเช่น Elkem ASA บริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์จากประเทศนอร์เวย์ และบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย ต้องระงับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื่องจากขาดแคลนวัสดุในการผลิต

silicon

ซิลิคอน เป็นแร่ธาตุที่มีปริมาณมากถึง 28% บนเปลือกโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในธาตุที่มีความสำคัญต่อมนุษย์มาก เนื่องจากถูกนำมาใช้ในการผลิตของแทบจะทุกชนิด ตั้งแต่ชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์, คอนกรีต ไปจนถึงแก้ว และชิ้นส่วนรถยนต์ อีกทั้งยังสามารถทำให้บริสุทธิ์เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุนำไฟฟ้าในแผงโซลาร์เซลล์ที่แปลงแสงแดดเป็นพลังงานไฟฟ้า

ซิลิคอนยังเป็นสารประกอบที่ทนน้ำและความร้อน ซึ่งถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในทางการผลิตวัสดุทางการแพทย์, ยาระงับกลิ่น, ถุงมือกันความร้อน และอื่นๆ อีกมากมาย

ปัญหาการขาดแคลนซิลิคอนนี้ ได้แสดงให้เห็นว่าวิกฤติพลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้านต่างๆ อย่างไรบ้าง โดยประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตซิลิคอนรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้สั่งลดปริมาณการผลิตลง ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีน

ก่อนหน้านี้ ซิลิคอนที่ผ่านการผลิตจากประเทศจีนนั้น มีราคาราว 8,000 – 17,000 หยวนต่อตัน หรือประมาณ 41,700 – 88,600 บาทต่อตัน แต่เมื่อรัฐบาลจีนได้สั่งยุติการผลิตในมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตซิลิคอนที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 2 ของจีน ลงกว่า 90% นับตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนธันวาคม 2021 ก็ทำให้ราคาของซิลิคอนพุ่งสูงถึง 67,300 หยวนต่อตัน หรือประมาณ 350,700 บาทต่อตัน

นอกจากนี้ การขาดแคลนซิลิคอน ยังคงผลให้วัสดุอื่นๆ เช่น อลูมิเนียม ที่ผู้ผลิตรถยนต์นำมาผสมกับซิลิคอนเพื่อผลิตบล็อกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ หรือทองแดง เป็นต้น ก็ได้รับผลกระทบทำให้ราคพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ข้อมูลอ้างอิง : JapanTimes

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส