วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2022) ผู้ใช้ iPhone 14 ในสหรัฐฯ และแคนาดา สามารถใช้ฟีเจอร์แจ้ง SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมได้แล้ว โดยประเทศอื่น ๆ อย่าง ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ไอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร สามารถใช้ได้ในเดือนธันวาคม 2022 นี้

ฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แม้ว่าจะอยู่ที่พื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรือ Wi-Fi ก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น ในขณะเดินป่า หรือเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น

ฟีเจอร์นี้จะทำงานโดยการให้ผู้ใช้ส่งข้อความสั้น ๆ พร้อมข้อมูลสำคัญ โดยจะส่งให้แก่บริการฉุกเฉินที่สามารถรับข้อความดังหล่าว หรือศูนย์ของ Apple จะโทรไปแทนผู้ใช้ในกรณีที่ไม่มีการตอบรับจากบริการฉุกเฉินในพื้นที่นั้น ๆ

อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อมูลดาวเทียมนั้นเป็นแบนด์วิธต่ำ จึงทำให้ Apple พัฒนาการบีบอัดขนาดข้อความลงถึง 300% โดยต้องใช้เวลาในการส่งสัญญาณจาก iPhone ราว 15 วินาที หรืออาจนานกว่านั้นในกรณีที่ท้องฟ้าไม่ปลอดโปร่ง

นอกจากการส่งข้อความสำคัญแล้วนั้น ผู้ใช้ iPhone ยังสามารถส่งข้อมูลสำคัญอย่าง ID ทางการแพทย์ (Medical ID) ที่ผู้ใช้ตั้งค่าไว้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่อธิบายสภาวะทางสุขภาพต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การแพ้ยาบางชนิด เป็นต้น อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าผู้รับข้อความฉุกเฉินผ่านดาวเทียมได้มากถึง 10 คนด้วย

ทั้งนี้ ฟีเจอร์ดังกล่าวรองรับการทำงานบน iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่น นั่นคือ iPhone 14 รุ่นมาตรฐาน, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max โดยจะทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 16.1 เป็นอย่างน้อย แต่ iPhone 14 ที่ซื้อจากประเทศจีน, ฮ่องกง หรือมาเก๊า จะไม่รองรับฟีเจอร์นี้

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส