ถ้าหากว่าคุณต้องใช้สมาร์ทโฟนในยามที่แบตเตอรี่ใกล้จะหมด จะมีวิธีใดช่วยคุณได้ ลองมาดู 5 แอป ที่ช่วยยืดอายุการทำงานของแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน Android ใช้ใช้งานได้อีกในยามฉุกเฉิน ที่ควรดาวน์โหลดติดเครื่องเอาไว้ใช้เป็นอย่างยิ่ง

Greenify

greenify1

Greenify ช่วยเพิ่มปริมาณแบตเตอรี่ด้วยการหยุดแอปที่กินพลังงานมากๆ เอาไว้ชั่วคราว แต่ไม่ได้ปิดการทำงานของแอปนั้น เหมือนกับทำให้สมาร์ทโฟนของคุณหลับไปชั่วขณะ ซึ่งทำให้ได้จำนวนแบตเตอรี่กลับมามากพอสมควรเลยทีเดียว

ตัวแอปมีเวอร์ชั่น Pro ให้คุณเสียเงินดาวน์โหลดผ่าน Play Store ด้วย แต่ขอแนะนำให้ใช้เวอร์ชั่นฟรีก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต่างกัน

Go Battery Saver & Power Widget

gobattery

แอปนี่มีฟังก์ชั่นรูปแบบการทำงานค่อนข้างครอบคลุมในหลายๆ ด้านของการประหยัดแบตเตอรี่ เพียงแค่กดใช้งานตามรูปแบบที่คุณเลือกเอาไว้ คือการประหยัดพลังงานแบบ General (เหมาะกับผู้ใช้งานธรรมดา), Super หรือ Extreme (เหมาะกับกลุ่มนักเล่นเกม) คุณก็จะได้แบตเตอรี่กลับมาใช้งานอย่างง่ายดาย

Avast Battery Saver

avastbatterysaver

ได้รับการพัฒนาโดย Avast ที่มีชื่อเสียงในการพัฒนาระบบความปลอดภัยบนมือถือและคอมพิวเตอร์ เรียกได้ว่าเป็นแอปแบบ All-in-One ในการวางแผนประหยัดแบตเตอรี่เลยก็ว่าได้ มีรูปแบบการจัดการทั้งหมด 4 แบบ (Home, Work, Night และ Super) ให้เลือก เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

DU Battery Saver & Phone Charger

dubattery

ตัวแอปให้คุณสามารถสรางโหมดประหยัดพลังงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูได้ว่าแอปใดที่ใชัพลังงานมากที่สุด ซึ่งคุณสามารถเลือกจัดการได้ตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแก่เครื่องของคุณ อีกทั้งอินเทอร์เฟซยังสวยงาม ใช้งานง่ายอีกด้วย

ตัวแอปมีแบบเสียเงินดาวน์โหลด (3 เหรียญ หรือประมาณ 100 บาท) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นไปอีก แต่หลายคนบอกว่า เพียงแค่ตัวใช้ฟรีก็เพียงพอแล้ว

Green Battery Saver & Manager

greenbattery

รู้จักกันดีในนามของ Battery Aid เป็นแอปฟรีที่ยืดอายุแบตเตอรี่ได้อีกเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย) ตัวแอปจะทำการปิด wifi, Bluetooth และอินเตอร์เน็ต ที่คุณไม่ได้ใช้ทั้งหมดลง สามารถ sync ข้อมูล email, รูป, เพลง, หนังสือ และอื่นๆ อีกมากมายได้อีกด้วย อินเทอร์เฟซดูเรียบๆ ใช้งานง่าย และเข้าใจง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น

เช่นเดียวกันกับแอปอื่นๆที่กล่าวมา คือ มีเวอร์ชั่น Premium ราคา 4 เหรียญ (ประมาณ 140 บาท) ที่จะเพิ่มฟังชั่นการทำงานขึ้นและตัดโฆษณาต่างๆออกไป แต่ถ้าคุณไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้น แค่เวอร์ชั่นฟรีก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

ที่มา : cnet.com