บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยบุกตลาดรถยนต์นั่งในครึ่งปีหลังด้วย “ALL NEW MG5” ด้วยคอนเซปต์ “BEYOND” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน พร้อมพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะการขับขี่ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยเหนือระดับ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย ในราคาเริ่มต้นที่ 559,000 บาท พร้อมจัดจำหน่ายและเปิดให้ทดลองขับแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ

ALL NEW MG5 มีรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตคูเป้ที่เป็นเอกลักษณ์ มีมิติตัวถังที่ใหญ่กว่ารถยนต์ประเภท B-segment ทั่วไป จึงให้มีพื้นที่ภายห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย มีพื้นที่เหนือศีรษะที่สูงโปร่ง พร้อมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตพรีเมียม การออกแบบคอนโซลกลางแบบ Driver-focus cockpit ที่ให้องศาที่เหมาะกับตำแหน่งคนขับ

รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระดับมาตรฐานของ B-Sedan มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ วัสดุภายในเป็นแบบผิวสัมผัสนุ่ม (Soft touch) ในหลายตำแหน่ง หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และโทรศัพท์มือถือระบบ Android พวงมาลัย แบบมัลติฟังก์ชั่น และปุ่ม PUSH Start 

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการติดตั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เหนือระดับเทียบเท่ากับ รถ C-Sedan ได้แก่ อัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มาตรวัดอัจฉริยะแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง หลังคาซันรูฟ และเหนือกว่า ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถยนต์เอ็มจีที่โดดเด่นด้วยระบบการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด คือ กุญแจดิจิตอล (Digital Key) ที่เจ้าของรถสามารถส่งผ่านมายังโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ท อีกทั้งยังสามารถส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ได้ด้วยการรับ-ส่งโค้ดผ่านทางแอปพลิเคชัน i-SMART ALL NEW MG5 

ให้ความสนุกในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร มีกำลังสูงสุด 114 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด รวมไปถึงระบบช่วยในการขับขี่และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว (Synchronized Protection System) ที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นดีสก์เบรก 4 ล้อ มาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ ระบบควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน และอื่น ๆ อีกมากมาย

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เป้าหมายของเอ็มจี คือการให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ที่ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ ควบคู่กับการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่มีความโดดเด่นในด้าน เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ ความคุ้มค่า (Value) สู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่องครอบคลุมเกือบทุกเซกเมนต์ สำหรับการเปิดตัว ALL NEW MG5 ในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งชื่นชอบรถยนต์นั่งสไตล์สปอร์ต

โดยรถรุ่นนี้มาพร้อมนิยาม “BEYOND” ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ที่มีความโดดเด่นและมีมุมมองที่เหนือระดับ รวมทั้งสะท้อนวิสัยทัศน์ของเอ็มจีที่ต้องการสร้างจุดขายที่เหนือชั้นกว่าให้กับรถยนต์ในกลุ่ม B-segment รวมไปถึงกลุ่ม Eco-Car ของไทยให้ก้าวข้ามกรอบเดิม ๆ ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยความโดดเด่นของ ALL NEW MG5 และความพร้อมของการบริการหลังการขายด้วยศูนย์บริการมาตรฐานเอ็มจีกว่า 150 แห่ง ทั่วประเทศ จะทำให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยม สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงจุดและมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นกว่าให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างแน่นอน”

สำหรับ ALL NEW MG5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเงิน (Silver Metallic) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)  โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

รุ่นรถยนต์ราคาจำหน่าย (บาท)
ALL NEW MG5 รุ่น C559,000
ALL NEW MG5 รุ่น D599,000
ALL NEW MG5 รุ่น X689,000

โดยบริษัทฯ จะเริ่มทยอยส่งมอบ ALL NEW MG5 ให้กับลูกค้าภายในปลายเดือนนี้เป็นต้นไป ปัจจุบันเอ็มจีมีศูนย์บริการมาตรฐานกว่า 150 แห่ง สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมการบริการหลังการขายเพื่อการดูแลลูกค้าที่ครบวงจรภายใต้ชื่อ “แพสชั่น เซอร์วิส” (Passion Service) ซึ่งได้แก่ การรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ120,000 กิโลเมตร การบริการเช็กระยะและตรวจสอบสภาพรถนอกสถานที่ (Mobile Services) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) บริการศูนยลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Centre) ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีบริการรถสำรองใช้ระหว่างรอซ่อม เพื่อยกระดับความสะดวกสบาย สร้างความมั่นใจและพึงพอใจสูงสุดใหญ่แก่ลูกค้าที่ใช้รถยนต์เอ็มจี