ใครที่เคยเล่นเกมมาบ้างก็คงจะพอรู้ว่าเกมแนว First Person Shooter (FPS) หรือเกมเดินหน้ายิงในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เป็นแนวเกมที่ฮิตติดตลาดมากที่สุดในวงการวิดีโอเกมในตอนนี้แล้ว แน่นอนว่าของมันกำลังฮิตขนาดนี้ บรรดาบริษัทเกมก็เลยทำออกมาขายกันตรึม ทำให้เรามีตัวเลือกแนวนี้กันมากมายจนเล่นกันไม่หวาดไม่ไหว ไหนจะยังมีแฟรนไชส์ที่ขยันปั๊มพิมพ์เขียวเกมแนวนี้ออกมาขายปีแล้วปีเล่า อย่างเช่น CoD, Battlefield หรือ Far Cry อีก จนทำให้เกมเมอร์หลายคนเริ่มรู้สึกเฝือกันแล้ว คำถามสำคัญคือคุณจะรู้ได้ไงว่าเกม FPS เกมไหนดีจริง? เกมไหนที่เราควรเสียเวลามาเล่น และเกมไหนคือที่สุดของสุดยอดเกม FPS ที่ควรจะคว้ามาเล่นกันให้ได้ถ้าไม่อยากตาย เอ้ย ก่อนจะตาย หากคุณแอบสงสัยว่า FPS ระดับเทพของจริงมันหน้าตาเป็นยังไง ต้องห้ามพลาด 5 เกมนี้! 

อันดับ 5: Borderlands 2 Game of the Year Edition

ผู้ท้าชิง: Call of Duty: Modern warfare (2007) เพราะโหมดแคมเปญที่เล่าเรื่องกระชับ สนุก สะใจ ราวกับภาพยนตร์ พร้อมระบบมัลติเพลเยอร์ที่มาปฏิวัติซีรี่ส์ CoD จนทำให้มันยิ่งใหญ่เฉกเช่นทุกวันนี้

อาจจะเรียกได้ว่า Birderlands 2 เป็นต้นแบบที่ลงตัวของเกม Looter Shooter แบบที่เราเห็นกันให้เพียบกันในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องการล่าไอเทมหรือ “Loot” ในเกมนี้ปืนที่ตกจากศัตรูเยอะมากเป็นล้านกระบอก ชนิดที่เก็บมาเลือกกันไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งแต่ละกระบอกยังมีรูปลักษณ์และรูปแบบการยิงที่ค่อนข้างต่างกันอย่างที่ทีม Gearbox เคยโม้เอาไว้ด้วย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือปืนส่วนใหญ่ต่างยิงสนุกไม่แพ้กัน ทั้งปืนลูกซองที่ยิงลูกปรายเด้งไปเด้งมา ปืนกลที่พอกระสุนหมดแล้วเอามาปาเป็นระเบิดใส่ศัตรู หรือปืนลูกโม่ที่ทั้งยิงทั้งเติมกระสุนได้เร็วปานสายฟ้า ปืนสนุก ๆ มีสีสันเหล่านี้ทำให้เกมเมอร์อยากเล่นเกมต่อไปเรื่อย ๆ เพราะแต่ได้ดูว่ากระบอกถัดไปที่จะได้จะแตกต่างจากกระบอกที่แล้วอย่างไรก็คุ้มแล้ว

ที่สำคัญ ระบบ Co-op ในเกมนี้ยังเล่นสนุกมาก เพราะเกมไม่ได้ให้เราเดินหน้ายิงสิ้นคิดอย่างเดียว แต่ได้ใส่ระบบคลาสตัวละครแบบเกมแนว RPG เข้ามาด้วย ซึ่งแต่ละคลาสยังมีความลุ่มลึกและหลากหลายชนิดที่หากคุณลองเปลี่ยนคลาส ก็สามารถเล่นเกมนี้ซ้ำอีกครั้งได้แบบไม่เบื่อ เพราะท่าพิเศษของคลาสต่าง ๆ แทบไม่ซ้ำกันเลย แถมเวลาเล่นพร้อมกันหลาย ๆ คน ท่าพิเศษของแต่ละคลาสยังช่วยเกื้อหนุนกัน เมื่อผนวกกับปืนประหลาดมากมายที่แต่ละคนถืออยู่ในมือ จึงทำให้เกิดประสบการณ์การสาดกระสุนที่มั่วมันส์ได้ใจชนิดที่หาเกมอื่นมาเทียบบารมีได้ยาก

จุดที่เซอไพรส์มากคือใครจะไปรู้ว่าเกมเดินหน้ายิงเน้นที่ฟาร์มของเกมนี้จะเขียนเนื้อเรื่องออกมาได้ดีเกินหน้าเกินตา จุดที่ตลกก็บันเทิงชิบเป๋ง เต็มไปด้วยมุกตลกอารมณ์ตลกคาเฟ่ที่ฮาได้ใจมาก ฮาถึงขนาดที่บางทียิงศัตรูกันไม่ไหวเพราะมัวแต่นั่งขำอยู่กับเพื่อนจนหายใจกันไม่ออก ส่วนจุดที่หักมุมก็เข้มข้นจนลุ้นตัวโก่ง ที่เด็ดที่สุดคือเกมเขียนนายตัวร้าย Handsome Jack ออกมาได้เลวบริสุทธิ์และกวนทีนอย่างสมบูรณ์แบบ จนทำให้หมอนี่เป็นหนึ่งตัวร้ายที่น่าจดจำที่สุดในวงการเกมเลยทีเดียว

ส่วนสาเหตุที่เราแนะนำให้เล่นเวอร์ชัน GOTY เพราะว่ามันมาพร้อมกับ DLC ที่เติมเนื้อเรื่องเสริมที่เล็กพริกขี้หนูเข้ามาอีกหลายตัว โดยเฉพาะภาคเสริม Mr. Torque’s Campaign of Carnage และ Tiny Tina’s Assault on Dragon Keep ที่เรียกได้ว่าฮากว่าเควสต์หลักในภาคต้นฉบับซะอีก ใครอยากพบกับประสบการณ์การโจ้เกม FPS ที่ครบครันทั้งโหดมันส์ฮา ไม่ควรพลาดทริปชมดาว Pandora ใน Borderlands 2 ด้วยประการทั้งปวงครับ

อันดับ 4: Unreal Tournament 2004

ผู้ท้าชิง: Overwatch เพราะเป็นเกมเดินหน้ายิงมัลติเพลเยอร์ที่ทำระบบคลาสตัวละครออกมาได้แตกต่าง หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสมดุลมาก จนกลายเป็นเกมหลักของวงการอีสปอร์ตที่ดังไปทั่วโลก

Unreal Tournament ภาค 2004 เป็นเกม FPS ที่จัดหนักจัดเต็มทั้งในแง่ของคอนเทนท์แบบที่เราคงไม่มีทางได้เห็นอีกแล้วในวงการเกมยุคปัจจุบัน เกมมีแผนที่มาให้เล่นเป็น 100 ฉาก โหมดการชิงชัยเป็น 10 แบบ โหมดมัลติเพลเยอร์สำหรับคนที่ชอบท้าชนกับคนอื่น โหมดมัลติเพลเยอร์แต่เล่นคนเดียวแบบสู้กับบอท แล้วยังมีโหมดแคมเปญสไตล์ทัวร์นาเมนท์กีฬามาให้เล่นได้ยาว ๆ อีก ซึ่งโหมดที่แถมมาให้มากมายมหาศาลพวกนี้ก็ไม่ได้ทำมาแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แต่ละโหมดต่างเล่นสนุกและพร้อมตอบโจทย์ทุกความกระหายของเกมเมอร์สายยิง อยากหาคนยิงเล่นเอามันส์เหรอ? จัดไปในโหมด Deathmatch อยากเล่นชิงชัยแบบเน้นทีมเวิร์คใช่มั้ย? โหมดชิงธง CTF และยึดพื้นที่ Double Domination รอให้คุณเล่นอยู่ หรืออยากได้เกมอารมณ์สงครามอลังการ? เกมก็มีโหมด Assault แบบตะลุยภารกิจบุกฐานทัพศัตรู และโหมด Onslaught ที่มียานพาหนะให้ผู้เล่นขับสู้กันในสมรภูมิขนาดใหญ่แบบเกม Battlefield อีกต่างหาก

จุดไฮไลต์ที่ทำให้ UT 2004 เล่นสนุกมากก็คือปืนไฮเทคแปลก ๆ กว่า 10 แบบที่แต่ละกระบอกยิงกระสุนออกมาไม่เหมือนกันแม้แต่นิดนี่แหละ แถมแต่ละกระบอกยังมีโหมดยิงพิเศษแบบประหลาด ๆ แถมมาให้อีกอย่างน้อยหนึ่งโหมด เริ่มตั้งแต่ปืนไรเฟิลลำแสงที่สามารถคลิกขวาให้ยิงพลาสมาทรงกลมออกมา ซึ่งหากคุณแม่นพอจะยิงลำแสงเข้าไปในพลาสมาก้อนนั้น คุณก็จะสามารถจุดก้อนระเบิดพลังงานใส่ศัตรูได้ ในขณะที่ปืนยิงจรวดก็สามารถยิงออกไปทีละนัด ทีละสามนัดในแนวนอน หรือจะทีละสามนัดแบบควงสว่านก็เอาที่สบายใจเลย นี่ยังไม่นับรวมปืนประหลาด (แต่แท่!)​ อีกเพียบ อย่างเช่น Flak Cannon ที่ให้คุณยิงก้อนลูกปรายเม็ดเท่ากำปั้นเด้งไปมา ปืน Bio Rifle ที่ยิงก้อนสารเคมีเหนียวหนืดไปแปะเป็นกับดักอยู่ตามพื้น หรือจะเป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิง Lighting Gun ที่สามารถยิงสายฟ้าเด็ดหัวศัตรูได้ในนัดเดียว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทีมพัฒนา Epic Games ทำยังไงถึงสามารถปรับจูนปืนพวกนี้จนออกมาสมดุลเป๊ะ ๆ แบบไม่มีปืนแบบไหนที่โกงกว่าปืนอื่นได้

อีกจุดหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือบอทในเกมนี้ฉลาดและสู้ด้วยสนุกมาก เกมเมอร์สามารถเลือกปรับฝีมือบอทได้ถึง 8 ระดับ แม้บอทจะยังมีข้อจำกัดเรื่องการเล่นเป็นทีมเวิร์คกับผู้เล่น แต่ก็สามารถใช้ทดแทนการเล่นกับคนจริงได้แบบไม่เสียอารมณ์เลยล่ะ

เกมซีรี่ส์ Unreal Tournament เป็นต้นกำเนิดของดีหลายอย่างให้แก่เกมมัลติเพลเยอร์ที่เน้นแข่งขัน ทั้งการนำเสียงคนพากย์เวลาเราเป่าศัตรูติดกันได้รัว ๆ แบบฮาได้ใจมาใช้ กลายมาเป็นบรรทัดฐานของเกมแนวอีสปอร์ตในยุคใหม่ที่มักจะต้องพ่วงคำบรรยายฝีมือ (Double Kill, Killing Spree, Monster Kill!) แบบที่เห็นกันในเกมตระกูล Dota หรือ Call of Duty การมอบอาวุธรูปแบบแปลก ๆ ใหม่ ๆ หลายแบบที่ยิงสนุกไม่ซ้ำกันให้ผู้เล่นได้ลองฝึกไปดรื่อย ๆ แบบที่เราเห็นกันในเกม Overwatch และการออกแบบแผนที่มัลติเพลเยอร์สุดคลาสสิกที่ทั้งสนุกทั้งสมดุล จากฝีมือทีมพัฒนาและชุมชนคนสร้างม็อดเกมมากมาย โดย Unreal Tournament 2004 ได้ขัดเกลาองค์ประกอบเหล่านี้จนเข้าขั้นสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้เกมจะวางตลาดมานานกว่า 17 ปีแล้ว แต่ก็ยังควรค่าให้คุณกลับไปสัมผัสเกม FPS สมัยก่อน ที่ทำออกมาเพื่อเอาใจเกมเมอร์ล้วน ๆ และเน้นความสนุกแบบไม่มีสิ่งอื่นเจือปน

อันดับ 3: Portal

ผู้ท้าชิง: Portal 2 เพราะมันมาพร้อมกับประตูมิติ 4 บานและระบบ Co-op สุดล้ำเหนือจินตนาการ แถมเนื้อเรื่องยังสนุกสนานเฮฮากว่าเดิมซะด้วย

Portal คือเกม FPS ที่จะมอบประสบการณ์แปลกใหม่แบบหลุดโลกเมื่อคุณได้ลองมันเป็นครั้งแรก มันคือเกมที่สร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครที่สุดในวงการ แทนที่คุณจะได้ผจญภัยในฉากแบบ 3 มิติแบบเกม FPS ทั่วไป คุณจะได้ตะลุยผ่านฉากในรูปแบบ 4 มิติแทน แทนที่คุณจะได้เอาปืนเป็นตับเอาไปไล่ยิงกองทัพศัตรู คุณจะได้ปืนแค่กระบอกเดียวคือ “ปืนยิงประตูมิติ” ที่ไม่ได้เอาไว้เป่าศัตรูตัวไหน เอาไว้ยิงประตูข้ามสถานที่และเวลา และแทนที่คุณจะได้เจอกับเกมแก้ปริศนาแบบทั่ว ๆ ไป คุณกลับได้เจอกับโหมดแคมเปญที่มาเหนือความคาดหมายแถมยังเต็มไปด้วยมุกตลกร้ายสุดเจ๋งมาเป็นน้ำจิ้มอีกด้วย

ใครจะไปรู้ว่าการที่ Portal เติมไอเดียที่เรียบง่ายอย่างประตูมิติ 2 บานจะมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ได้ขนาดนี้ เกมนี้จะให้ผู้เล่นเปิดช่องทางใหม่เพื่อข้ามจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งจากตรงไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบนพื้น บนเพดาน หรือบนฝาผนัง ซึ่งทันทีที่คุณก้าวเข้าไปในประตูมิตินี้ คุณจะสามารถเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ทันที เพียงแต่คุณต้องคำนึงถึงระบบฟิสิกส์ของแรงดึงดูดและแรงส่งที่ตามมาด้วย เมื่อผสมกับปริศนาสุดล้ำในเกม ก็จะทำให้คุณต้องนั่งจิกหัวจนผมยุ่งกว่าจะคิดออกได้ว่าจะต้องไปต่อยังไง แต่ถึงจะยากแต่มันก็น่าสนใจ ผลที่ได้คือประสบการณ์การเล่นเกมในมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่พิสดารไม่เหมือนเกมไหนเลย แถมมันยังสนุกชิบเป๋งจากบทพูดของนางหุ่นยนต์ตัวร้ายนามว่า GlaDos ที่นิ่ง ๆ เย็น ๆ แต่แสบถึงทรวง เต็มไปด้วยมุกตลกร้ายที่เขียนมาได้สนุก และเพิ่มสีสันให้เกมได้เป็นอย่างมาก

ต้องเรียกว่า Portal เป็นเกมที่จะประเคนความเซอร์ไพรส์มาให้คุณอย่างไม่หยุดหย่อน เริ่มจากวิธีการเล่นเกมแบบใหม่ วิธีการแก้ปริศนาใหม่ ๆ ไปยันจุดหักมุมของเรื่องที่ทำเอาเรางงผสมอึ้ง แล้วพอถึงตอนที่เกมเริ่มหมดมุกใหม่ เกมก็จบลงพอดีในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันเป็นประสบการณ์ 3 ชั่วโมงระดับคุณภาพที่จะทำให้คุณนอนฝันถึงโลกที่มีประตูมิติไปอีกนาน

อันดับ 2: Bioshock

ผู้ท้าชิง: Deus Ex: Human Revolution Director’s Cut เพราะมันคือลูกผสมระหว่างเกม FPS เกม RPG เกม Action และเกมแนว Stealth ในโลกไซไฟที่เปิดให้คุณเล่นแบบไหนก็ได้ให้บรรลุเป้าหมาย โดยมีเนื้อเรื่องเท่ ๆ และงานศิลป์คูล ๆ เป็นน้ำจิ้มรสเลิศ

มันคือหนึ่งในเกม FPS ที่สร้างโลกในเกมออกมาได้ดีที่สุด และน่าจะเป็นเกม FPS ที่มีเนื้อเรื่องที่ดีที่สุด ทั้งยังถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว เพราะ Bioshock ใช้วิธีการเล่าเรื่องผสานไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประสบการณ์การเล่นของเกมเมอร์ ทั้งจากรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามฉาก จากเครื่องบันทึกเสียงของชาวเมือง Rapture ที่เคยมีชีวิตอยู่ที่นี่ และจากบทสนาต่าง ๆ ของตัวละครหลักในเนื้อเรื่อง เช่น Frank Fontaine หรือ Andrew Ryan ที่คอยพูดกรอกหูเราเป็นระยะ ที่สำคัญคือเกมยังมาพร้อมหมัดเด็ดจากประโยคหักมุม “ประโยคนั้น” ที่ทำให้เกมเมอร์หลายคนหงายหลังตกเก้าอี้ เสร็จแล้วก็ลุกขึ้นมาตบเข่าดังฉาดใหญ่แล้วอุทานว่า “นี่ตูเดาไม่ออกได้ยังไงกันฟระ!!?” 

แต่จุดที่เด่นไม่แพ้เนื้อเรื่องของ Bioshock ก็คืองานออกแบบฉากระดับเทพที่วางให้แต่ละด่านในนครใต้ทะเลเหมือนกับโลก Open-World เล็ก ๆ นี่แหละ ผู้เล่นจะสามารถออกสำรวจเพื่อหาของในฉากได้ตามใจต้องการ แต่ละฉากก็เต็มไปด้วยงานศิลป์ระดับเทพที่ทั้งดูสวยแบบมีคลาสและน่าขนลุกปนกัน ด้วยสถาปัตยกรรมที่ดูคลาสสิกแบบยุค 60s ตัวละครสวมชุดเดรสสีพาสเทล เสื้อสูทแมน ๆ (เปื้อนเลือด)​ และป้ายโฆษณาชวนเชื่อสีน้ำกับไฟนีออนที่มีให้เห็นกันอย่างละลานตา 

ภายในฉากยังเต็มไปด้วยตัวละคร NPC ที่น่าสนใจ แต่ละตัวจะมีรูปแบบการโต้ตอบกันอย่างมีเอกลักษณ์ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างในเมืองนี้จะไล่ฆ่าคุณลูกเดียวเพราะหลายครั้งพวกมันก็ไล่ฆ่ากันเองจ้า คุณอาจได้เห็นมนุษย์กลายพันธุ์กำลังต่อสู้กับหุ่นคอปเตอร์รักษาความปลอดภัยอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่นักประดาน้ำพี่เบิ้ม Big Daddy กับสาวน้อย Little Sister กลับเดินผ่านหน้าไปอย่างไม่สนใจใยดี สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนว่านคร Rapture ใน Bioshock มีระบบนิเวศสยองของมันเอง ซึ่งผู้เล่นยังสามารถเรียนรู้และใช้รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ของตัวละครให้เป็นประโยชน์ ซึ่งมันดีในแง่เกมเพลย์ แต่ที่ไม่ดีต่อใจก็คือเมื่อนำระบบนิเวศจำลองที่ว่าไปบวกกับบรรยากาศมืด ๆ สลัว ๆ และบรรดาเสียงประหลาดที่ก้องกังวาลไปมาในห้องโถงมืดมิดแล้วมันโคตรน่ากลัวเลย ไหนจะยังมีดนตรีคลาสสิกเก่า ๆ เสียงแตก ๆ คลอให้ได้ยินกันอีก มันช่างเหมาะเหม็งเข้ากันแบบน่าขนลุกสิ้นดี 

นอกจากนี้ Bioshock ยังพ่วงระบบ RPG มาด้วย ซึ่งมันช่วยทำให้เกมเพลย์มีความหลากหลายและลุ่มลึก โดยเกมมีพลังกลายพันธุ์เหนือมนุษย์สารพัดแบบให้เลือกใช้ อย่างเช่น Plasmid Tonic และปืนปาหน้าไม้ที่เลือกอัปเกรดได้อีกจากเศษตังค์ที่เก็บได้ในด่าน ทำให้เกมเมอร์สามารถเลือกบู๊ในเกมนี้ได้หลายสไตล์โดยไม่รู้สึกซ้ำซากเอาง่าย ๆ แน่นอนว่าทั้งภาคต่ออย่าง Bioshock 2, Bioshock Infinite และ DLC อีกหลายตัวของซีรี่ส์นี้ต่างก็ทำออกมาได้ดีเกินมาตรฐานวงการเกม FPS อีกทั้งยังสามารถขมวดปมเนื้อเรื่องของไตรภาคทั้งสามจนจบบริบูรณ์อย่างงดงาม แต่ที่ต้องแนะนำ Bioshock ภาคแรกก็เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความกลมกล่อมที่สุดแล้วทั้งในแง่ของเนื้อเรื่อง เกมเพลย์ และงานภาพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นเกมขึ้นหิ้งคลาสสิกที่คงได้รับการกล่าวขวัญกันไปอีกนานแสนนาน

อันดับ 1: Half -​ Life 2 

ผู้ท้าชิง: DOOM เพราะมันคือผู้ให้กำเนิดวงการเกม FPS แบบที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน

Half -​ Life 2 เป็นเกม FPS เพียงไม่กี่เกมที่กระแสความ Hype สูงมาก แต่เกมก็ยังสามารถมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายได้อยู่ดี จุดแรกที่ทำให้เกม Half -​Life 2 มีคุณภาพสูงลิบจนแตะเพดานบินก็คือการที่ทีม Valve สร้างโลกของเกมออกมาได้บรรยากาศมาก ๆ จนอาจจะเรียกว่าเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกสมจริงทั้งที่เมือง City-17 ก็ไม่ได้มีอยู่จริง รายละเอียดปลีกย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซ่อนอยู่ในทุกซอกมุมตึก งานศิลป์ของสถาปัตยกรรมในเมืองแนวรัสเซียที่ดูเรียบง่าย และพฤติกรรมการเป็นอยู่ของตัวละคร NPC ในเมืองที่เราได้เห็น ต่างก็ช่วยทำให้เรารู้สึกว่าเมืองนี้มีชีวิตชีวาในตัวของมันเอง และ Half -​Life 2 ยังพาเราไปทัวร์เมืองให้เห็นสภาพภูมิประเทศหลากหลายแบบมาก ไล่ตั้งแต่คลองน้ำทิ้งไปยันเขตสุสานที่เต็มไปด้วยซอมบี้กันเลย ซึ่งเมื่อคุณเล่น Half-Life 2 จนจบ คุณจะรู้สึกเหมือนเพิ่งได้ไปเที่ยวเมือง City-17 มาจริง ๆ เป็นการไปกับทัวร์สายบู๊ที่ได้สาดกระสุนสลับกับชมวิวสวยไปตลอดเส้นทาง

สิ่งที่ทำให้การเดินชมเมือง City-17 เพลิดเพลินมากก็คืองานศิลป์และการดีไซน์ฉากระดับที่คู่ควรแก่การขึ้นหิ้งบูชา ทั้งปืน สิ่งปลูกสร้าง โทนสีที่ใช้ในเกมต่างดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์แบบที่เกมอื่นเทียบไม่ติด จนถึงวันนี้ก็ยังหาเกมที่ดูละม้ายคล้าย Half-Life 2 ได้ยากมาก (ยกเว้นเกม Dishonored ที่ใช้หัวหน้าฝ่ายศิลป์คนเดียวกันและม็อดของเกม Half -​Life 2 อะนะ) ซึ่งนอกจากรูปแบบฉากสวย ๆ เหล่านี้จะมีความหลากหลาย เกมเพลย์ของแต่ละฉากใน Half -​ Life 2 ยังเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนแทบไม่มีฉากไหนซ้ำกัน คุณจะเริ่มจากการใช้ชะแลงและปืนพกเอาตัวรอดจากกองทัพศัตรู จากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นซิ่งเรือข้ามคลอง แล้วก็สลับมาฝ่ากองทัพซอมบี้ในเมืองผีสิง เสร็จแล้วก็กลับไปซิ่งรถบั๊กกี้ฝ่าทะเลทราย ฯลฯ แถมทีมพัฒนายังวางจังหวะการเดินเรื่องได้แบบพอเหมาะพอเจาะ รู้จักสลับอารมณ์ไปมาทำให้เกมเมอร์เล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ จนไม่อยากหยุดเล่นตั้งแต่ต้นเกมยันจบเกม

อีกหนึ่งหมัดเด็ดของ Half -​Life 2 ก็คือการเล่นกับระบบฟิสิกส์ในเกมนี้นั่นเอง โดยเกมเปิดให้เกมเมอร์ได้เล่นกับระบบฟิสิกส์ในเกม FPS ได้สนุกมากระดับปฏิวัติวงการ ตั้งแต่การให้ใช้ระบบฟิสิกส์เพื่อแก้ปริศนาผ่านทาง เช่น การใช้ถังพลาสติกดันแท่นกระโดดเรือ หรือการวางอิฐถ่วงด้านหนึ่งของกระดานหกเพื่อให้สามารถกระโดดไปต่อได้ เป็นต้น ที่สำคัญคือหลังจากที่นาย Gordon Freeman ได้ปืน “Gravity Gun” มาไว้ในมือ เขาสามารถดึงข้าวของทั่วไปทุกอย่างมาใช้เป็นอาวุธมหาประลัยได้หมด ตั้งแต่ก้อนหิน ถังน้ำมัน หรือจานเลื่อย ซึ่งการที่ให้เกมเมอร์สามารถเล่นกับระบบฟิสิกส์ในเกมได้มันช่างสนุกมากจนทำให้ระบบฟิสิกส์กลายเป็นของสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเกม FPS ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่จุดเด่นที่สุดของ Half – Life 2 ก็คือการปรากฏตัวของมันทำให้เกิดการปฏิวัติวงการเกม FPS อีกครั้ง การปฏิวัติที่ว่านี้คือการกำหนดบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการเกม FPS ส่งผลให้เกมเดินหน้ายิงแทบทุกเกมที่ออกมาหลังจากนั้นต้องมีคุณภาพระดับงานบล็อกบัสเตอร์ และต้องมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจมานำเสนอควบคู่กันไปด้วย เกมไหนที่ออกมาหลังจากนั้นแล้วยังย่ำต๊อกอยู่กับที่ เอาแต่ให้ผู้เล่นยิงศัตรูแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไปวัน ๆ นี่เจ๊งกันระนาว เพราะดันเจอตัวเปรียบเทียบที่ทำให้เกมเมอร์ตั้งมาตรฐานกับเกมเดินหน้ายิงที่สูงระดับสตารโทสเฟียร์เข้าไปแล้ว 

***ไหนใครคิดว่ามีเกม FPS เกมอื่นอีกที่เทพกว่า 5 เกมนี้ จัดมาในคอมเมนต์กันโลด!***

อ่านต่อ : 5 อันดับเกมแอคชันโคตรดีตลอดกาลลล ที่คุณควรเล่นก่อนตายยย!

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

ได้กำหนดวันเปิดตัวใหม่แล้ว! Sony ZV-E10 เตรียมเปิดตัว 27 ก.ค. เวลา 3 ทุ่มตรง

มาจริงตามข่าวลือ สำหรับเจ้า 'Sony ZV-E10' กล้องสาย Vlog หลังจากโดนเลื่อนเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในที่สุดเราก็ได้กำหนดวันเปิดตัวใหม่กันแล้วครับ โดยจะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้ 27 ...อ่านต่อ

ลือหนัก! Canon EOS R3 จะมีความละเอียดอยู่ที่ประมาณ 24 ล้านพิกเซล

เว็บไซต์ Canon Rumors รายงานมีข้อมูลจากหลายคนในงาน Tokyo Olympics 2020 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าความละเอียดของ 'Canon EOS R3' จะอยู่ที่ประมาณ 24 ล้านพิกเซล ไม่ใช่ 30.1 ...อ่านต่อ

Babylon’s Fall เตรียมเปิดทดสอบ Closed Beta ครั้งที่ 1 ในญี่ปุ่น, อเมริกาเหนือ และยุโรป

ค่ายเกม Square Enix และทีมพัฒนา PlatinumGames ได้ประกาศว่าจะเปิดทดสอบ Closed Beta ครั้งที่ 1 ของเกม Babylon’s Fall ในญี่ปุ่นในวันที่ 29 กรกฎาคม 2021 ...อ่านต่อ

ล้ำแม้ผ่านมาสิบปี! ฟังเดโมอัลบั้ม 2 ของ Hangman วงสุดท้ายของ โต ซิลลี่ฟูลส์

ทำเอาแฟน ๆ ‘โต ซิลลี่ฟูลส์ / แฮงแมน’ และ วง ‘แฮงแมน’ (Hangman) ใจสั่นไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อ ‘เกี้ย -สมนึก ท่าชี’ มือเบสของวงแฮงแมนปล่อยเดโมเพลงในตำนานจากอัลบั้มชุดที่ 2 ...อ่านต่อ