เกมซีรีส์ Super Mario ถือเป็นหนึ่งในตำนานของวงการเกมที่มีสร้างปรากฏการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 35 ปีแล้ว และภาคล่าสุดอย่าง Super Mario Odyssey ก็ขายได้มากกว่า 20 ล้าน ถือว่าเป็นซีรีส์เกมที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง แต่ใครจะเชื่อว่าเกมระดับนี้จะเคยมีภาคที่ต้องโดนปรับแต่งแก้ไข เพื่อให้เอาไปขายในต่างประเทศได้

ซึ่งเกมนั้นคือ Super Mario Bros 2 ที่มีการออกสองเวอร์ชั่นที่แตกต่างกันแบบคนละเกม และในไทยถือว่าโชคดีเพราะได้เล่นทั้งสองเกม แบบเต็ม ๆ ไม่ได้แบ่งแยกตั้งแต่ยุค 80 – 90 แล้ว และวันนี้ทาง Beartai ได้นำตำนานของ Super Mario 2 เกมมาริโอหนึ่งเดียวที่มีการผลิตออกมาสองภาค ที่แม้ว่าหลายคนอาจจะพอรู้เรื่องราวอยู่แล้ว แต่ความจริงมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นและบางส่วนของเกมยังคงอยู่ใน DNA ของเกมมาริโอภาคใหม่ ๆ ที่กำลังจะออกวางขายด้วย

ก้าวแรกของ Mario 2 เพื่อส่งเสริมการขายอุปกรณ์เสริมแฟมิคอม

หลังจากนินเทนโดประสบความสำเร็จมหาศาลกับ Super Mario ภาคแรกที่ขายดีแบบถล่มทลายในปี 1985 แน่นอนว่าภาคต่อต้องมา และการมาลองลุงหนวดภาคสองเป็นการวางขายพร้อมกับอุปกรณ์เสริมของแฟมิคอม ในชื่อ Famicom Disk System ที่วางขายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในปี 1986 เพื่อมากระตุ้นยอดขายและช่วยให้แฟนเกมประหยัดเพราะใช้แผ่น Disk แทนตลับเกมที่มีราคาแพงกว่า ซึ่งประวัติของเครื่อง Famicom Disk System ทางทีมงานจะเขียนแยกเป็นอีกบทความ

ส่วน Super Mario Bros 2 กลายเป็นเกมชูโรงของ Famicom Disk System เพราะออกวางขายพร้อมกัน และออกเป็นแผ่น Disk เท่านั้นในตอนแรกที่วางขาย และเชื่อหรือไม่หากนับเวลาการวางขายจากเกมมาริโอภาคแรกแล้ว Super Mario Bros 2 วางขายในประเทศญี่ปุ่นห่างจากภาคแรกเพียง 10 เดือนเท่านั้นถือว่าเป็นภาคต่อที่ออกวางขายเร็วมากหากเอามาตรฐานเกมในยุคนี้ แต่สำหรับยุค 80 ถือว่าปรกติที่เกมดังประสบความสำเร็จจะรีบเข็นภาคต่อออกมาทันที

ภาคต่อฉบับญี่ปุ่นที่แทบจะเหมือนเดิม

แต่การที่มันรีบออกภาคต่อ ทำให้การสร้างเกมในเวลาหลักเดือนทำให้รายละเอียดของ Super Mario Bros 2 แทบจะเหมือนภาคแรกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกราฟิก ที่มีการปรับรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเช่นบล็อกและพื้นผิว ส่วนเพลงประกอบที่เหมือนเดิมไม่ได้มีการแต่งเพลงใหม่เข้าไป รวมทั้งศัตรูและบอสในเกมที่ยังคงรูปแบบเดิม ๆ ทำให้หากเอามาตรฐานเกมในทุกวันนี้มาเทียบแล้ว Super Mario Bros 2 เหมือนกับเป็นตัวดาวน์โหลดเสริมมากกว่าเป็นภาคใหม่ แต่ดูเหมือนว่าแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นจะไม่สนใจแห่ไปซื้อเกมจนขายได้มากกว่า 2 ล้านแผ่นในดินแดนบ้านเกิด

ระดับความยาก Dark Souls ฉบับ 8Bit จนต้องสร้างใหม่ !!

ในเมื่อรูปแบบการเล่นและฉากจะเหมือนเดิม จุดเด่นหลัก ๆ ของ Super Mario Bros 2 คือความยากระดับหินโหดชนิดเรียกได้ว่ามันคือ Dark Souls แห่งยุค 80 ไล่ตั้งแต่แค่เริ่มต้นก็พบกับเห็ดพิษที่หลอกล่อให้ผู้เล่นหน้าใหม่ให้ตายได้ง่าย ๆ และฉากในเกมที่สร้างออกมายากชนิดต้องร้องขอชีวิต บางฉากใช้วิธีผ่านด่านที่โหดแบบไม่น่าเชื่อเรียกว่าเจตนาของผู้สร้างภาคนี้คือเพิ่มความยากของ Mario ให้โหดกว่าเดิมแต่ไม่ได้ใส่อะไรใหม่ ๆ เข้าไปมานัก เท่าที่เห็นคือมีการเพิ่มอุปสรรคอย่างลมพายุที่ทั้งช่วยให้ลุงหนวดของเราลอยตัวไปได้ไกลขึ้น แต่ในทางกลับกันหากจับจังหวะไม่ดีก็จะพัดเราตกเหวตายได้ง่าย ๆ เช่นกัน และภาคนี้ยังมาพร้อมกับฉากที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งความลับที่ซ่อนอยู่เพียบเล่นได้ยาว ๆ กว่าเดิม ซึ่งความยากของเกมที่เพิ่มขึ้นทำให้ภาคนี้ผู้สร้างได้ใส่การ continued ได้แบบไม่จำกัดมาให้ด้วย

และด้วยความยากระดับปาจอยทิ้งทำให้มันเกิดปัญหา โดยก่อนที่ Mario 2 ไปวางขายในอเมริกา มีการส่งตัวเกมเวอร์ชันญี่ปุ่นไปให้ทีมงาน นินเทนโดอเมริกา ได้ทดลองเล่นกันและผลออกมาสรุปว่าเกมยากเกินไปผู้เล่นชาวอเมริกันจะหัวร้อนมากกว่าสนุกท้าทาย ทำให้มีการบอกไปยังทีมงานในญี่ปุ่นว่า Super Mario Bros 2 ฉบับญี่ปุ่นไม่เหมาะสำหรับการวางขายใน USA ทำให้ทีมงานต้องกลับมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะสามารถสร้างหรือแก้ไขใหม่ได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสมกับตลาดอเมริกา เพราะหากต้องรื้อเกมใหม่ทั้งหมดคงจะเสียเวลาเป็นปี ๆ แน่

คำตอบคือเกมที่สร้างร่วมกับช่องทีวี !!

ในปี 1987 นินเทนโดได้รวมมือกับสถานีโทรทัศน์ฟูจิ ที่มีการจัดงานอีเวนต์แสดงโชว์ และมีสวนสนุกให้เล่นกันและหนึ่งในนั้นคือตัวละครประจำโชว์ และมีการจับมือกันเพื่อสร้างเกมเพื่อร่วมโปรโมทงานด้วย และเกมที่ว่านั้นคือ Yume Kojo Doki Doki Panic ที่วางขายบน Famicom Disk System ในปี 1987 โดยตอนที่เปิดตัวนักวิจารณ์ได้กล่าวว่ามันคือเกมแนวมาริโอ ที่สนุกและมีความแตกต่าง ทำให้มันคือคำตอบไปยังนินเทนโดอเมริกา เกี่ยวกับอีกเวอร์ชันของ Super Mario Bros 2 !!

การปรับเปลี่ยนที่เหมือนเปลี่ยนไปทั้งเกม

หลังจากนินเทนโดตัดสินใจนำ Yume Kojo Doki Doki Panic มาสร้างเป็น Super Mario 2 ก็ได้เวลาสร้างโดยใช้ทีมงานเดียวกัน ซึ่งอย่างแรกคือเปลี่ยนตัวละคร 4 ตัวมาเป็นมาริโอ โดยต้นฉบับของเกมจะมี 4 ตัวละครหลักได้แก่ Imajin เปลี่ยนมาเป็น Mario ที่นับเป็นตัวละครที่สมดุลทุกส่วน ต่อด้วย Mama เปลี่ยนเป็น Luigi ที่มีจุดเด่นที่กระโดดได้สูง แต่จะบังคับได้ลำบากกว่า ส่วนสาวน้อย Lina เปลี่ยนเป็นเจ้าหญิงพีช ที่ลอยตัวกลางอากาศได้ และนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหญิงออกร่วมต่อสู้กับมาริโอด้วย ปิดท้ายกับ Papa เปลี่ยนมาเป็น Toad ตัวละครที่วิ่งได้เร็วแต่ไม่ถนัดเรื่องกระโดด

และไม่เพียงเปลี่ยนตัวละครเท่านั้นไอเทมในเกมยังปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเกมมาริโอ เช่น Power Up เปลี่ยนเป็นเห็ด และโดนศัตรูแล้วตัวเล็กลง ส่วนฉากในเกมปรับให้สมดุลและลื่นไหลมากขึ้น แต่หลัก ๆ ใน Yume Kojo Doki Doki Panic ที่สนุกลงตัวไม่ได้เปลี่ยน ตัวละครจะต้องกระโดดและจุดเด่นของเกมคือการจับตัวศัตรูหรือสิ่งของไปปาเป็นอาวุธได้ นอกจากนี้ตัวละครของเรายังสามารถขุดทรายลงไปเพื่อทำทางไปต่อ และมีการกระโดดสูงด้วยการชาร์จพลัง ส่วนไอเทมอย่างดอกไม้ไฟ ก็ไม่ได้มีมาให้เห็นซึ่งทำให้มันไม่เหมือนเกมจากซีรีส์ มาริโอ ส่วนความยากของเกมอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป สามารถเล่นจนจบได้แบบหัวไม่ร้อน

แถมบอสใหญ่ในเกมที่เปลี่ยนจากคุปป้าหรือ Bowser มาเป็นกบยักษ์นาม Wart แถมเรื่องราวก็เปลี่ยนไปหมด (มีสปอยล์เนื้อเรื่อง) โดยปรกติเรื่องราวของเกมมาริโอจะออกไปช่วยเจ้าหญิงพีช แต่เรื่องราวใน Super Mario Bros 2 โซนอเมริกาจะเปลี่ยนเป็นการไปช่วยนางฟ้าตัวจิ๋วที่โดน Wart จับตัวไป แถมตอนจบของเกม Super Mario Bros 2 เป็นเพียงแต่การฝันไปของลุงหนวดมาริโอของเราเท่านั้น ถือเป็นการตอบคำถามของความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของเกมว่าทำไมแตกต่างจากภาคแรก เพราะมันเป็นความฝันของมาริโอ ซึ่งใน Super Mario Bros 3 ที่วางขายภายหลังทุกอย่างกลับมาเหมือนกับภาคแรกแล้ว

การวางขายในอเมริกาที่ประสบความสำเร็จแบบไม่ต้องคิดมาก

และในเมื่อต้องมีการดัดแปลงปรับปรุง ทำให้ Super Mario Bros 2 วางขายล่าช้า โดยมีการวางขายในปี 1988 ในอเมริกาช้ากว่าในญี่ปุ่นมาก เพราะในปี 1988 ในแดนปลาดิบมีการวางขายภาค 3 แล้ว ซึ่งมันก็ขายดีตามคาดเพราะในปลายยุค 80s นินเทนโดแทบจะครองตลาดเกมในอเมริกาทั้งหมด และแฟนเกมต่างกระหายเกมใหม่ ๆ จากนินเทนโดที่ห่างหายการออกภาคใหม่ไปหลายปีทำให้แค่เปิดตัวตลับเกม Mario 2 ก็ขาดตลาดในทันทีจนถึงขั้นเป็นข่าวออกทีวีว่ามีแฟนเกมหลายคนลงทุนนั่งเครื่องบินข้ามรัฐเพื่อไปซื้อเกมกันเลย

แฟนเกมเข้าแถวรอซื้อเกม Mario 2 ในอเมริกา ในปี 1988

โดยในตอนแรกเด็ก ๆ ในอเมริกาไม่รู้เลยว่าเกม Mario 2 ไม่ใช่ภาคต้นฉบับที่วางขายในญี่ปุ่นเพราะสื่อในยุค 80s มีเพียงทีวีและนิตยสารเท่านั้น แต่หลังจากวางขายเริ่มมีหลายสื่อปล่อยภาพ Mario 2 เวอร์ชันญี่ปุ่นมาให้ชม แต่ดูเหมือนแฟน ๆ เกมจะไม่ได้สนใจในเมื่อเกมมันสนุก และท้ายที่สุดเกม Super Mario Bros 2 เวอร์ชั่น USA ขายได้มากถึง 10 ล้านชุด โดยนับยอดรวมในอเมริกา และยุโรป ถือว่าประสบความสำเร็จมากกว่าต้นฉบับที่วางขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น

เวอร์ชั่นเอามาขายใหม่ทั้ง อเมริกา และญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น นินเทนโดก็ได้นำ Super Mario Bros 2 ทั้งสองเกมมาสร้างใหม่ โดยครั้งแรกในญี่ปุ่นช่วงยุค 90s ปู่นินได้นำเวอร์ชันอเมริกา มาขายแบบตลับบนแฟมิคอม ในชื่อ Super Mario USA และหลังจากนั้นบน Super Famicom (SNES ในอเมริกา) มีการขายมาริโอรวมฮิตในชื่อ Super Mario All-Stars และในโซนอเมริกามีการใส่ Mario 2 เวอร์ชั่นญี่ปุ่นเข้าไปในชื่อเกม Super Mario Bros The Lost Levels เข้าไป ส่วนในโซนญี่ปุ่นของเกม Mario All-Star มีการใส่ภาคสองเวอร์ชั่นอเมริกาในชื่อเกม Super Mario USA แทน เรียกได้ว่าแฟนปู่นินทั่วโลกได้เล่นกันครบ และเป็นเวอร์ชันที่ปรับปรุงให้เป็นภาพแบบ 16Bit ด้วย

และเชื่อหรือไม่ว่าแม้ว่าเกม Mario 2 อเมริกาจะเหมือนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่ DNA ของเกมยังคงอยู่ในซีรีส์ มาริโอ ในทุกวันนี้หลายตัวละครใน Super Mario Bros 2 มาอยู่ในภาคหลักด้วยเช่น Shy guy และการเลือกตัวละครได้ 4 ตัวได้ถูกนำมาใช้อีกครั้งในเกม Super Mario 3D World บน WiiU และ Nintendo Switch ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ทั้ง Mario , Luigi , Toad และ เจ้าหญิงพีช เหมือนกับภาค 2 ด้วย

เอาจริง ๆ ตำนานของเกม Super Mario Bros 2 ที่มีการสร้างออกมา 2 ครั้ง แสดงให้เห็นว่านินเทนโด เอาใจใส่ต่อแฟนเกมทั่วโลก ที่ไม่ฝืนขายเกมต้นฉบับหากมองว่ามันไม่เหมาะสม และเป็นเรื่องที่ในยุคนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นอีกเพราะมันเป็นการนำเกมอื่นที่ไม่ใช่ซีรีส์หลัก มาทำเป็นอีกเกมไปเลยคงไม่ใช่เรื่องดี และสื่อทุกวันนี้ที่ออนไลน์กันหมดแล้ว ทำให้ข่าวจะถึงหูแฟนเกมก่อนตัวเกมจะวางขายด้วยซ้ำ ถือเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงการเกมที่ต้องจารึกไว้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

Spotify เปิดฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเพลงที่ชอบลงบน Apple Watch ได้แล้ว

Spotify ประกาศข่าวดีสำหรับสาวก Apple ที่ตอนนี้ผู้ใช้งาน (เฉพาะ Premium user) จะสามารถดาวน์โหลดเพลงที่ชอบ หรือ Podcast ที่โดนใจจาก Spotify ลงบน Apple Watch ตั้งแต่ Apple Watch ...อ่านต่อ

Nikon ระงับคำสั่งซื้อเลนส์ DSLR 180-400mm F4 ด้วย ‘เหตุผลด้านการผลิต’

Nikon Japan ประกาศบนเว็บไซต์ยืนยันจะมีการระงับคำสั่งซื้อเลนส์เทเลโฟโต 'AF-S Nikkor 180–400mm F4E TC1.4 FL ED VR' ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2021 เป็นต้นไป จากเหตุผลด้านการผลิต

Epic ว่าอย่างไร? ซีอีโอแอป Snapchat บอก แฮปปีกับการจ่าย 30% ให้ Apple

อีแวน สปีเกล (Evan Spiegel) ซีอีโอของแอปพลิเคชัน Snapchat ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่าบริษัทแฮปปีกับการจ่าย 30% ให้ Apple แบบไม่มีปัญหาอะไรเลย “เรารู้สึกว่า Snapchat ...อ่านต่อ

สื่อนอกนอนยัน MacBook Pro พร้อมชิป Apple M1X มาแน่ปลายปีนี้

แหล่งที่มายืนยันว่า Apple จะหันมาใช้ชิปประมวลผล Apple M1X รุ่นอัปเกรดของ Apple M1 ใน MacBook Pro รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ แทนที่จะเป็น Apple M2 ซึ่งคาดว่า Apple ...อ่านต่อ

เกาหลีใต้อนุมัติวัคซีน COVID-19 ของ Moderna จะนำเข้า 40 ล้านโดสโดยเอกชน GC Pharma

วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม Kim Ganglip รัฐมนตรีกระทรวงอาหารและยาเพื่อความปลอดภัยของเกาหลีใต้ เผยว่าเกาหลีใต้ได้อนุมัติการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด 19 ของโมเดอร์นา (Moderna) ...อ่านต่อ