แม้ว่าจะเหนือกว่า Game Boy ทุกด้าน แต่สิ่งแรกที่ Atari Lynx ไม่สามารถสู้นินเทนโดได้คือราคา ที่ในตอนเปิดตัวมีราคาสูงมากถึง 180 เหรียญ แม้ว่าในยุคนี้จะไม่ได้แพงแต่ในปี 1989 ถือว่าสูงกว่าเครื่องเกมคอนโซลต่อทีวีด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับเกมบอยที่มีราคาเปิดตัวเพียง 89 เหรียญ ถือว่าห่างกันเป็นเท่าตัวทำให้ไม่แปลกที่แฟนเกมจะเลือกปู่นิน แต่เท่านั้นคงไม่พอเพราะ Atari Lynx มีปัญหาหน้าจอที่แม้จะเป็นจอสีแต่มันดูยาก และแสดงภาพไม่คมชัดเพราะเทคโนโลยีในยุคนั้นไม่เพียงพอที่จะทำหน้าจอให้คมชัดทำให้การเล่นลำบาก แถมด้วยเกมเปิดตัวที่ไม่ได้โดดเด่น ทำให้ Atari Lynx หยุดผลิตไปในปี 1995 และทำยอดขายไปประมาณ 3 ล้านเครื่องเท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับยอดขายระดับ 100 ล้านของ Game Boy
Game Gear
ในวงการคอนโซลคู่แข่งที่น่ากลัวในยุคแรกของนินเทนโดคือค่าย SEGA ที่สามารถทำยอดขายเครื่องเกมได้ใกล้เคียงปู่นินในยุคแรกเริ่มและประสบความสำเร็จมากกับ Mega Drive ทำให้การมาของ Game Gear เป็นที่จับตามองอย่างมาก และการที่มาพร้อมกับหน้าจอสีที่คมชัดและมีขนาดใหญ่ มาพร้อมไฟบนหน้าจอ แถมยังมีเกมอย่าง Sonic หรือ นินจา Shinobi เป็นตัวชูโรง ทำให้แฟน ๆ เกมอยากจับจอง แม้แต่ผู้เขียนเองก็เคยมีเป็นเจ้าของ โดยสเปกของ Game Gear จะมาพร้อมกับ CPU แบบ 8Bit และหน้าจอสีแสดงผลได้มากกว่า 4,000 สี และใช้ตลับเกมเป็นสื่อ เรียกว่าเหนือกว่า Game Boy ทุกด้าน โดยวางขายในปี 1990 ในญี่ปุ่นและ 1991 ในอเมริกา ไล่หลังเกมบอยไม่กี่ปี ตอนเปิดตัวสามารถทำยอดขายได้ดีพอสมควร
ทำไมมันถึงสู้นินเทนโดไม่ได้
แม้อาจจะเรียกว่า Game Gear ล้มเหลวแบบหมดรูปไม่ได้ แต่หากนำไปเทียบยอดขายกับ Gameboy แล้วห่างกันเป็นสิบเท่า เพราะเกมบอยขายได้ 100 ล้านเครื่อง แต่ Game Gear ขายได้ 10 ล้านเครื่องถือว่าทำยอดขายได้พอสมควร แต่ไม่มากพอที่ทาง SEGA จะเข็นรุ่นต่อไปออกมาสานต่อและเลิกผลิตไปในปี 1997 แม้จะมีเกมดัง ๆ ของ SEGA ออกมารองรับจำนวนมากก็ตาม และสาเหตุหลักที่ Game Gear ขายได้น้อยอย่างแรกคือราคาที่เปิดตัว 150 เหรียญ ถือว่าไม่สูงแต่ก็แพงกว่าเกมบอย ส่วนอีกข้อที่มีปัญหาคือการกินแบตแบบสูบน้ำของ Game Gear เพราะมันใช้ถ่านไฟฉาย AA เป็นแหล่งพลังงานถึง 6 ก้อน และเล่นได้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้เป็นปัญหาใหญ่ของเครื่องเกมพกพา อีกทั้งตัวเกมแม้จะมีเกมดัง ๆ ออกแต่คุณภาพก็ไม่เท่าบนคอนโซล ทำให้แฟนเกมเลือกที่จะไปเล่นเกมเวอร์ชัน Maga Drive คอนโซลต่อทีวีของ SEGA มากกว่า
WonderSwan
เครื่องเกม WonderSwan จากค่าย Bandai ที่น่าจับตามองอย่างมากเพราะมันเป็นผลงานสุดท้ายของผู้ให้กำเนิด Game Boy อย่างคุณ Gunpei Yokoi ที่ออกแบบไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต (ตอนนั้นเขาได้ลาออกจากนินเทนโดแล้ว) โดย WonderSwan วางขายในปี 1999 ในแบบจอขาวดำก่อน และหลังจากนั้นก็ได้ออกรุ่นจอสีในชื่อ WonderSwan Color ในปี 2000 โดยรูปร่างของ WonderSwan จะมีความคล้ายกับ Atari Lynx ที่สามารถเล่นได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพราะ WonderSwan มีปุ่มทั้งสองด้าน และมาพร้อม CPU ระดับ 16Bit ทำให้สร้างกราฟิกได้ประมาณ Super Famicom ซึ่งถือว่ามากกว่า Game Boy พอสมควร
ส่วนจุดเด่นของ WonderSwan จะมาพร้อมกับการใช้แบตเป็นถ่านไฟฉายแบบ AA เพียงก้อนเดียวแต่เล่นได้ยาวถึง 40 ชั่วโมงในแบบจอขาวดำ และเล่นได้ยาว ๆ ถึง 20 ชั่วโมงในรุ่นจอสี เรียกได้ว่าประหยัดแบตอย่างน่าทึ่งมากแม้ทุกวันนี้ก็แทบไม่มีอุปกรณ์อะไรกินไฟน้อยขนาดนี้ บวกทั้งค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Squaresoft ได้รีเมกเกม Final Fantasy, Final Fantasy 2 และได้นำ Final Fantasy 4 มาออกวางขายบน WonderSwan Color ทำให้มันได้รับความสนใจอย่างมาก
Sony เปิดตัวสมาร์ตโฟนสำหรับมือโปรอย่าง Xperia PRO พร้อมกับกล้องสุดจัดจ้านอย่าง Sony A1 โดยเจ้า Xperia PRO มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สายทำงานจริงจังน่าจะถูกใจกัน ทั้งสีจอที่ตรงเวอร์ ...อ่านต่อ
เหลือเวลาอีกแค่วันเดียวก็จะถึงวันวางจำหน่ายของ Little Nightmares II เกมแนวผจญภัยสุดระทึกที่จะเล่าเรื่องราวของ Mono และ Six ที่ต้องออกเดินทางและเผชิญกับภัยอันตรายต่าง ๆ ...อ่านต่อ
ค่ายเกม Activision และทีมพัฒนา Toys for Bob ได้ประกาศว่าจะวางจำหน่ายเกม Crash Bandicoot 4: It’s About Time เวอร์ชัน PlayStation 5, Xbox Series X, Xbox Series S และ Nintendo Switch ...อ่านต่อ