ถ้าโควิด-19 เป็นหายนะของโรงหนังทั่วโลกเพราะคนไม่อยากออกจากบ้าน ก็อาจถือเป็นช่วงเวลาทองของบริการสตรีมมิงได้เช่นกัน โดยเฉพาะเน็ตฟลิกซ์ผู้ให้บริการเจ้าใหญ่ของโลกที่มีผู่ใช้อยู่แทบทุกมุมโลก แต่ดูเหมือนว่าวิบัติภัยไวรัสครั้งนี้อาจอยู่เหนือการรับมือของเน็ตฟลิกซ์อยู่เหมือนกันเพราะผู้คนแห่แหนเข้าไปชมจนทำให้แบนด์วิธไม่เพียงพอ และนั่นทำให้เน็ตฟลิกซ์ต้องนำมาตรการลดบิตเรตหรือคุณภาพของวิดีโอลงมาใช้ในทวีปยุโรป โดยข่าวนี้เกิดขึ้นหลังการพบปะกันของ รีด ฮาสติงส์ ประธานของเน็ตฟลิกซ์กับ เธียร์รี่ เบรตัน คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

รีด ฮาสติงส์ ประธานของเน็ตฟลิกซ์

“ผมเพิ่งคุยกับฮาสติงส์มา ในการรับมือกับโควิด-19 ที่พวกเราจำเป็นต้องอยู่ในที่พักอาศัยและสื่อบันเทิงอย่างโทรทัศน์และบริการสตรีมมิงจะช่วยได้มาก แต่มันก็จะทำให้ผู้คนต้องใช้อินเทอร์เน็ตพร้อมกันจำนวนมาก ซึ่งเรายังต้องคำนึงถึงเสถียรภาพการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของทุกคน เราต้องช่วยกันยอมเปลี่ยนมารับชมคุณภาพวิดีโอแบบธรรมดาแทนที่คุณภาพแบบไฮเดฟซึ่งไม่จำเป็นขนาดนั้น” เธียร์รี่ เบรตัน ได้ทวีตถึงความจำเป็นในเรื่องดังกล่าว

ซึ่งก่อนหน้านี้คนที่ชูประเด็นขึ้นมาคือบริษัทสำรวจข้อมูลสื่ออย่าง นีลเส็น ที่ออกมาประเมินว่าการเก็บตัวอยู่บ้านของผู้คนจำนวนมากอาจเพิ่มปริมาณการรับชมสื่อต่าง ๆ มากกว่าเดิมถึง 60% โดยจากการสังเกตประเทศที่มีการระบาดอย่างหนักมาก่อนหน้านี้เช่นในเกาหลีใต้และอิตาลี นีลเส็นได้ระบุว่าช่วงสัปดาห์ที่วิกฤติหนักมีผู้รับชมโทรทัศน์เพิ่มขึ้นถึง 17% คิดเป็นราว ๆ 1.2 ล้านคน ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกันกับในอิตาลีด้วย

โดยทางสื่อเจ้าดังอย่าง The Verge ได้สัมภาษณ์กับตัวแทนของเน็ตฟลิกซ์ถึงมาตรการดังกล่าวได้รับคำตอบว่า “เน็ตฟลิกซ์จะเริ่มลดบิตเรตทั้งหมดในยุโรปเป็นเวลา 30 วันก่อน เราหวังว่ามาตรการนี้จะช่วยลดความคับคั่งของการส่งถ่ายข้อมูลของเน็ตฟลิกซ์ในยุโรปลงได้ราว 25% ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสมาชิกจะยังได้รับคุณภาพการบริการที่ดีอยู่”

ทั้งนี้การลดคุณภาพวิดีโออัตโนมัติเมื่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตอ่อนลง ก็เป็นมาตรการที่เน็ตฟลิกซ์ใช้มาตั้งแต่ปี 2011 เพื่อใช้ในพื้นที่ที่อินเทอร์เน็ตคุณภาพต่ำด้วย และตลอดมาก็ไม่มีปัญหาในแง่การใช้งานของผู้ใช้ แต่ทั้งนี้สำหรับผู้ใช้เองก็อาจต้องยอมรับว่าในภาวะเช่นนี้การต้องยอมปรับพฤติกรรมต่าง ๆ จากเดิมเช่นการดูวิดีโอแบบคุณภาพธรรมดาแทนไฮเดฟก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับบ้านเราก็น่าจะต้องดูภาพรวมการใช้งานต่อไปในกรณีที่มีมาตรการให้ทำงานอยู่บ้านหรือกักตัวอยู่บ้านจำนวนมาก

ที่มา

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

LINE เพิ่มฟีเจอร์แชร์ลิงก์เชิญเพื่อนเข้ามาประชุมได้เหมือน ZOOM แล้ว

ตอนนี้หลาย ๆ หน่วยงานไม่ว่าจะบริษัททั่ว ๆ ไปหรือการศึกษายังคงมีการ Work from Home อยู่เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ล่าสุดทาง LINE ...อ่านต่อ

Play video
Video
feature

beartai Weekly#25 ยาน Crew Dragon กลับโลกแล้ว!

Olympus เปิดตัวเลนส์ซูมเทเลโฟโต M.Zuiko Digital ED 100-400mm F5.0-6.3 IS

เปิดตัวพร้อมกับกล้อง E-M10 Mark IV โอลิมปัสเปิดตัวเลนส์ Olympus M.Zuiko Digital ED 100-400mm F5.0-6.3 IS เลนส์ซูมเทเลโฟโต้ที่มีระยะซูมเทียบเท่า 200-800mm บนกล้อง Full-frame ...อ่านต่อ

Hauser ผู้ร่วมก่อตั้งเผยไม่อยากให้ ARM ถูกขายแก่ Nvidia

Dr. Hermann Hauser ผู้ร่วมก่อตั้ง ARM ได้เปิดเผยกับ BBC ในกรณีที่ Nvidia กำลังเจรจาซื้อ ARM จาก SoftBank ว่าไม่เหมาะสม เพราะโดยพื้นฐานธุรกิจของ ARM สามารถขายชิปให้กับทุกบริษัทได้ ...อ่านต่อ

Oppo เปิดตัว “K7 5G” : สมาร์ตโฟน 5G ระดับกลาง สเปกเทียบรุ่นพรีเมียม

OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G ระดับกลางรุ่นใหม่อ่าง A72 5G ไปเมื่อเดือนกรกรฎาคม 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งมาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 720 5G ระดับ 7 นาโนเมตร ความเร็ว 2 GHz, จอ LCD ...อ่านต่อ

Sony ยืนยัน DualShock ไม่สามารถเล่นเกมของ Playstation 5 ได้

Sony เผยข้อมูลของ Playstation 5 ออกมาเรื่อย ๆ ให้แฟน ๆ ได้รู้ข้อมูลต่าง ๆ และอีกสิ่งนึงที่ขาดไม่ได้สำหรับการเล่นเกม Controller Sony ออกมายืนยันผ่าน PlayStation Blog ...อ่านต่อ

Olympus เปิดตัว OM-D E-M10 Mark IV กล้องในระบบ MFT ตัวใหม่ที่มาพร้อมจอสำหรับ selfie

แม้ว่าต่อไปเราอาจจะไม่เห็นแบรนด์ Olympus อยู่บน OM-D แล้ว แต่เพื่อไม่ให้แฟนๆ คิดมากจนเกินไป Olympus เปิดตัวรุ่นที่ 4 แล้วสำหรับกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark IV กล้อง Mirrorless ...อ่านต่อ