Variety ได้รายงานว่า ‘The Garfield Movie’ ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ในสหรัฐฯ ไป 14 ล้านเหรียญ ซึ่งลดลง 41.7% จากสุดสัปดาห์แรก ทำให้ภาพยนตร์แอนิเมชันล่าสุดของ Sony Pictures เรื่องนี้ ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ และทำให้แชมป์เก่าอย่าง ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ ตกไปอยู่อันดับที่ 3 ด้วยรายได้ 10.75 ล้านเหรียญ ซึ่งลดลง 59% จากสุดสัปดาห์แรก

ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่อง เข้าฉายสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ พร้อมกัน (24 – 26 พฤษภาคม 2024) โดย ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ ขึ้นอันดับที่ 1 ด้วยรายได้ 26.3 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าที่หลายสื่อคาดการณ์ไว้ว่าจะทำได้ประมาณ 30 ล้านเหรียญ ในขณะที่ ‘The Garfield Movie’ นั้น อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยรายได้ 24 ล้านเหรียญ ซึ่งเกินความคาดหมายที่สื่อในต่างประเทศคาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังทำรายได้ในวันหยุด Memorial Day ของสหรัฐฯ ไปถึง 7.2 ล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่า ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ ที่ทำได้รายได้ในวันเดียวกันไป 6 ล้านเหรียญ

นับตั้งแต่นั้น ‘The Garfield Movie’ ก็มีแนวโน้มการทำรายได้ในสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างดีกว่า ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ เป็นลำดับขึ้นไป

ในขณะนี้ ‘The Garfield Movie’ ทำรายได้รวมในสหรัฐฯ ไป 51.5 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกไป 152.3 ล้านเหรียญ ส่วน ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ ทำรายได้รวมในสหรัฐฯ ไป 49.7 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกไป 114.4 ล้านเหรียญ

‘IF’ ภาพยนตร์คอเมดีครอบครัวล่าสุดของผู้กำกับ จอห์น คราซินสกี้ (John Krasinski) และนำแสดงโดย ไรอัน เรย์โนลส์ (Ryan Reynolds) ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยรายได้ 10.8 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 138 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 110 ล้านเหรียญ และมีความเป็นไปได้ที่รายได้ถึงจุดคุ้มทุนที่ประมาณ 220 ล้านเหรียญ ได้ในอนาคต

‘The Kingdom of the Planet of the Apes’ สามารถทำรายได้ทั่วโลกถึง 337.1 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 160 ล้านเหรียญ ผ่านจุดคุ้มทุนที่ประมาณ 320 ล้านเหรียญ ไปเรียบร้อยแล้ว และทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกสุงสุดลำดับที่ 4 ของปี 2024 ในขณะนี้ รองจาก ‘Kung Fu Panda 4’ (539.3 ล้านเหรียญ), ‘Godzilla x Kong: The New Empire’ (567.2 ล้านเหรียญ) และ ‘Dune: Part Two’ (771.8 ล้านเหรียญ)

5 อันดับ บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ (31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2024)