นับตั้งแต่การประท้วงหยุดงานที่เกิดขึ้นในฮอลลีวูด ทั้งการประท้วงของสมาชิกสหภาพแรงงานผู้เขียนบทภาพยนตร์และบทละครของสหรัฐฯ (WGA – Writers Guild of America) จนถึงการประท้วงของสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (SAG – The Screen Actors Guild) และสหพันธ์ศิลปินโทรทัศน์และวิทยุแห่งอเมริกา (AFTRA – American Federation of Television and Radio Artists) เพื่อเรียกร้องเกี่ยวกับค่าตอบแทนและส่วนแบ่งที่เป็นธรรม ที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา

ที่ผ่านมาก็มีนักแสดงสมาชิกของสหภาพได้ไปรวมตัวกันประท้วงกันอย่างคับคั่ง ซึ่ง แอรอน พอล (Aaron Paul) เจ้าของบท เจสซี พิงก์แมน, ไบรอัน แครนสตัน (Bryan Cranston) และ เจสซี พลีมอนส์ (Jesse Plemons) เจ้าของบท ท็อดด์ อัลควิสต์ 3 นักแสดงนำจากซีรีส์ดราม่าอาชญากรรมชื่อดัง ‘Breaking Bad’ (2008–2013) ความยาว 5 ซีซันที่โด่งดังเป็นกระแสหลังจากฉายบน Netflix ที่ได้มีโอกาสไปร่วมประท้วงในฐานะนักแสดงของ SAG-AFTRA ด้วยเช่นกัน

พอลได้ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Tonight Canada ในระหว่างประท้วง โดยเผยว่า แม้ซีรีส์ ‘Breaking Bad’ จะโด่งดังระดับโลกและคว้ารางวัลมากมาย แต่เขากลับไม่ได้รับส่วนแบ่งกำไร (Residual Payment) จากบริษัทสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ของโลกเลยแม้แต่เหรียญเดียว

https://www.youtube.com/watch?v=EyVl1u1zkLk&ab_channel=ETCanada

“ผมไม่เคยได้รับส่วนแบ่งจาก ‘Breaking Bad’ ที่ฉายบน Netflix เลยครับ ถ้าพูดกันตรง ๆ ก็คือ มันเป็นอะไรที่บ้ามาก ๆ จากการที่ผลงานยังอยู่ในสตรีมมิง แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันก่อนผมเพิ่งเห็นว่าซีรีส์มันติดเทรนด์บน Netflix ซึ่งก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ แต่สุดท้ายสตรีมเมอร์เหล่านี้ต่างก็รู้ตัวว่า พวกเขาสามารถเอาตัวรอดโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนที่ยุติธรรมให้กับคนทำงานได้ และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทวงหนี้”

Netflix ในตอนนี้ นอกจากจะยังมีซีรีส์ ‘Breaking Bad’ แล้ว ก็ยังมีคอนเทนต์ในจักรวาลเดียวกัน ทั้งซีรีส์สปินออฟ ‘Better Call Saul’ (2015 – 2022) และ ‘El Camino: A Breaking Bad Movie’ (2019) หนังสปินออฟที่เขาแสดงนำฉายอยู่ ซึ่งสิ่งที่พอลเรียกร้องนั้นไม่ได้เป็นการเรียกร้องแบบลอย ๆ แต่ถือเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญในการประท้วงหยุดงานของ SAG-AFTRA นอกจากข้อเรียกร้องในการคุ้มครองสิทธิ์ของนักแสดง จากการนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) มาใช้แล้ว

อีกข้อเรียกร้องสำคัญก็คือ การปรับฐานส่วนแบ่งค่าตอบแทนสำหรับผลงานที่มีการนำออกมาเผยแพร่ใหม่ (Residual Payment) บนแพลตฟอร์มสตรีมมิง เนื่องจาก ‘Breaking Bad’ เป็นซีรีส์ที่ Netflix ซื้อต่อจากช่องเคเบิล AMC ของสหรัฐอเมริกา และ Netflix ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นซีรีส์ยอดนิยมที่มีผู้ชมทั่วโลก รวมทั้งยังได้เข้าชิงและคว้ารางวัลมากมาย ทั้งจากเวที ไพรม์ไทม์ เอ็มมี อวอร์ด (Primetime Emmy Awards) และลูกโลกทองคำ (Golden Globe Awards) ซึ่งหากข้อตกลงนี้มีผล พอลและนักแสดงทุกคนก็จะได้รับส่วนแบ่งจากการฉายซ้ำบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไปตลอด

แครนสตัน นักแสดงอีกคนของซีรีส์ ที่เดินทางมาชุมนุมด้วยกันในครั้งนี้ ได้กล่าวกับผู้ชุมนุมในระหว่างปักหลักประท้วงที่สตูดิโอ Sony Pictures Entertainment Studios เมืองคัลเวอร์ซิตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีแผนก Sony Pictures Television ที่เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตซีรีส์เรื่องนี้ว่า

“ตอนนี้เราอยู่ที่ Sony สตูดิโอที่ผลิตโชว์ของพวกเรา และพวกเราเจาะจงมาที่นี่ เพื่อให้พวกเขารู้ว่า พวกเราอยู่ที่นี่ และกำลังส่งเสียงของเรา เราไม่ต้องการทำให้พวกเขาเป็นศัตรู พวกเขาไม่ใช่คนร้าย คนเหล่านี้คือคนที่จะทำให้พวกเราได้ร่วมงานบางอย่างด้วยกันอีกครั้ง เราแค่อยากให้พวกเขาได้เห็นความเป็นจริง ความยุติธรรม กลับมาที่โต๊ะเพื่อพูดคุยกัน เราอาจมีจุดร่วมอะไรบางอย่างมากกว่าที่พวกเขาคิด”

---

ที่มา: Entertainment Weekly, Variety

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส