30 กรกฎาคมที่ผ่านมา มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ได้โพสต์คลิปสั้นในช่องทางเฟซบุ๊ก และตามมาด้วยข้อความสำคัญที่ระบุว่า Meta กำลังจะเปิดตัว ‘Superintelligence’ ซึ่งเป็น AI ที่จะเข้ามาช่วยให้มนุษย์ทำงานได้อย่างชาญฉลาดขึ้น

โดย Meta ได้จัดตั้ง Meta Superintelligence Labs ที่รวบรวมทีมงาน AI ระดับโลก และกำลังพัฒนาโมเดล AI รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Llama 4.1 และ 4.2 พร้อมทุ่มลงทุนมหาศาลในการสร้างศูนย์ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น Prometheus และ Hyperion เพื่อรองรับการพัฒนา AI นี้ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง แว่นตาอัจฉริยะ (AI Smart Glasses) ซึ่งจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักของมนุษย์ในอนาคต BT ได้สรุปประเด็นสำคัญมาให้ ดังนี้

เป้าหมายหลัก Meta ต้องการสร้าง AI สำหรับทุกคน ภายใต้แนวคิด ‘We’re building personal superintelligence for everyone’ เพื่อมอบพลังและโอกาสใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพ ต่างจาก AI เจ้าอื่นในตลาดที่เน้นการช่วยงานสำคัญเพียงอย่างเดียว

Superintelligence จะเข้ามาเป็นทั้งคู่หูและเพื่อน ที่จะช่วยให้สิ่งที่เรามองว่า ‘มีคุณค่า’ กลายเป็นรูปธรรมและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยเน้นการเชื่อมโยงถึงกันในเชิงมนุษย์ มากกว่าการเป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น

จุดเด่นของ Superintelligence

  • ฉลาดกว่าคน : AI นี้ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถที่เหนือกว่าสติปัญญาของมนุษย์
  • AI ส่วนตัวสำหรับทุกคน : Meta ต้องการให้ทุกคนเข้าถึงและใช้ Superintelligence เพื่อตอบโจทย์ความต้องการส่วนบุคคลเป็นหลัก

แล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรจาก Superintelligence ?

  • การโฆษณาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น : AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์จากการโฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ประกอบการรายย่อยที่สามารถสร้างสรรค์โฆษณาได้ง่ายขึ้น
  • ประสบการณ์ที่น่าสนใจ : AI พัฒนาระบบแนะนำเนื้อหาบน Facebook และ Instagram ให้มีความฉลาดมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานค้นพบเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจ และใช้เวลาบนแพลตฟอร์มนานขึ้น
  • การสื่อสารทางธุรกิจ : ในอนาคต ทุกธุรกิจจะมี AI เป็นของตนเอง ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้ามีประสิทธิภาพและราบรื่นมากยิ่งขึ้น
  • Meta AI ผู้ช่วยส่วนตัวชั้นนำ : Meta AI กำลังก้าวขึ้นเป็น AI ส่วนตัวที่เข้าถึงผู้ใช้งานกว่าพันล้านคนต่อเดือน และพร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
  • อุปกรณ์ AI ในชีวิตประจำวัน : แว่นตา Ray-Ban Meta และ Oakley Meta HSTN จะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ผนวก Superintelligence เข้ามาในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ Meta ยังคงเดินหน้าลงทุนใน Quest Ecosystem เพื่อพัฒนาโลกเสมือนจริง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การดูสื่อ หรือการท่องเว็บ

เป็นไปได้ไหมว่า เรากำลังจะได้ใช้ชีวิตแบบตัวละครเอกจากภาพยนตร์ในตำนานอย่างเรื่อง ‘Her’ ?

สำหรับผู้ที่อยากทดลองใช้งาน Meta จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Reality Labs ที่จะนำเสนอในงาน Connect วันที่ 17 กันยายนนี้ ต้องรอติดตามความคืบหน้ากันต่อไป