(PR NEWS)

ปี 2022 เป็นอีกปีที่สมรภูมิตลาดแพลตฟอร์ม Food Delivery แข่งขันกันอย่างดุเดือด เบื้องหลังของการต่อสู้ในสงครามนี้คงไม่ใช่แค่การอัดโปรโมชันให้ปัง เพราะในเชิงการบริหารธุรกิจ การบริหารพนักงาน การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต มอบแรงบันดาลใจ ส่งเสริมความหลากหลายให้กับคนทำงานรุ่นใหม่ ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ

วันนี้ beartai พามารู้จักกับ ‘พี่เฮียง’ หรือ ‘คุณศิริภา จึงสวัสดิ์’ Managing Director ของ ‘foodpanda’ แพลตฟอร์มจัดส่งอาหารและของกินของใช้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นเจ้าแรกเปิดให้บริการครบ 77 จังหวัดครอบคลุมทั่วประเทศไทย ที่วันนี้เปิดบ้านต้อนรับให้เราไปเยี่ยมชมออฟฟิศใหม่เอี่ยม พร้อมกับการเฉลิมฉลองเข้าสู่ปีที่ 10  

พี่เฮียงจะเล่าให้เราฟังว่า จาก Passion เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้  ผนวกกับประสบการณ์การบริหาร Tech Company ชั้นนำ และการให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของพนักงาน รวมถึงการส่งเสริมบรรยากาศและโอบรับความหลากหลายของพนักงาน จนทำให้ออฟฟิศของที่นี่ได้รับคัดเลือกให้เป็น ‘Great Place to Work®’ หรือสำนักงานที่น่าทำงาน จนสามารถผลักดันให้ foodpanda เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจลูกค้า และแข่งขันท่ามกลางสมรภูมิที่ยังคงดุเดือดในปี 2022 นี้ อย่างยั่งยืนได้อย่างไรบ้าง


foodpanda

อยากให้เล่าความรู้สึกของการเข้ามาเป็น MD ที่ foodpanda 

พี่ชอบเรื่อง Technology อยู่แล้ว และรู้สึกอยากทำงานที่สร้าง Impact ต่อผู้คน ซึ่งธุรกิจอาหาร ของกิน ของใช้ (Grocery) เป็นหนึ่งในไม่กี่ธุรกิจที่เจอกับลูกค้าได้ทุก ๆ วัน พอได้มาร่วมทีม ก็รู้เลยว่า foodpanda ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ และสิ่งที่รู้สึกประทับใจที่นี่คือ เรื่องของคนและวัฒนธรรมองค์กร คนที่ foodpanda มีความเปิดใจ และมีความหลากหลาย ทั้งหลากหลายเพศ และเชื้อชาติ ก่อนมาที่นี่เราเชื่อว่าถ้าได้ร่วมงานกับ foodpanda ต้องได้ทำงานกับทีมที่มีความเป็นนักสู้แน่นอน แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ทำให้มีบรรยากาศการทำงานสนุก มีพลัง และกล้าคิดกล้าตัดสินใจ

ประสบการณ์การทำงานใน Tech Company ที่ผ่านมาของคุณเป็นอย่างไรบ้าง อะไรคือสิ่งที่ยาก ท้าทายที่สุด

ความท้าทายขึ้นอยู่กับสถานะนั้น ๆ ของธุรกิจด้วย อย่างตัว foodpanda เอง 10 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีก็เปลี่ยนไปมาก ตอนนั้นเรายังมีแค่ Web Browser พอมีคนใช้แอปพลิเคชันมากขึ้น ก็ต้องมีแอปฯ เพิ่มขึ้นมา แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับคนสาย Tech คือ เราหยุดพัฒนาไม่ได้เลย เพราะเราสามารถถูก Disrupted ได้ตลอด 

และความท้าทายของสาย Tech อีกอย่างคือ การพัฒนาโปรดักต์ที่เข้าใจลูกค้า แน่นอนว่าการสร้างเทคโนโลยีอะไรก็ตามมันมีต้นทุนที่สูงมาก บางครั้งคนพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมา จะคิดไปเองว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตลาด แต่สิ่งที่เราคิดไม่ได้แปลว่ามันจะถูกเสมอไป สิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องทำคือ เราจะทำอย่างไรที่จะเข้าใจตลาด และเปิดใจรับฟังลูกค้าว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องโฟกัส และอะไรเป็น Pain Point ที่ต้องแก้ เพราะการทุ่มเทคิดค้นมาเป็นปี ๆ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการก็ได้ ซึ่งทำให้เสียทั้งเงินและเวลา

foodpanda

ในมุมมองของคุณ อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการบริหาร Tech Company ในปี 2022

อย่างแรกเลยก็คือเรื่องของคนค่ะ โดยเฉพาะ Tech Company ต้องได้คนที่ไม่ใช่แค่เก่ง แต่มีทัศนคติที่ถูกต้องด้วย เพราะทุกวันนี้เราต้องการหาบุคลากรที่มีทั้งความสามารถและทัศนคติ สิ่งที่เราต้องการอย่างหนึ่งคือ ‘Stay Humble’ (ให้เกียรติซึ่งกันและกัน) การ Stay Humble จะทำให้เรารู้ตัวอยู่เสมอว่าอะไรที่เรายังทำได้ไม่ดีพอ และเรียนรู้ที่จะหาจุดอ่อนของตัวเองอยู่เสมอ อะไรที่เราจะสามารถทำให้ดีขึ้นได้ อีกสิ่งหนึ่งก็คือ ต้องล้มให้เป็น และลุกให้เร็ว ล้มแล้วไม่เป็นไร พรุ่งนี้ลุกเลย ต้องล้มให้เป็นบ้างในบางครั้ง และต้องลุกให้ได้อย่างรวดเร็ว สนุกกับการทำงาน

ต้องล้มให้เป็น และลุกให้เร็ว ล้มแล้วไม่เป็นไร พรุ่งนี้ลุกเลย ต้องล้มให้เป็นบ้างในบางครั้ง และต้องลุกให้ได้อย่างรวดเร็ว

ตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา อะไรคือหัวใจในการบริการและจุดแข็งของ foodpanda ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ

อาจจะฟังดูเบสิกนะคะ เรื่องแรกคือการทำอย่างไรให้การสั่งอาหาร ตั้งแต่กดสั่ง จนถึงจัดส่งถึงมือลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ และมีความใกล้เคียงกับความคาดหวังที่สุด เราพยายามจะทำสิ่งนี้ให้ได้มากที่สุด แน่นอนว่าอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่เราเองพยายามอย่างเต็มที่ ให้ความสำคัญกับทุกดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ผ่านเทคโนโลยีและตัวโปรดักต์ที่ใช้ง่าย

เรื่องที่ 2 คือ foodpanda ให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ 77 จังหวัด และยังมีพาร์ตเนอร์ของเราทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และ  ไรเดอร์ ที่เราดูแลเพื่อช่วยกันให้เติบโตกันอย่างยั่งยืน อย่างตอนช่วงโควิด foodpanda ก็มีส่วนที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าอยู่ได้ และเป็นโอกาสให้คนเข้ามาเป็นไรเดอร์เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมได้ด้วย

ในฐานะที่ foodpanda ครบรอบ 10 ปี มีแคมเปญหรืออะไรเพื่อฉลองครบรอบบ้าง

แคมเปญล่าสุดที่เราจัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี คือ ‘วันอังคาร วัน foodpanda’  เป็นแคมเปญที่นำเสนอดีลพิเศษ    สุด ๆ ทุกวันอังคาร เพราะวันอังคารคือสีชมพูใช่ไหมคะ เราอยากจะสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้ว่า วันอังคารเป็นวัน foodpanda ที่จะมีโปรสุดคุ้ม โค้ดส่งฟรี และมีส่วนลดสูงสุดมากถึง 90% รวมทั้ง pandamart ก็ลดสูงสุดถึง 50% ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อยากให้ลูกค้าคิดถึงว่า วันอังคาร วันของ foodpanda สั่งแล้วคุ้มแน่นอน แต่วันอื่น ๆ ก็คุ้มเหมือนกันนะ (หัวเราะ)

foodpanda

อยากให้คุณแนะนำออฟฟิศที่เพิ่งเปิดใหม่ ว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

เอาเรื่องของสถานที่ตั้งก่อนนะคะ เราให้ความสำคัญกับบุคลากร เราอยากให้ออฟฟิศเป็นที่ที่ทุกคนเดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ส่วนการตกแต่งออฟฟิศ คอนเซปต์หลัก ๆ ก็คือ ‘Agile Workplace’ ชาว foodpanda จะรู้สึกถึงพลังและความสดใส ทำงานด้วยความสนุกสนาน และการที่เรามีแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง ‘เปาเปา’ (Pau-Pau) ก็ช่วยให้เรามี Creativity คอยกระตุ้นให้เราคิดสิ่งแปลกใหม่ให้กับตลาดอยู่เสมอ 

คุณนำประสบการณ์มาปรับจูนกับการทำงาน ส่งเสริม สนับสนุนการทำงาน ไอเดียของพนักงานที่นี่อย่างไรบ้าง

มีแน่นอนค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่สั่งสมมาในตัวเรา ที่เกิดจากการเรียนรู้ทั้งเรื่องที่ทำถูกบ้าง ทำพลาดบ้าง แต่สิ่งที่เอามาปรับใช้ก็คือหนึ่งใน Core Value ของ foodpanda คือ ‘Get 1% Better Everyday’ เป็นการเปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รวมถึงต้องเปิดใจว่า แม้สิ่งที่เราทำจะดี แต่มันก็อาจจะมีสิ่งที่เราทำผิดพลาดด้วย รวมถึงตัวพี่เองด้วย ไม่ใช่ว่าเป็น MD แล้วจะต้องตัดสินใจถูกเสมอ ต้องหมั่นดูเสมอว่า อะไรที่เราสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้อีก เพื่อให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้นเรื่อย ๆ

และจากที่เล่าไปตอนต้น พนักงานที่ foodpanda มีความหลากหลายมาก โดยเฉพาะเรื่องเจนเนอเรชัน เวลาเจอน้อง ๆ รุ่นใหม่ เราเองก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เข้าใจว่าเขาคิดอย่างไร และจะสนับสนุนอย่างไรให้เขาเป็นตัวเขาในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ทำอย่างไรที่เราจะดึงศักยภาพของคนออกมาให้ได้ ฉะนั้นเราก็ต้องฝึกที่จะเรียนรู้และปรับตัว เพื่อให้การบริหารสอดคล้องไปกับสิ่งที่เหมาะ และดึงศักยภาพของพวกเขาออกมาให้ได้

foodpanda ในทุกวันนี้ได้รับการชื่นชมว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย คุณในฐานะ MD รู้สึกอย่างไรบ้าง

แน่นอนค่ะรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ที่ที่มีวัฒนธรรมส่งเสริมความหลากหลายและเป็นสถานที่ให้คนเราได้เรียนรู้การเคารพและการยอมรับความคิดเห็นจากคนรอบตัวเรา พี่เองก็อยากเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะสื่อสารให้น้อง ๆ เชื่อมั่นในความหลากหลายในรูปแบบที่เป็นตัวเขาเอง เพื่อให้พวกเขาทำงานอย่างมีความสุข และการเข้ามาบริหารที่นี่ มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีโอกาสในการดึงเอาศักยภาพของทุก ๆ คนออกมา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

เป้าหมายสูงสุดของคุณในฐานะ MD อยากให้ foodpanda เติบโตในรูปแบบไหน

Goal ระยะยาวก็อยากให้ foodpanda เติบโตอย่างอย่างยั่งยืน และสิ่งสำคัญคือต้องเป็น ‘แอปฯ ที่คนจะคิดถึงเราทุก ๆ ครั้ง เวลาเค้าต้องการสั่งอาหาร ของกิน ของใช้’ แล้วก็หวังอย่างยิ่งในภายภาคหน้าว่าลูกค้าจะคิดถึงเรา รักเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ต้องใช้เวลาในการสร้างพอสมควร และก็สร้างไม่ได้ด้วยตัวคนเดียวด้วย ต้องมีทีมงานในการช่วยสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น

คำถามสุดท้าย คุณอยากให้ลูกค้านึกถึง foodpanda ในฐานะอะไร หรือเป็นแบบไหนมากที่สุด

อยากให้ foodpanda เป็นเหมือนเพื่อนค่ะ เหมือนเปาเปา (หัวเราะ) เปาเปาเป็นเพื่อนที่นำความสดใส นำพลังงานบวกมาให้ ถ้าเกิดว่าเขาใช้ foodpanda แล้วรู้สึกเหนื่อยน้อยลง ก็จะมีความสุขมากขึ้น มีรอยยิ้มมากขึ้น ส่วนตัวเลยอยากให้ foodpanda เป็นคนที่นำรอยยิ้มมาสู่คนที่ใช้งานค่ะ


พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส