Our score
6.0Samurai Riot Definitive Edition
จุดเด่น
- ระบบเลือกการกระทำ และฉากจบหลายแบบ
- เกมเพลย์เข้าใจง่าย
จุดสังเกต
- งานออกแบบตัวละครธรรมดาไม่โดดเด่น
- เกมเพลย์ธรรมดาไม่แปลกใหม่
หนึ่งในรูปแบบการเล่นที่เก่าแก่มากที่สุดก็คือแนวต่อตีหรือที่เรียกว่า Beat ‘Em Up ที่แม้ว่ายุคหลังจะไม่ได้มีเกมใหม่เอาไปใช้แบบตรง ๆ แต่ DNA ของมันยังคงอยู่ในหลายเกม รวมทั้งด้วยกระแสย้อนยุคมาแรงทำให้พักหลังมีการขุดเอาแนวทางต่อยตีกลับมาสร้างใหม่บ่อยมาก
ล่าสุดมีการเปิดตัว Samurai Riot – Definitive Edition ลง Nintendo Switch (และ PC) ซึ่งมันเป็นแนว Beat ‘Em Up 2 มิติมาแนวเดียวกับ Final Fight ที่ไม่ใช่ภาคใหม่แต่เป็นภาคอัปเกรดของ Samurai Riot ที่ปรับปรุงจากของเดิมเล็กน้อยเช่นความลื่นไหลของกราฟิก และเพิ่มการทำคอมโบใหม่แต่โดยรวมก็คล้ายกับต้นฉบับที่เอามาขายใหม่
โดยเรื่องราวใน Samurai Riot เราจะได้เล่นเป็น Sukane และ Tsuruamaru นักรบที่มาธีมซามูไรนินจาในโลกแฟนตาซีที่ไม่เน้นความสมจริงตามประวัติศาสตร์ ที่ทั้ง 2 ต้องออกต่อสู้กับกองทัพศัตรู และต้องเลือกระหว่างศีลธรรมกับหน้าที่ ความโดดเด่นของเกมคือเราสามารถเลือกดำเนินเรื่องราวได้ตามใจ และจะมีฉากจบมากถึง 8 รูปแบบทำให้เราสามารถกลับมาเล่นได้หลายรอบด้วย
กราฟิกที่จำลองมาจากภาพวาด
ภาพของเกมนี้จะใช้รูปวาดมาเรียงร้อยออกมาให้เป็นกราฟิกที่เข้ากับเกมเพลย์ที่เป็นแอ็กชัน 2 มิติ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไร เพราะมีหลายเกมเอาไปใช้มาแล้ว แต่น่าเสียดายมากที่งานออกแบบตัวละครดูธรรมดา ทั้งตัวละครหลักและศัตรูที่ดูจืดจางไร้เสน่ห์ไปหน่อย ทำให้หลายครั้งที่เล่นรู้สึกเหมือนเกมบนสมาร์ตโฟนมากกว่าบนคอนโซล
ส่วนงานออกแบบโลกของเกมที่แม้จะบอกว่ามาแนวซามูไร แต่ก็มีการผสมผสานโลกยุคใหม่เข้าไปจนมีความเป็นแฟนตาซีสูงไม่เน้นความสมจริง และด้วยงานออกแบบที่เน้นใส่สิ่งใหม่เข้าไปทำให้เพลงประกอบก็ใส่มาทั้งดนตรีญี่ปุ่นโบราณ และเพลงสมัยใหม่ได้ลงตัวดี อย่างไรก็ตามการเล่าเรื่องจะดูเรียบ ๆ ไปหน่อยเพราะแค่ตัวละครมาพูดกันคัตซีนก็ทำได้เรียบเกินไปทำให้ผู้เล่นไม่อินกับเรื่องราวเท่าที่ควร
รูปแบบการเล่นต่อยตีตะลุยด่าน
ใน Samurai Riot ผู้สร้างตั้งใจใช้แนวทาง Beat ‘Em Up มาเป็นแนวทางหลักและเป็นแบบต้นฉบับแท้ ๆ ที่ไม่มีอะไรใส่มาให้ซับซ้อน ผู้เล่นแค่บังคับตัวละครหลักทั้ง 2 ตัวละลุยไปในฉากที่เดินจากซ้ายไปขวาแล้วกำจัดศัตรูให้หมดถึงจะผ่านทางไปได้ก็แค่นั้น ความโดดเด่นของเกมคือธีมซามูไร ที่ตัวละครจะใช้อาวุธโจมตีเช่นดาบ และยังมาพร้อมกับแอ็กชันที่หลากหลาย ทั้งการใช้การเตะหรือวิ่งพุ่งตัวโจมตี ที่ทุกท่าสามารถประสานมาเป็นคอมโบได้อย่างง่ายดาย และยังมีระบบอัปเกรดตัวละครมาให้ที่ช่วยให้เราอยู่กับเกมได้ยาวนานขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการใช้ดาบป้องกันการโจมตีศัตรูได้ และมันจำเป็นมากเพราะศัตรูหรือบอสบางตัวมีการโจมตีที่รุนแรง ผู้เล่นต้องตั้งท่าป้องกันและหาจังหวะสวนกลับตลอด ตรงจุดนี้อาจจะทำให้มันแตกต่างจากเกมแนวต่อยตีในอดีตอยู่บ้างเพราะมีความซับซ้อนมากกว่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับท่าไม้ตายพิเศษที่ต้องสะสมค่าพลังเพื่อโจมตีด้วยความรุนแรงเป็นคอมโบ และยังมีการใช้ระเบิดมือร่วมกับการโจมตีด้วยแต่บอกตรง ๆ ว่าบางท่าดูธรรมดาและไม่ค่อยมีประโยชน์ในบางจุดที่ศัตรูรุมเรา
เลือกดำเนินเรื่องได้แม้จะเป็นเส้นตรง
อย่างที่บอกไปว่าฉากจะเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรให้ทำมากไปกว่าต่อสู้กับศัตรูแต่ก็พอจะมีความลับซ่อนอยู่เล็กน้อยเช่น ไอเทมที่ซ่อนอยู่ในสิ่งของเช่นกล่องหรือตู้โทรศัพท์ ที่มีทั้งเงินรวมทั้งของกินที่ช่วยเติมพลังชีวิตได้ และยังมีน้ำชาไว้เพิ่มค่าพลังท่าไม้ตายด้วย
ตรงจุดนี้ก็เหมือนกับเกมแนว Beat ‘Em Up ทั่วไปไม่ได้แตกต่าง แถมออกจะน่าเบื่อหน่อย ๆ ด้วยซ้ำ อีกทั้งรูปแบบการโจมตีของศัตรูที่ผู้สร้างพยายามยัดความหลากหลายเข้าไป บางตัวดูไม่อันตรายแต่หากมาจำนวนมากเราก็อาจตายได้ง่าย ๆ เรียกว่าความสมดุลของเกมยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บางจุดดูทำให้เราหัวร้อนหนัก ๆ แต่บางด่านก็ง่ายดายเกินไป
ยังดีที่เกมมีระบบเลือกการกระทำเมื่อผ่านด่าน เช่นการเลือกจะไว้ชีวิตศัตรูหรือจะฆ่าให้ตายก็ทำได้ตามใจ และมันจะส่งผลกับเนื้อเรื่องในตอนจบด้วย และอย่างที่บอกไปว่ามันมีฉากจบมากมายถึง 8 รูปแบบ แต่ก็ต้องนั่งเล่นหลายรอบซึ่งหากคุณเบื่อกับรูปแบบการเล่นที่ซ้ำไปซ้ำมาก็น่าจะไม่ได้เห็นฉากจบทั้งหมดแน่นอน
Samurai Riot – Definitive Edition อาจจะไม่ใช่เกมแนวต่อยตีที่ดีที่สุด เพราะในตอนนี้มีทางเลือกที่ยอดเยี่ยมกว่าอยู่หลายเกมเช่น นินจาเต่าภาคใหม่ Teenage Mutant Ninja Turtles: Shredder’s Revenge แต่หากคุณชอบแนวทางนี้จริง ๆ ก็พอจะหาความสนุกได้ในระดับน่าพอใจ อย่างน้อยมันก็ทำได้ดีตามมาตรฐานและมีฉากจบหลายรูปแบบให้เราปลดล็อก มีไว้ติดเครื่องก็ไม่เสียดายเงินเพราะราคาขายไม่ได้แพงอะไร
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส