สำหรับคนที่กำลังมองหานาฬิกาสมาร์ตวอตช์ซักเรือน ปัจจุบันก็มีหลากหลายค่ายผลิตออกมาให้เลือกซื้อ และ 1 ในนั้นคือ Garmin ที่มี Smartwatch ออกมามากมายหลากหลายรุ่น ซึ่งล่าสุด Garmin VENU ก็เป็นอีก 1 สมาร์ตวอตช์ที่หลายคนน่าจะอยากเป็นเจ้าของกับฟีเจอร์หลายอย่างที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพแบบสุด ๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

รูปลักษณ์ภายนอก

Garmin VENU เป็นนาฬิกาที่ถูกออกแบบมาไม่เหมือนกับนาฬิกาสายสปอร์ตทั่วไป โดยมีดีไซน์ที่เรียบหรู ดูดี มีขอบหน้าปัดที่ทำมาจากสแตนเลส พร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.2 นิ้วที่มีความคมชัดค่อนข้างสูง และสายความกว้าง 20 มม. ใส่ได้ทุกเพศทุกวัย โดยนอกจากหน้าปัดที่สามารถปัดเลื่อนบนล่างได้เหมือนหน้าจอสมาร์ตโฟนแล้ว ยังมีปุ่มด้านข้างอีก 2 ปุ่มสำหรับเป็นปุ่มกดเพื่อตกลง หรือยกเลิกได้ รวมไปถึงกดเพื่อเรียกแอปฯ หลักอย่าง หน้า Workout (ปุ่มบน) หรือการตั้งค่า (ปุ่มล่าง) ก็ได้เช่นกัน

ส่วนด้านหลังจะมีตัววัดชีพจร และช่องเสียบสายชาร์จ ซึ่งตัวสายเป็นแบบ Quick Release สามารถปลดเพื่อเปลี่ยนสายได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก นอกจากนี้ Garmin VENU ยังรองรับดาวเทียม 3 ระบบ GSP, GLONASS, Galileo ทำให้เราวัดค่ากิจกรรม outdoor ได้อย่างแม่นยำแบบสุด ๆ

การใช้งานทั่วไป

สำหรับการใช้งานทั่วไปของ Garmin VENU นั้นถือว่าค่อนข้างง่าย โดยเริ่มต้นด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับมือถือเราผ่านแอปของ Garmin ที่ชื่อ Connect ซึ่งพอเชื่อมต่อแล้วก็จะทำให้สมาร์ตวอตช์ของเราสามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การแสดงการแจ้งเตือนของมือถือ โทรเข้า-รับสาย การฟังเพลงผ่านแอปฯ Spotify, Amazon Music, Deezer และ iHeartRadio ก็สามารถทำได้

และนอกจากนี้เรายังสามารถปรับแต่งสิ่งต่าง ๆ เช่น ความสว่างหน้าจอ การพักหน้าจอ การพลิกข้อมือเพื่อเปิดหน้าจอ เป็นต้น เพื่อการใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้น (ซึ่งเริ่มต้นระบบจะตั้งมาค่อนข้างโอเคอยู่แล้ว เลยแทบไม่ต้องปรับอะไรมากก็ใช้งานได้ทันที)

ฟีเจอร์ที่ช่วยคนที่ชอบลืมดื่มน้ำเป็นประจำก็มีฟีเจอร์ ติดตามการดื่มน้ำ ซึ่งให้คุณคอยกดว่า วันนี้คุณดื่มน้ำไปแล้วเท่าไหร่ ก็เป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งในการทำให้เราไม่ลืมที่จะดื่มน้ำเป็นประจำ และยังมีระบบ Body Battery ตรวจวัดพลังงานในร่างกาย เพื่อดูความพร้อมของร่างกายว่าเพียงพอต่อการออกกำลังกายหรือไม่ และการติดตามการหายใจ ข้อมูลบันทึกการหายใจ ระหว่างวัน หรือ กิจกรรมต่างๆ ก็ทำได้เช่นกัน

ฟีเจอร์ช่วยออกกำลังกาย

อีก 1 จุดเด่นของ Garmin VENU คือเรื่องของฟีเจอร์ที่ช่วยในการออกกำลังกาย ซึ่งถูกออกแบบมาให้รองรับการออกกำลังกายหลายรูปแบบ ตั้งแต่การออกกำลังกายแบบ indoor อย่างการวิ่งบนลู่ ยกน้ำหนัก ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ โยคะ ไปจนถึง outdoor อย่างการวิ่ง ปีนเขา เล่นสกี ตีกอล์ฟ และอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณเลือก

ถ้าคุณเลือกการออกกำลังกายที่ต้องการท่าทางที่ถูกต้อง จะมี Animated Workouts ซึ่งจะแสดงท่าทางสำหรับให้เราเลียนแบบเพื่อการออกกำลังกายที่ถูกต้องได้ โดยบอกทั้งช่วงเวลาในการทำตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้เราออกกำลังกายได้ตรงตามเป้าหมาย

ซึ่งเหมือนมีโค้ชส่วนตัวติดไปด้วยทุกที่ เพราะนอกจากนี้ในแอปฯ Connect ของ Garmin ยังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เล่นมากมาย และ 1 ในนั้นคือโค้ชส่วนตัวที่ช่วยแนะนำการซ้อมของคุณได้ เช่นการซ้อมวิ่งมาราธอนก็เลือกได้ว่าจะต้องซ้อมแบบไหน ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ เป็นต้น

บันทึกข้อมูลสุขภาพตลอด 24/7

สำหรับใครที่ใส่อยู่ตลอดเวลา ตัว Garmin VENU ก็จะคอยบันทึกข้อมูลทุกอย่างของเราลงในแอป Connect ซึ่งเราสามารถเข้าไปเปิดดูได้ว่า แต่ละวันเราได้เดินกี่ก้าว ขึ้นบันไดกี่ชั้น ความเครียดเท่าไหร่ การนอน การดื่มน้ำ การหายใจ หรือแม้แต่ Body Battery ก็สามารถบันทึกไว้ได้

Garmin Pay

อีก 1 ระบบสำหรับคนชอบเปย์ ซึ่งงานนี้ถ้าเราผูกระบบ Garmin Pay เข้ากับบัตรของเรา ก็จะทำให้เราสามารถจ่ายเงินผ่านนาฬิกาได้เลย ง่ายสุด ๆ !!

จุดเด่น

  • ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และเชื่อมต่อมือถือได้ค่อนข้างเสถียร เชื่อมต่อผ่านแอปฯ Connect และสามารถหาแอปฯ หรือหน้าปัดเพิ่มเติมได้ง่าย ๆ ผ่าน Connect IQ
  • แบตเตอรี่ค่อนข้างทน สามารถใช้งานได้ 5 – 7 วัน (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและกิจกรรมที่ทำระหว่างสัปดาห์)
  • ฟีเจอร์ต่าง ๆ เพียบ จัดเต็มให้คุณใช้งานได้แบบคุ้มค่า เหมาะสำหรับคนชอบออกกำลังกายแบบสุด ๆ
  • มีโค้ชส่วนตัวและการแสดงท่าทางออกกำลังกายที่ถูกต้องให้ เพื่อให้เราออกกำลังกายได้อย่างตรงจุด

จุดสังเกต

  • ราคาอาจจะไม่ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม

ราคา

ปิดท้ายด้วยราคาของ Garmin VENU อยู่ที่ราคา 14,500 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามร้านค้าไอทีชั้นนำและร้านค้าออนไลน์ทั่วประเทศ

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส