Huawei ได้จัดอีเวนต์เปิดตัวสมาร์ตวอตช์ระดับเรือธงรุ่นล่าสุด นั่นคือ Watch 5 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้รับการออกแบบชุดเซนเซอร์ใหม่ เรียกว่า X-Tap ที่สามารถอ่านข้อมูลสุขภาพได้อย่างหลากหลาย รวมถึง ค่าความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ หรือ HRV (Heart Rate Variability) ที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นเทรนด์สุขภาพในขณะนี้
เทคนิคนี้เรียกว่า Health Glance ซึ่งจะให้ผู้ใช้กดนิ้วบนเซนเซอร์ X-Tap เป็นระยะเวลา 60 วินาที ก็จะสามารถวัดค่าสุขภาพได้ 9 รายการ ดังนี้
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจโดยเฉลี่ย
- อ่านค่าความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 (Peripheral Capillary Oxygen Saturation)
- อ่านค่าอุณหภูมิบนผิวหนัง
- อ่านค่าความเครียด
- ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ ECG (Electrocardiogram)
- ตรวจวัดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
- แสดงข้อมูลระบบทางเดินหายใจโดยรวม
- อ่านค่าการหายใจขณะหลับ

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญ คือ เซนเซอร์ที่ด้านข้างตัวเรือน ซึ่งผสานการทำงานของเซนเซอร์ 2 ตัว เข้าด้วยกัน ได้แก่
- เซนเซอร์วัดแรงกด สำหรับวัดระดับความเข้มข้นของแรงกดที่ปลายนิ้ด้วยอิเล็กโทรด ECG (Electrocardiogram: การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ)
- เซนเซอร์ PPG (Photoplethysmography) ซึ่งใช้แสงตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณเลือดในหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนัง
Huawei อ้างว่า การวัดการไหวเวียนของเลือดบนปลายนิ้วนั้น สามารถแสดงค่าสัญญาณการเต้นของหัวใจที่ชัดเจนมากกว่า

Huawei Watch 5 มีด้วยกัน 2 เวอร์ชัน ได้แก่
- ตัวเรือนขนาด 46 มม. (หน้าจอ 1.43 นิ้ว) : มี 2 แบบ ได้แก่ ผลิตด้วยวัสดุไทเทเนียมเกรดที่ใช้ในผลิตยานอวกาศ และผลิตด้วยวัสดุสแตนเลส 316L
- ตัวเรือนขนาด 42 มม. (หน้าจอ 1.32 นิ้ว) : ผลิตด้วยวัสดุสแตนเลสเท่านั้น
Huawei กล่าวว่า ได้ใช้เทคนิคการจับคู่สีด้วยกระบวนการออกซิเดชันที่ล้ำหน้า เพื่อให้ได้สีของตัวเรือนที่โดดเด่น รวมถึงป้องกันรอยหน้าจอด้วยกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งทำให้ Watch 5 มีความพรีเมียมเป็นอย่างมาก

Huawei Watch 5 ยังได้รับการออกแบบให้ผู้ใช้สามารถตรวจสุขภาพของตนเองได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างเดิน หรือพักผ่อนอยู่ที่บ้านก็ตาม โดยสามารถแจ้งเตือนความผิดปกติที่อาจต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมจากแพทย์
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นรีโมทกล้องได้ แต่รองรับเฉพาะสมาร์ตโฟน Huawei ที่ทำงานบนซอฟต์แวร์ EMUI เท่านั้น, รองรับ eSIM, รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 100 แบบ ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนระบบ EMUI, Android และ iOS ผ่าน Bluetooth ได้
Huawei จะเริ่มจำหน่าย Watch 5 ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2025 โดยมีราคาดังนี้
ตัวเรือนขนาด 46 มม.
- สี Black : 499.99 ยูโร หรือประมาณ 18,600 บาท
- สี Titanium Brown : 549.99 ยูโร หรือประมาณ 20,500 บาท
- สี Titanium Purple : 549.99 ยูโร หรือประมาณ 20,500 บาท
- สี Titanium Silver : 649.99 ยูโร หรือประมาณ 24,200 บาท




ตัวเรือนขนาด 42 มม.
- สี Green : 449.99 ยูโร หรือประมาณ 16,800 บาท
- สี White : 449.99 ยูโร หรือประมาณ 16,800 บาท
- สี Stainless Beige : 549.99 ยูโร หรือประมาณ 20,500 บาท
- สี Stainless Gold : 649.99 ยูโร หรือประมาณ 24,200 บาท



