คุณรู้ตัวหรือไม่ว่าตอนนี้ฟีดโซเชียลมีเดียของคุณกำลังถูกยึดครองด้วย “วิดีโอ AI” (AI Video Slop)? ถ้าคุณสังเกตดี ๆ จะมีสัญญาณอันดับหนึ่งที่ฟ้องออกมาอย่างชัดเจนว่าคุณกำลังดูของปลอมอยู่… นั่นก็คือคุณภาพของภาพ ใช่แล้ว… มันดูเหมือนถ่ายด้วยกล้องจากยุคดึกดำบรรพ์ หรือพูดง่าย ๆ คือ ภาพแตก ภาพเบลอ ภาพเป็นเม็ด ๆ นั่นแหละ เรื่องมันจบแล้ว คุณอาจจะโดนหลอก และอาจจะโดนไปแล้วด้วยซ้ำ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เทคโนโลยีสร้างวิดีโอด้วย AI มันเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด จนความสัมพันธ์ของเรากับ “กล้องจริง” กำลังจะพังทลายลงในไม่ช้า คุณจะถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเบื่อหน่ายถึงขีดสุด จนต้องตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่ตาเห็น… ยินดีต้อนรับสู่โลกอนาคต
แต่สำหรับตอนนี้… ยังพอมี Red Flags ที่เราสามารถสังเกตได้อยู่ และมีอันหนึ่งที่โดดเด่นออกมาเลย ถ้าคุณเห็นวิดีโอที่คุณภาพของภาพมันแย่สุด ๆ คิดถึงภาพที่เป็นเกรน ภาพเบลอ หรือภาพที่ถ่ายด้วยมือถือรุ่นเก่า ให้ตั้งนาฬิกาเตือนภัยในหัวได้เลยว่าคุณอาจกำลังดูวิดีโอที่สร้างโดย AI
คุณภาพห่วย ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ แต่คือ “เบาะแสชั้นดี”
“นี่คือสิ่งแรก ๆ ที่เราดูกันเลย” Hany Farid ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ผู้บุกเบิกด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล และผู้ก่อตั้งบริษัทตรวจจับ Deepfake อย่าง GetReal Security กล่าวความจริงอันน่าเศร้าก็คือ เครื่องมือสร้างวิดีโอ AI มันจะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ จนคำแนะนำนี้อาจจะใช้ไม่ได้ในไม่ช้า ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือน หรืออาจจะกินเวลาหลายปีก็ได้… บอกยาก แต่ถ้าคุณยอมเจาะลึกไปกับเบาะแสเล็ก ๆ นี้สักหน่อย มันอาจจะช่วยให้คุณรอดพ้นจากวิดีโอ AI ได้ จนกว่าคุณจะเรียนรู้ที่จะ “เปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับความจริง” ไปเลย
ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อน คุณภาพของภาพที่แย่ ไม่ใช่ “หลักฐาน” ว่าวิดีโอนั้นเป็น AI วิดีโอ AI ที่เก่งที่สุดก็สามารถสร้างคลิปที่สวยงามและคมชัดได้ และคลิปคุณภาพต่ำก็ไม่ได้หมายความว่ามันต้องมาจาก AI เสมอไป “ถ้าคุณเห็นอะไรที่คุณภาพต่ำมาก ๆ นั่นไม่ได้แปลว่ามันคือของปลอม และไม่ได้แปลว่ามีเจตนาร้ายเสมอไป” Matthew Stamm ศาสตราจารย์และหัวหน้าห้องปฏิบัติการความปลอดภัยด้านมัลติมีเดียและข้อมูลจาก Drexel University สหรัฐอเมริกา อธิบาย แต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ วิดีโอ AI ที่เบลอและภาพแตกเหล่านั้น มีโอกาสสูงกว่าที่จะหลอกคุณได้สำเร็จ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ มันคือสัญญาณที่บอกว่า “เฮ้ย! ดูให้ดี ๆ นะ”
“โปรแกรมสร้างวิดีโอจากข้อความชั้นนำอย่าง Veo ของ Google และ Sora ของ OpenAI ยังคงสร้างความไม่สอดคล้องเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่” Farid กล่าว “แต่มันไม่ได้ชัดเจนขนาดเป็นหกนิ้วมือหรือตัวหนังสือที่บิดเบี้ยวแล้ว แต่มันจะละเอียดอ่อนกว่านั้นมาก”
ความไม่สมจริง
แม้แต่โมเดล AI ที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน ก็ยังคงมีปัญหาเล็ก ๆ ที่สังเกตได้ยาก เช่น:
- พื้นผิวผิวหนังที่ดูเนียนแปลก ๆ จนเกินจริง (Uncanny Smooth Skin)
- รูปแบบของเส้นผมหรือเสื้อผ้าที่บิดเบี้ยว หรือเปลี่ยนแปลงไปมาอย่างไม่มีเหตุผล
- วัตถุเล็ก ๆ ในพื้นหลังที่เคลื่อนไหวในลักษณะที่เป็นไปไม่ได้ หรือดูไม่สมจริง
- ข้อผิดพลาดเหล่านี้มองข้ามได้ง่ายมาก แต่ยิ่งภาพชัดเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสเห็นข้อผิดพลาดที่ AI ทิ้งไว้ได้มากเท่านั้น นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้วิดีโอคุณภาพต่ำมัน “ยั่วยวน” ให้คนเชื่อ
- เมื่อคุณสั่งให้ AI สร้างวิดีโอที่ดูเหมือนถ่ายจากกล้องโทรศัพท์เก่า ๆ หรือกล้องวงจรปิด มันจะสามารถซ่อน “ร่องรอยความผิดพลาด” (Artifacts) ที่เป็นจุดสังเกตของ AI ได้อย่างแนบเนียน
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราเห็นวิดีโอ AI ที่ดังเปรี้ยงปร้างจนหลอกคนได้มหาศาล ซึ่งทุกวิดีโอมีสิ่งที่เหมือนกันคือ คุณภาพห่วยแตก
กระต่ายแทมโพลีน (Bunnies on Trampoline) วิดีโอปลอมสุดน่ารักของกระต่ายป่าที่กระโดดบนแทมโพลีน ได้ยอดวิวไปกว่า 240 ล้านครั้ง ทั่วโลก วิดีโอนี้ถูกนำเสนอในรูปแบบ “ฟุตเทจจากกล้องวงจรปิดราคาถูกที่ถ่ายตอนกลางคืน”
คู่รักซับเวย์ (Subway Couple): คลิปคู่รักในนิวยอร์กที่ตกหลุมรักกันในรถไฟใต้ดิน ก็มีคนกดไลก์ไปหลายล้านคน ก่อนจะพบความผิดหวังเมื่อรู้ว่ามันเป็นของปลอม ภาพวิดีโอนี้ก็ภาพแตก (Pixelated) เช่นกัน
ในบริบทไทย เราก็เห็น Deepfake และ AI Video Slop ที่ใช้เทคนิคนี้บ่อยมากในการ “สร้างข่าวปลอม” หรือ “สวมรอย” เพื่อปั่นกระแสการเมือง หรือหลอกให้โอนเงิน พวกเขาจงใจลดคุณภาพของภาพลงเพื่อทำให้ข้อบกพร่องของ AI เช่น การเคลื่อนไหวของริมฝีปากที่เพี้ยน (Lip Sync Error) หรือ รอยย่นบนใบหน้าที่ดูเนียนประหลาด ถูกซ่อนไว้ไม่ให้คนไทยจับได้
3 สิ่งที่ต้องจับตา ความยาว, ความคมชัด, การบีบอัด
Farid ชี้ให้เห็นว่ามี 3 ปัจจัยหลักที่คุณควรจับตามองเพื่อแยกแยะวิดีโอ AI ปลอม
1. ความยาว (Length) – สั้นโคตร ๆ
นี่คือสิ่งที่จับได้ง่ายที่สุด “ส่วนใหญ่วิดีโอ AI จะ สั้นมาก สั้นกว่าวิดีโอทั่วไปที่เราเห็นบน TikTok หรือ IG ที่มีความยาว 30-60 วินาทีเสียอีก วิดีโอส่วนใหญ่ที่ผมถูกขอให้ตรวจสอบมีความยาวแค่ 6, 8 หรือ 10 วินาที เท่านั้น” ทำไมถึงสั้น? เพราะการสร้างวิดีโอ AI มัน มีค่าใช้จ่ายสูงมาก! และยิ่งวิดีโอยาวเท่าไหร่ AI ก็ยิ่งมีโอกาส “ผิดพลาด” มากขึ้นเท่านั้น คุณอาจจะเห็นการนำวิดีโอ AI หลายคลิปมา “เย็บต่อกัน” แต่คุณจะสังเกตเห็นรอยต่อได้ทุก ๆ ประมาณ 8 วินาที
2. ความคมชัด (Resolution)
ความคมชัดหมายถึง จำนวนหรือขนาดของพิกเซล ในภาพ ยิ่งพิกเซลเยอะ ภาพก็ยิ่งชัด หากวิดีโอมีความคมชัดต่ำ (Low Resolution) อัลกอริทึมก็มีที่ซ่อนข้อผิดพลาดได้มากขึ้น
3. คุณภาพ/การบีบอัด (Quality/Compression)
คุณภาพภาพมีความเกี่ยวข้องแต่แตกต่างจากการบีบอัด (Compression) คือ กระบวนการลดขนาดไฟล์วิดีโอ ด้วยการทิ้งรายละเอียดบางอย่างออกไป ซึ่งมักจะทิ้งร่องรอยไว้เป็น แพทเทิร์นบล็อกสี่เหลี่ยม (Blocky patterns) และ ขอบที่เบลอ Farid ชี้ชัดว่าจงใจลดคุณภาพงานของตัวเองลง เพื่อให้หลอกคนได้สำเร็จ “ถ้าผมต้องการหลอกคน ผมจะทำยังไง? ผมจะสร้างวิดีโอปลอมขึ้นมา จากนั้นผมจะ ลดความคมชัด เพื่อให้คุณยังเห็นภาพ แต่ไม่สามารถสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ และผมก็จะ เพิ่มการบีบอัด เข้าไปอีก เพื่อบดบังร่องรอยที่เป็นไปได้ทั้งหมด” นี่คือเทคนิคที่ใช้กันทั่วไป