สงครามราคาและการแข่งขันเรื่องตัวเลขความเร็วกลายเป็นเรื่องปกติของวงการโทรคมนาคม แต่ ทรู คอร์ปอเรชั่น เลือกที่จะเดินเกมใหม่ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ด้วยการประกาศแคมเปญ “UP สัญญาณ UP ความสุข” ซึ่งไม่ใช่แค่การอัปเกรดเสาสัญญาณ แต่คือการยกระดับ “ประสบการณ์” ของผู้ใช้งานผ่านแนวคิด Human-Centricity หรือการยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง โดยดึงสองไอคอนคนรุ่นใหม่ “เก่ง-หฤษฎ์” และ “น้ำปิง-นภัสกร” มาเป็นตัวเชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับหัวใจของผู้คน
สิ่งที่น่าสนใจในความเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือปรัชญาเบื้องหลังที่คุณโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสารของทรู ได้กล่าวไว้ว่า “เทคโนโลยีที่ดีที่สุดต้องมาพร้อมความเข้าใจมนุษย์ที่สุด”

ทรูไม่ได้มองว่า 5G เป็นเพียงท่อส่งข้อมูล แต่เปรียบเสมือน “เส้นเลือดใหญ่” ที่หล่อเลี้ยงความรู้สึกและไลฟ์สไตล์ของผู้คน การดึง “เก่ง-น้ำปิง” เข้าสู่ครอบครัวทรู จึงไม่ใช่แค่กลยุทธ์พรีเซนเตอร์ทั่วไป แต่เป็นการสะท้อน Passion ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทันทีคือปรากฏการณ์ “สยามแตก” และการดันแฮชแท็ก #KengNampingBESTwithTRUE5G ขึ้นสู่อันดับ 1 ในไทยและเวียดนาม รวมถึงอันดับ 4 ของโลก สะท้อนให้เห็นว่าสัญญาณของทรูสามารถเชื่อมต่อความรักของแฟนคลับได้อย่างทรงพลังเพียงใด
เบื้องหลังความแรงที่ขับเคลื่อนด้วย Data
ภายใต้รอยยิ้มของพรีเซนเตอร์ คือความดุดันในเชิงวิศวกรรม ทรูได้ทุ่มเททรัพยากรบุคคลกว่า 3,650 ชีวิต ทำงานรวมกันกว่า 17 ล้านชั่วโมง เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่ใหญ่ที่สุดและมีเสามากที่สุดในอาเซียน นี่คือการปฏิวัติโครงข่าย (Infrastructure Revolution) ที่จับต้องได้ด้วยตัวเลขทางเทคนิคที่น่าสนใจ:
- คลื่นความถี่: ครอบคลุม 8 ย่านความถี่ ซึ่งถือว่าครบและมากที่สุดในไทย
- ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น:
- ลูกค้า dtac: สัมผัสความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุด ด้วยความเร็ว 5G ที่เพิ่มขึ้นถึง 4.39 เท่า และพื้นที่ครอบคลุมเพิ่มขึ้น 100% ทั่วไทย
- ลูกค้า True: ได้รับความเร็วเพิ่มขึ้น 1.09 เท่า ตอกย้ำความแข็งแกร่งเดิมที่มีอยู่แล้ว
- Experience Upgrade: ประสบการณ์การใช้งานจริงดีขึ้น ทั้งการดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น 23% และการอัปโหลดที่ไวขึ้น 26%
ในยุคดิจิทัล ความเร็วต้องมาคู่กับความปลอดภัย ทรูยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ให้เป็น “สิทธิพื้นฐาน” ผ่าน True Cybersafe ที่ทำงานเป็นเกราะป้องกันภัยเงียบให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 3,600 ล้านครั้ง นี่คือมาตรฐานใหม่ที่ผู้บริโภคควรได้รับโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ในมุมมองของผู้ใช้งาน “เก่ง-หฤษฎ์” มองว่าความเสถียรและรวดเร็วคือหัวใจสำคัญของการทำงานยุคใหม่ที่ต้องเดินทางตลอดเวลา ในขณะที่ “น้ำปิง-นภัสกร” ซึ่งเติบโตมากับทรูตั้งแต่เด็ก มองเห็นทรูในฐานะ “เพื่อน” ที่ช่วยเชื่อมต่อเขากับครอบครัวและแฟนคลับได้แบบไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยที่ผสมผสานความเชื่อเข้ากับดิจิทัล ทรูยังได้เปิดตัวแคมเปญ “เบอร์พลังดาว” โดย อ.สมเจตน์ เพื่อเสริมความมงคลในด้านต่างๆ พร้อมโปรโมชันแรงส่งท้ายปีสำหรับสมาร์ตโฟนและแพ็กเกจรายเดือน ทั้งส่วนลดเครื่องและเน็ตแถมฟรี เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานเข้าสู่ระบบนิเวศ 5G ที่สมบูรณ์แบบนี้
การขยับตัวครั้งนี้ของทรู จึงเป็นการประกาศชัดเจนว่า สงครามโทรคมนาคมยุคต่อไป จะไม่ได้วัดกันที่ใครมีท่อส่งเน็ตใหญ่กว่ากัน แต่วัดกันที่ใครสามารถเปลี่ยนเทคโนโลยีให้กลายเป็น “ความสุข” ที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวันของผู้คนได้มากกว่ากัน