OM System เปิดตัวกล้องมิเรอร์เลส Micro Four Thirds รุ่นเรือธง ‘OM-1 II’ ที่เป็นการปรับปรุง OM-1 ตัวเดิมให้น่าใช้งานมากขึ้น เปลี่ยนโลโก้ใหม่สลัดจากคราบ Olympus เดิม ที่แม้ยังคงใช้เซนเซอร์กับชิปตัวเดียวกับรุ่นก่อน หน้าตาบอดีคล้ายเดิม แต่ก็หลายสิ่งอัปเกรดเพิ่มเข้ามาครับ
เซนเซอร์เดิม แต่ Buffer เยอะขึ้น
สำหรับหัวใจหลักของ OM-1 II ยังใช้เป็นเซนเซอร์ความเร็วสูง M4/3 Stacked CMOS 20 ล้านพิกเซล รวมถึงสามารถถ่าย Full AF-AE ได้ที่ 50fps และแบบ AF/AE locked 120fps เช่นเดิมครับ แต่มีการอัปเกรด Buffer จุได้มากขึ้น จากเดิม RAW 120fps ทำได้ที่ 90 ภาพ ก็ขยับขึ้นมาถึง 200 ภาพ เยอะขึ้นมากเลยทีเดียว
อัปเกรดระบบ AF
ระบบโฟกัส ยังเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ให้สามารถถ่ายวัตถุความเร็วสูงได้ดีกว่าเดิมด้วยระบบ AI รวมไปถึงโหมดถ่ายภาพบุคคล Human Detection เพิ่มเข้ามาเพิ่มเติมจาก Face Detection แบบเดิมอีกด้วย
ตีบวกกันสั่น 5 แกน
เรื่องกันสั่นของฝั่ง M4/3 เป็นที่ยอบรับว่าทำได้ดีขั้นเทพอยู่แล้ว แต่ OM-1 II ทำได้ดีขึ้นไปอีกครับ โดยทางค่ายเคลมว่าสามารถชดเชยชัตเตอร์สปีดได้สูงสุดถึง 8.5 สต็อป!
Blackout-free ที่ใช้งานได้ครอบคลุม
ในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง หลายคนน่าจะเคยเจออาการเฟรมภาพมืดขณะลั่นชัตเตอร์เป็นจังหวะซึ่งเป็นปกติของกล้องทั่ว ๆ ไป แต่ในกล้องที่ใช้เซนเซอร์ Stacked CMOS ที่รับส่งข้อมูลได้ไวกว่าจะช่วยให้การถ่ายภาพไม่มีเฟรมมืดมากวนใจครับ ทำงานได้ง่ายขึ้น
แต่ใน OM-1 ตัวก่อน แม้ใน fps สูง ๆ จะไม่มีปัญหานี้ แต่ถ้าถ่ายด้วย fps ต่ำก็ยังมีอาการ Blackout ให้เห็นกัน ในรุ่น Mark II จึงออกมาแก้ไขให้ใช้งานได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะที่ 12.5fps หรือ 16 ก็ตาม
โหมดใหม่ Graduated Neutral Density filter
คนที่ใช้กล้อง Olympus หรือ OM System น่าจะคุ้นเคยกับโหมด Live ND ภายในตัวกล้องโดยที่ไม่ต้องติดฟิลเตอร์ ND ลดแสงจริง ๆ ที่หน้าเลนส์กันอยู่แล้ว แต่ OM-1 II มาเหนือกว่านั้นครับ มี Graduated ND ใส่มาให้ด้วย แบ่งซีกได้อิสระสาย Landscape น่าจะต้องถูกใจ
แถมยังไม่พอ Live ND ปกติยังเพิ่มการตัดแสงขึ้นอีก จากเดิมสูงสุด N64 ตอนนี้ทำได้ที่ N128 เรียบร้อยแล้วครับ
โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 14-bit multi-shot Raw
OM-1 II เพิ่มตัวเลือกถ่ายภาพความละเอียดสูง 14-bit ถึง 80 ล้านพิกเซล (เมื่อใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง) และ 50 ล้านพิกเซล แบบ hand-held เก็บ Dynamic Range, สีสัน และดีเทลได้คมชัดกว่าเดิม สำหรับงานที่เน้นความประณีตสูง ๆ ก็ใช้งานได้อย่างหายห่วง
บอดี้ปรับปรุงใหม่ เสริม Rubbery coating
ตามคำเรียกร้องของแฟน ๆ ที่เคยติว่าใช้งานกล้องขณะใส่ถุงมือยากไป รอบนี้ OM-1 II เสริมยางแบบ Rubbery coating มาให้ที่ตัวไดอัลต่าง ๆ บนตัวกล้อง ทำให้ใช้งานได้ถนัดมากขึ้นโดยเฉพาะในเมืองหนาว
สเปกพื้นฐาน OM System OM-1 II
- เซนเซอร์ Micro Four Thirds 20.4 ล้านพิกเซล Stacked CMOS
- ชิปประมวลผล TruePic X Dual Quad Core Processor
- กันสั่น 5 แกน ชดเชยสปีดชัตเตอร์ได้ถึง 8.5 สต็อป
- ISO 80-25600 (ขยายสูงสุด 102400)
- ระบบโฟกัส Cross-type phase detection AF 1,053 จุด
- AI detection AF – Formula cars, rally cars, motorcycles / Aircrafts, helicopters / Bullet trains, standard trains, steamlocomotives / Birds / Dogs, cats และล่าสุด Human Detection
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 10fps (mechanical shutter), 120fps (electronic shutter)
- สปีดชัตเตอร์สูงสุด 1/8000 (mechanical shutter), 1/32000 (electronic shutter)
- 4K60p 10-bit 4:2:2, Full HD 240p
- โพรไฟล์สี HLG, OM-log
- ช่องมองภาพ EVF ความละเอียดสูง 5.76 ล้านจุด กำลังขยาย 1.65x (0.82x ฟูลเฟรม)
- จอ LCD 3 นิ้ว 1.62 ล้านจุด
- Live-ND 7 สต็อป, Live Composite, Focus Stacking, HDR, Starry Sky AF
- โหมดใหม่ Live Graduated ND
- วัสดุทำจาก magnesium alloy แข็งแรงทนทาน
- ซีลกันละอองน้ำกันละอองฝุ่น IP53
- SD Card 2 ช่อง รองรับ UHS-II
- พอร์ตไมค์, หูฟัง, Micro HDMI, USB-C
- Wi-Fi (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 4.2
- แบตเตอรี่ BLX-1 ถ่ายได้ 520 ภาพ
- ขนาด 135mm x 92mm x 73mm
- น้ำหนัก 599 กรัม
- เมาท์ Micro Four Thirds
ราคา
OM System OM-1 II เฉพาะบอดี 2,400 เหรียญ (85,000 บาท) พร้อมกันยังมีการเปิดตัวเลนส์ใหม่เทเลโฟโต 150-600mm F5.0-6.3 อีกด้วย
ที่มา – DPReview
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส