เวลานอนไม่หลับเรามักจะมีวิธีประจำตัวที่จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดื่มนมอุ่น ๆ อ่านหนังสือให้ตาล้า หรือฟังพอดแคสต์ แต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางทีก็ได้ผลดี แต่บางทีก็ไม่ได้ผล แต่จะดึกว่าไหมถ้ามีเทคโนโลยีการนอน หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Sleep Tech ที่ทำให้คุณภาพการนอนดีขึ้น ตั้งแต่ การเข้าใจพฤติกรรมการนอน ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ปรับสภาพแวดล้อมการนอน บทความนี้เราจะมาแบไต๋ให้รู้ว่ามีเทคโนโลยีอะไรล้ำ ๆ บ้าง

อุปกรณ์ติดตามการนอน (Sleep Trackers) 


การติดตามการนอนและวัดผลเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้สุขภาพการนอนหลับดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีอุปกรณ์สวมใส่ให้เราเลือกใช้มากมาย เช่น

  • Smart Watch สมาร์ตวอตช์รุ่นต่าง ๆ ที่หลายคนชอบใส่เวลาไปออกกำลังกาย มีฟีเจอร์ที่ใช้ติดตามการนอนได้ด้วย หลักการคือจะใช้เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ร่วมกับเซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหว (Accelerometer & Gyroscpe) รวมถึงในบางรุ่นก็ใช้ SpO2 มาวัดระดับออกซิเจนในเลือดเพื่อวิเคราะห์ระยะการนอนหลับ เช่น หลับตื้น (Light sleep) หลับลึก (Deep sleep) หรือช่วงหลับฝัน (REM) แล้วให้คะแนนการนอนหลับ พร้อมคำแนะนำ 
  • Headbands/ EEG Trackers อุปกรณ์สวมศีรษะเพื่อวัดคลื่นไฟฟ้าในสมอง EEG (Electroencephalography) สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระยะการนอนหลับได้แม่นยำ แถมบางรุ่นยังสามารถปรับคลื่นสมองเพื่อให้หลับลึกขึ้นด้วย 
  • Under-mattress Sensors เซนเซอร์ที่ใช้วางไว้ใต้ที่นอน เพื่อจับการเคลื่อนไหวระหว่างหลับ ตั้งแต่ จังหวะการหายใจ ไปจนถึงอัตราการเต้นของหัวใจ บางรุ่นอาจมีระบบ Thermoregulation ที่วัดและปรับอุณหภูมิร่างกาย เพื่อให้เหมาะสมกับการนอน ซึ่งจะทำให้หลับง่ายขึ้นแม้สภาพอากาศจะร้อน

อุปกรณ์ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน (Sleep Environment Optimizer)

สภาพแวดล้อมสำคัญมากต่อการนอนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้หลับลึก หลับสนิท และไม่เหนื่อยเวลาตื่นในตอนเช้า ซึ่งก็จะมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ เช่น

  • Smart Lighting ระบบไฟอัจฉริยะที่ปรับสีและความเข้มของแสงให้เหมาะสมกับการนอนหลับ เช่น ปรับแสงสีส้มอุ่น ๆ ก่อนนอนเพื่อให้เหมือนช่วงพระอาทิยต์ตกดินและปรับแสงสว่างขึ้นเมื่อถึงเวลาตื่น 
  • White Noise Machines การใช้เสียงผ่อนคลาย ที่จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น หลักการทำงานของ White Noise หรือ เสียงขาว ที่สร้างเสียงที่มีคลื่นความถี่ทั้งหมดที่หูของมนุษย์ได้ยินมารวมกันในระดับความดังที่เท่ากัน เสียงที่ได้ยินจะมีความราบเรียบและสม่ำเสมอ คล้ายกับเสียงของทีวีที่ไม่มีสัญญาณ (ซ่า ๆ) เสียงพัดลม หรือเสียงเครื่องปรับอากาศ ที่ได้ยินไปซักพักแล้วจะรู้สึกง่วง
  • Smart Pillows หมอนอัจฉริยะ อุปกรณ์นี้มีคุณสมบัติหลากหลาย เช่น การปรับความสูงหรือรูปทรงอัตโนมัติเพื่อรองรับศีรษะ, มีลำโพงในตัวสำหรับเล่นเสียงบำบัด, เซนเซอร์ตรวจจับเสียงกรนและสั่นเตือนเบา ๆ ดันให้เปลี่ยนท่านอน หรือแม้กระทั่งระบบควบคุมอุณหภูมิ

แอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ (Apps & Software) 

ส่วนใหญ่แอปฯ จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Gadget) ต่าง ๆ เช่น Smart Watch หรือบางกรณีอาจจะใช้แอปพลิเคชันอย่างเดียว (Standalone) ที่ช่วยให้การหลับดีขึ้น ซึ่งมีหลายประเภท

  • แอปพลิเคชันติดตามและวิเคราะห์การนอน ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับ Smart Watch หรือ Smart Ring เพื่อแสดงข้อมูลการนอนแบบละเอียด รวมถึงกราฟและคะแนนการนอน เพื่อให้ผู้ใช้นำไปปรับพฤติกรรมการนอน
  • Sleep Aid Apps แอปพลิเคชันช่วยในการนอน เช่น Calm, Headspace, Sleep Cycle มีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น แนะนำการทำสมาธิ (Guided Meditations), เรื่องเล่ากล่อมนอน (Sleep Stories), เสียงธรรมชาติ (Soundscapes) และโปรแกรมฝึกหายใจเพื่อผ่อนคลาย
  • AI Sleep Coaches แอปพลิเคชันที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการนอนของผู้ใช้ และให้คำแนะนำส่วนบุคคลเหมือนโคชส่วนตัว เพื่อปรับปรุงพฤติกรรมการนอน

นอนไม่หลับ หลับยาก หรือหลับไม่สนิท ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตและสุขภาพคุณได้มากกว่าที่คิด เพราะการนอนที่มีคุณภาพคือกุญแจสู่การฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้การนอนของคุณดีขึ้น ใครที่กำลังมีปัญหาการนอนอยู่ ต้องลองแล้ว