เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPhone 17 Series ไลน์อัปสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Apple ที่เปิดตัวในไลฟ์ Awe Dropping ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงน่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะการเปิดตัวรุ่น “Air” ที่เน้นความบางเบาเป็นพิเศษ บทความนี้ BT จะพาไปเจาะลึกสเปกและฟีเจอร์เด่นของแต่ละรุ่นกัน
iPhone 17

ดีไซน์และจอภาพ:
- ตัวเครื่องอะลูมิเนียม
- หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.3 นิ้ว ที่มาพร้อม ProMotion (อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz) และ Always-On display
- ยังคงมี Dynamic Island และปุ่ม Action Button ที่ปรับแต่งได้
ชิปประมวลผล:
- ใช้ชิป A19 (CPU 6-core, GPU 5-core) พร้อม Neural Engine 16-core รองรับ Hardware-accelerated ray tracing
กล้อง:
- กล้องหลังคู่ 48MP Dual Fusion Camera System (เลนส์ Fusion และ Ultra Wide)
- ถ่ายวิดีโอ Dolby Vision สูงสุดที่ 4K 60 fps
- กล้องหน้า 18MP Center Stage ถ่ายภาพและวิดีโอคอลได้คมชัดและมีลูกเล่นมากขึ้น
แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ:
- ใช้งานวิดีโอได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง
- พอร์ต USB-C รองรับความเร็วมาตรฐาน USB 2
ความจุและราคา:
- 256GB ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท
- 512GB ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท
iPhone Air

ดีไซน์และจอภาพ:
- โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นด้วยกรอบไทเทเนียมเพียงรุ่นเดียวในซีรีส์ ที่บางเพียง 5.64 มม. และเบา 165 กรัม
- หน้าจอ Super Retina XDR ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว พร้อม ProMotion และ Always-On display
- มี Dynamic Island และ Action Button เช่นกัน
ชิปประมวลผล:
- ขยับมาใช้ชิป A19 Pro แต่เป็นเวอร์ชัน GPU 5-core (CPU 6-core, GPU 5-core) พร้อม Neural Engine 16-core รองรับ Hardware-accelerated ray tracing
กล้อง:
- กล้องหลังเดี่ยว 48MP Fusion Camera System
- ถ่ายวิดีโอ Dolby Vision สูงสุดที่ 4K 60 fps
- กล้องหน้า 18MP Center Stage
แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ:
- ใช้งานวิดีโอได้นานสูงสุด 27 ชั่วโมง
- พอร์ต USB-C ความเร็ว USB 2
ความจุและราคา:
- 256GB: ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท
- 512GB: ราคาเริ่มต้น 47,900 บาท
- 1TB: ราคาเริ่มต้น 55,900 บาท
iPhone 17 Pro

ดีไซน์และจอภาพ:
- ตัวเครื่องอะลูมิเนียม
- หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.3 นิ้ว พร้อม ProMotion และ Always-On display
ชิปประมวลผล:
- ชิป A19 Pro (CPU 6-core, GPU 6-core) พร้อม Neural Engine 16-core รองรับ Hardware-accelerated ray tracing
กล้อง:
- ระบบกล้องหลัง 48MP Pro Fusion Camera System ครบชุด 3 เลนส์ (Fusion, Ultra Wide, Telephoto)
- ถ่ายวิดีโอ Dolby Vision ที่ 4K ได้สูงสุดถึง 120 fps
- รองรับการถ่ายวิดีโอระดับโปร ProRes สูงสุด 4K 120 fps
- มี LiDAR Scanner สำหรับการใช้งาน AR และการถ่ายภาพในที่แสงน้อย
- กล้องหน้า 18MP Center Stage และรองรับ ProRes
แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ:
- ใช้งานวิดีโอได้นานสูงสุด 31 ชั่วโมง
- พอร์ต USB-C อัปเกรดเป็น USB 3 ถ่ายโอนข้อมูลเร็วกว่าสูงสุด 20 เท่า (สูงสุด 10Gb/s)
ความจุและราคา:
- 256GB: ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท
- 512GB: ราคาเริ่มต้น 51,900 บาท
- 1TB: ราคาเริ่มต้น 59,900 บาท
iPhone 17 Pro Max

ดีไซน์และจอภาพ:
- ตัวเครื่องอะลูมิเนียม
- หน้าจอ Super Retina XDR ขนาดใหญ่พิเศษ 6.9 นิ้ว ให้ประสบการณ์การรับชมที่เต็มตาที่สุด
ชิปประมวลผล:
- ชิป A19 Pro ตัวท็อป (CPU 6-core, GPU 6-core) พร้อม Neural Engine 16-core รองรับ Hardware-accelerated ray tracing
กล้อง:
- สเปกกล้องระดับโปรเหมือนกับ iPhone 17 Pro ทุกประการ ด้วยชุดเลนส์ 48MP Pro Fusion Camera System และ LiDAR Scanner
- รองรับการถ่ายวิดีโอ Dolby Vision 4K 120 fps และ ProRes 4K 120 fps
แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ:
- แบตเตอรี่ที่อึดที่สุดในซีรีส์ ใช้งานวิดีโอได้ยาวนานสูงสุดถึง 37 ชั่วโมง
- พอร์ต USB-C อัปเกรดเป็น USB 3 ถ่ายโอนข้อมูลเร็วกว่าสูงสุด 20 เท่า (สูงสุด 10Gb/s)
ความจุและราคา:
- 256GB: ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท
- 512GB: ราคาเริ่มต้น 56,900 บาท
- 1TB: ราคาเริ่มต้น 64,900 บาท
- 2TB (มีเฉพาะในรุ่น Pro Max): ราคาเริ่มต้น 80,900 บาท
ฟีเจอร์ร่วมที่มีใน iPhone 17 ทุกรุ่น
- Apple Intelligence: ระบบ AI ส่วนบุคคลที่ทำงานผสานในทุกส่วนของ OS
- Ceramic Shield 2: กระจกด้านหน้าที่แข็งแกร่งขึ้น ทนรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า
- Ceramic Shield: สำหรับด้านหลังสำหรับ iPhone 17 Air, Pro และ Pro Max แต่จะมีเพียง iPhone 17 เพียงรุ่นเดียวที่ไม่มี Ceramic Shield
- การเชื่อมต่อ: รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ 5G
- กันน้ำกันฝุ่น: IP68 ทนน้ำลึกระดับความลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที
- ความปลอดภัย: Face ID, Emergency SOS ผ่านดาวเทียม และ Crash Detection
ชาว BT ว่ายังไงกับ iPhone 17 Series ที่เปิดตัวมา คุ้มไม่คุ้ม เคาะไม่เคาะ ก็ไปจัดได้ตามชอบเลย