เมื่อ 4-5 ปีก่อนเพื่อนรุ่นน้องชื่อ “หนึ่ง” แนะนำให้รู้จักเพื่อนชาวอิสราเอล เป็นเจ้าของบริษัทขายอุปกรณ์ไฮเทคทางการทหารและการรักษาความปลอดภัย ตัวเค้าเองทำงานด้านรักษาความปลอดภัยมาเป็นสิบๆ ปีมีความเข้าใจและเชี่ยวชาญเรื่องนี้ไม่แพ้ใคร (ก็อย่างที่รู้อิสราเอลมีศัตรูเยอะ) มาเมืองไทยหลายครั้งเพื่อเสนอขายเทคโนโลยีชั้นสูงนี้กับหน่วยราชการและกองทัพแต่ไม่เคยสำเร็จ เขามาคุยกับผมเผื่อว่าจะมีช่องทางนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เทคโนโลยีนี้เกี่ยวข้องกับการลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่อยู่ในอาคารในกรณีที่ระเบิดอยู่นอกอาคาร เช่น car bomb หรือพัสดุใส่ระเบิดมาวางทิ้งไว้ใกล้อาคาร ปัจจุบันการนำระเบิดขนาดใหญ่เข้ามาในอาคารเป็นเรื่องยากเพราะ security ยุ่บยั่บไปหมด และโปรแกรมการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลแบบ real time จากกล้อง CCTV (อันเนี่ยน่าทึ่ง) ซึ่งถ้าใครได้ดูหนัง Fast and furious 7 ในหนังมีฉากในห้อง control room บนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่มีรูปกราฟฟิกเป็นรูปร่างคนกำลังเดินและฝ่ายรักษาความปลอดภัยใช้เป็นข้อมูลในการดูเอกลักษณ์บุคคลเพื่อที่จะพิสูจน์และจับผู้บุกรุก ถ้าจำไม่ได้ก็เอาหนังแผ่นมาดูซ้ำแล้วจะเข้าใจ แต่ผมบอกก่อนว่า “ของจริง” เจ๋งกว่าในหนังอีก!!!
ผมฟังบรรยายสรุปและดูวิดิโอนำเสนอแล้ว “ปิ๊ง” ทันที การท่าอากาศยานโดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิและสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำเป็นต้องใช้อย่างที่สุด!!!!!!
ระเบิดที่ใช้ก่อวินาศกรรมภายนอกตัวอาคารโดยไม่ได้มุ่งหวังทำลายตัวอาคาร อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างบางส่วนที่เปราะบางได้โดยเฉพาะส่วนที่เป็นกระจก แรงระเบิดจะอัดอากาศพุ่งเข้าหาตัวอาคาร ส่วนที่แข็งแรงเช่นคอนกรีตหรือเหล็กจะทนรับแรงได้ แต่ส่วนที่เป็นกระจกจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพุ่งเข้าไปในอาคารเหมือนสะเก็ดระเบิดสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพสินที่อยู่ภายในได้
เราจะสร้างกระจกให้แข็งแรงไม่แตกเหมือนกระจกกันกระสุนได้ไหม? สร้างได้แต่กระจกจะหนา หนัก และแพง เพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างอาคารในที่ส่วนรับน้ำหนักอื่นๆ เช่นเสา คาน ต้องแข็งแรง ใหญ่และหนักตามไปด้วย ราคาค่าก่อสร้างจะเพิ่มอีกมหาศาล
เทคโนโลยีที่เพื่อนชาวอิสราเอลนำมาแสดงให้ดูใช้หลักคิดง่ายๆ คืออย่าไปสู้แรงระเบิด ดูดซับและยืดหยุ่น เหมือนโครงสร้างตึกสมัยใหม่ที่สร้างป้องกันแผ่นดินไหว ไม่ได้สร้างให้แข็งโป๊กเพื่อสู้แรง แต่สร้างให้ยืดหยุ่นขยับได้เพื่อลดและดูดซับแรงที่มากระทำ หลักการก็เหมือนสนลู่ลมแหละครับ กระจกแตกได้แต่อย่าให้เศษของมันปลิวเข้ามาในตึก ดีดให้มันกระจายออกไปข้างนอกให้หมด (คนอยู่ในตึกจะตายเพราะแรงอัดของระเบิดและเศษกระจก ถ้ามันเข้ามาไม่ได้คนก็ปลอดภัย)
หลักการนี้เมื่อนำมาสร้างส่วนผนัง ประตูหรือหน้าต่างที่เป็นกระจก กรอบหรือ frame ของกระจกจะมีสองชั้น กรอบนอกจะยึดแน่นกับโครงสร้างตัวอาคารเช่นเสาหรือคาน แต่กรอบในที่ยึดกับตัวกระจกจะขยับหรือเคลื่อนที่ได้ ส่วนที่เป็นกระจกจะติดแน่นด้วยแผ่นฟิล์ม เป็นวัสดุพิเศษคล้ายพลาสติกใสสามารถรับแรงได้มากกว่าวัสดุประเภทเดียวกันหลายเท่ารวมถึงมีความยืดหยุ่นสูง
จากวิดิโอซึ่งทดลองในทะเลทรายที่เพื่อนชาวอิสราเอลเปิดให้ดู เมื่อมีระเบิด car bomb นอกอาคารห่างประมาณ 20-30 เมตร แรงระเบิดจะอัดอากาศเห็นเป็นฝุ่นฟุ้งพุ่งเข้าหาตัวอาคาร และเมื่อแรงอัดของระเบิดปะทะเข้ากับกระจกที่สร้างด้วยเทคโนโลยีนี้ กรอบในของกระจกจะขยับตัวเล็กน้อย กระจกจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่ไม่กระจายเพราะยึดติดอยู่กับแผ่นพลาสติกเสริมและมีการยุบตัวเข้าไปในอาคารตามแรงระเบิด การยุบตัวหรืออันที่จริงยืดออกของแผ่นพลาสติกเสริมจะคล้ายการยุบตัวของ Trampoline ตอนนักกีฬาตกลงมากระแทก (อุปกรณ์กีฬาแบบเตียงแผ่นยางที่คนขึ้นไปกระโดดตีลังกา เด้งดึ๋งๆ น่ะ) หลังจากนั้นแผ่นพลาสตินี้จะดีดตัวออกสลัดเอาเศษกระจกให้ออกไปนอกตัวอาคาร เหมือน trampoline ดีดนักกีฬาลอยขึ้นไปในอากาศ!!!!
หลังการทดสอบ ภายในห้องที่อยู่ในอาคารมีเศษกระจกตกอยู่บนพื้นเล็กน้อย แต่ความเสียหายอย่างอื่นไม่มีเลย!!!! Oh my God!!!!!!!!
