หมายเหตุ: ข้อมูลดังต่อไปนี้เป็นรายละเอียดภายในตัวเครื่อง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ของทางต่างประเทศ

หลังจากมีข่าวลือนานร่วม 2 ปี ล่าสุดได้พบว่า Apple ได้ใช้ชิปโมเด็ม 4G LTE ของ Intel ใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แล้วจริงๆ ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับค่ายโทรศัพท์มือถือของทางฝั่งอเมริกา อย่าง T-Mobile และ AT&T ส่วน Verizon และ Sprint ใช้ชิปของ Qualcomm ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตชิปโมเด็มให้กับ Apple ในช่วง 2-3 ปีมานี้

(Kris Tripplaar/Sipa USA/Newscom) IT90_qcom_071416_newscom A logo sign outside of a facility occupied by Qualcomm in San Diego, California on January 30, 2016.

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 ได้มีรายงานว่า Apple ได้ส่งทีมวิศวกรไปยังเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตชิปโมเด็ม 7360 4G LTE ของ Intel โดยทีมวิศวกรทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันพัฒนาและปรับแต่งชิปให้สามารถทำงานบนสมาร์ทโฟนของ Apple ได้

จากรายงานล่าสุดระบุว่า ชิปโมเด็ม Intel ถูกนำมาใช้กับค่ายมือถือ T-Mobile, AT&T และค่ายมือถือส่วนใหญ่ในต่างประเทศ ส่วน Verizon และ Sprint ใช้ชิปของ Qualcomm

ทำไม Apple จึงตัดสินใจเลือกใช้ชิปโมเด็มจาก 2 บริษัท ?

Apple มักจะใช้ผู้ผลิตส่วนประกอบของอุปกรณ์จากหลายแหล่ง และด้วยวิธีการนี้ ทางบริษัทจะสามารถแน่ใจได้ว่ามีส่วนประกอบในการผลิตมากพอ แม้ว่าแหล่งผลิตหนึ่งจะประสบปัญหา ก็ยังมีอีกแหล่งรองรับ และ Apple ยังสามารถเลือกใช้แหล่งผลิตรายเดียวได้ในกรณีที่อีกแหล่งนั้นเพิ่มราคาการผลิตสูงขึ้น

intel-e1426167898205-1940x1091

นับเป็นเรื่องดีที่ชิปโมเด็มของทั้ง 2 ค่ายนี้มีประสิทธิภาพที่ไม่ต่างกันมากนัก

ถ้าหากยังจำกันได้เมื่อปีก่อน Apple ได้ประสบปัญหาความแตกต่างของชิปซีพียู A9 ที่ผลิตโดย Samsung และ TSMC โดยผลปรากฏว่าชิปของ TSMC มีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิปของ Samsung เมื่อทำการทดสอบ Benchmark แล้ว และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย แต่ทาง Apple ได้กล่าวว่า ความแตกต่างของระยะเวลาการใช้แบตเตอรี่นั้นมีเพียง 2% – 3% เท่านั้น ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่ Apple ยอมรับได้

ที่มา : phonearena