ฝ่ายขาย และการตลาด
085-848-2253[email protected]http://m.me/beartai
สมัครงาน/ฝึกงาน ติดต่อได้ที่
[email protected]
Read
| IT News

เจ้าพ่อวงการ AI Geoffrey Hinton ยังออกมาเตือนว่า AI ในตอนนี้มันน่ากลัวและมนุษย์อาจตามไม่ทัน

Tabel of Content

ชายที่ได้สมยานามว่า เจ้าพ่อแห่งวงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่าง เจฟฟรี ฮินตัน (Geoffrey Hinton) ได้ออกมาพูดหลังจากลาออกบริษัท Google ที่เขาได้ทำงานมานับทศวรรษว่า AI ในตอนนี้มันมีความน่ากลัว และมันก็อาจจะเท่าทันมนุษย์ได้ในเวลาอันสั้น

ฮินตันในวัย 75 ปีเป็นคนบุกเบิกงานวิจัยโครงข่ายประสาทเทียม และการเรียนรู้เชิงลึกร่วมกับนักเรียนสองคนในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา อิลยา ซุตสเคเวอร์ (Ilya Sutskever) และ อเล็กซ์ คริสเชฟสกี (Alex Krishevsky)

ทาง Google ได้ทุ่มเงินมากถึง 44 ล้านเหรียญเพื่อเข้าซื้อบริษัท DNNresearch ที่ก่อตั้งโดยฮินตัน และลูกศิษย์ทั้งสองคนในปี 2013 มาเพื่อทำงานวิจัยด้าน AI ใหม่ ๆ ที่นำไปสู่เครื่องมือ Generative AI ชื่อดังก้องโลกอย่าง ChatGPT ของ OpenAI โดยโครงข่ายประสาทเทียมก็เหมือนกับสมองของมนุษย์ที่พวกมันสามารถเรียนรู้ และประมวลผลข้อมูลที่รับเข้ามาได้

ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีจดหมายเปิดผนึกที่มีลายเซ็นลงนามหลายสิบคนที่อยู่ในวงการ AI ที่รวมไปถึงมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีของโลกอย่าง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ร่วมกันเรียกร้องให้หยุดพัฒนา AI ตัวใหม่ที่มีความเหนือกว่า GPT-4 ในตอนนี้ และต้องมีการออกแบบมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด และปฏิบัติตามได้

สามารถเข้าไปอ่านจดหมายเปิดผนึก Pause Giant AI Experiments: An Open Letter ได้ที่ คลิกที่นี่

แม้ว่าฮินตันจะไม่ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวก็อาจจะเป็นเพราะว่า เขายังคงดำรงตำแหน่งอยู่ภายในบริษัท Google และไม่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์ Google จนกว่าจะได้ลาออก

สิ่งที่เขาได้วิพากษ์วิจารณ์หลังจากลาออกจาก Google อย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาคือ เขากังวลเกี่ยวกับเรื่องของข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝน AI ซึ่งในปัจจุบันมีข้อมูลหลากหลายรูปแบบทั้ง รูปถ่าย, วิดีโอ และข้อความ โดยสิ่งเหล่านี้มีทั้งข้อมูลจริง และข้อมูลเท็จ ซึ่งคนทั่วไปอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งใดบ้างที่เป็นของจริง

ต่อมาสิ่งที่กังวลไม่แพ้กันก็คือ AI อาจจะเข้ามาแทนที่อาชีพของมนุษย์ในบางอาชีพ ซึ่งในตอนนี้คนทั่วไปก็คิดว่าพวกเราสามารถใช้ AI มาช่วยเหลือการทำงานให้ง่าย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ในอนาคตข้างหน้าพวกมันก็จะมาแทนที่อาชีพบางอย่างก็เป็นไปได้เช่น นักกฎหมาย นักการตลาด ผู้ช่วยส่วนตัว นักแปลภาษา หรือแม้กระทั้งงานที่มีรูปแบบจำเจ เพราะ AI มันก็คือคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่งที่ทำงานตามตรรกศาสตร์มีเหตุ และมีผลที่สอดคล้องกันไป

ซึ่งในตอนนี้ AI อาจจะฉลาดกว่ามนุษย์แล้วจริง ๆ ก็ได้แต่ก็มีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่เชื่อเหมือนกัน โดยสิ่งที่ฮินตันได้บอกก็คือ มันอาจจะใช้เวลา 30 ถึง 50 ปี หรือมากกว่านั้นที่มันจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่เป็นอยู่แบบปัจจุบัน

ที่มา : NytimesCNN BusinessBBCCBCWired

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

Highlight

Xiaomi 17 Ultra เปิดตัวเป็นทางการ ยัดโหดกล้อง 1 นิ้ว ซูม 200 MP แบตฯ อึด 6,800 mAh พร้อมรุ่น Leica Edition ดีไซน์คลาสสิก

26/12/2025
Read More

Huawei Cloud ครองตำแหน่งผู้นำจากรายงาน Omdia พร้อมขึ้นอันดับ 1 ด้านกลยุทธ์และนวัตกรรม

26/12/2025
Read More

ซื้อดีไหม ? HUAWEI MatePad 12 X 2026 สรุปฟีเจอร์เด่นที่น่าโดนในราคาไม่เกินสองหมื่น 

26/12/2025
Read More

แว่นตา AI เปลี่ยนเสียงรอบตัวเป็น “ซับไตเติล” แบบ Real-time ช่วยผู้บกพร่องทางการได้ยิน

26/12/2025
Read More

ญี่ปุ่นทำถึง ! เปิดตัว เครื่องซักมนุษย์ อาบ-ล้าง-เป่าแห้ง จบใน 15 นาที ค่าตัว 13 ล้านบาท

26/12/2025
Read More

เตือน ! ผู้มีสิทธิ “ถ้าไม่ไปเลือกตั้ง – ไม่แจ้งเหตุ” จะถูกจำกัดสิทธิตามกฎหมาย

26/12/2025
Read More

Related Content