ตั้งแต่ Apple เปิดตัว iPhone 15 Pro ที่ใช้พอร์ต USB-C ก็เหมือนจะมีเรื่องออกมาพอสมควร ประเด็นที่ใหญ่เลยคือ Apple ดันแถมแค่สาย USB-C ความเร็ว USB 2.0 จนทำให้เพื่อน ๆ ชาว Android แซะ Apple กัน แต่จริง ๆ แล้วแม้แต่เรือธง Android พอร์ต USB 3 ก็แถมแค่สาย USB 2 เหมือนกัน

ประเด็นล่าสุดคือมีผู้ใช้งานพบว่าสาย USB-C ที่แถมมากับ iPhone 15 มันดูแปลก ๆ เหมือนฟันหลอ หรือพินไม่ครบ เมื่อเทียบกับสาย USB-C ทั่ว ๆ ไปตามภาพด้านล่างนี้ (รูปซ้าย สาย USB-C แบรนด์อื่น ๆ รูปขวา สาย USB-C ที่แถมมากับ iPhone 15)

จะเห็นว่าพินของสาย USB-C ในสายของ iPhone 15 มันดูแหว่ง ๆ แปลก ๆ ไม่สมประกอบเหมือนกับสายอีกเส้น ซึ่งจริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะแม้แต่สายของเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S23 Ultra หรือ Oppo Find N Flip ก็มีพินที่ไม่สมประกอบเหมือนกันตามภาพด้านล่างนี้

คำถามคือทำไมสาย USB-C ถึงมีพินหลายแบบล่ะ? ก็จะกลับมาเข้าประเด็นเรื่องเทคโนโลยีของสายครับ อันดับแรกมาดูทฤษฎีพื้นฐานของพินในสาย USB-C กันก่อนตามภาพด้านล่างนี้

จะเห็นว่ามาตรฐานพิน​ของ USB-C จะมีทั้งหมด 24 ตัวที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตต้องการให้เราใช้อะไรบ้าง โดยทั่วไปแล้วสาย USB-C ที่แถมกับสมาร์ตโฟนไม่ว่าจะระดับเริ่มต้นไปจนถึงเรือธงจะเป็นสาย USB 2 ซึ่งมีพินไม่ครบ โดยเฉพาะพิน USB 3 (สีม่วง และ สีน้ำตาล) ที่ไม่จำเป็นต้องมี แต่เราจะเห็นพินเหล่านี้ไปปรากฏในสายแพง ๆ อย่างสาย USB 3 หรือสาย Thunderbolt เป็นต้น

ดังนั้น หากใครสังเกตเห็นว่าพินในสาย USB-C ของ iPhone ดูไม่ครบ แหว่ง ๆ หรือเหมือนฟันหลอไปนั้นก็ไม่ต้องกังวลอะไรเพราะสายที่แถมเป็นเพียงสาย USB 2 หากใครต้องการแบบพินแน่น ๆ สเปกดี ๆ ก็ต้องซื้อสาย USB-C แบบ USB 3 มาใช้แทนนะครับ

ข้อมูลเต็ม ๆ ของ USB แต่ละเวอร์ชัน

เวอร์ชันชื่อความเร็วโอนถ่ายข้อมูลกำลังไฟจำนวนพิน
USB 1.0Low or Full speed1.5 MB/sec0.5A / 2.5W4 (GND, D+, D-, 5V)
USB 2.0High speed35-40 MB/sec0.5A / 2.5W 4 (GND, D+, D-, 5V)
USB 3.0SuperSpeed300 MB/sec0.9A / 4.5W9 (GND, D+, D-, 5V, RX+, RX-, TX+, TX-, GND drain)
USB 3.1SuperSpeed+1200 MB/sec0.9A, 1.5A or 3A, up to 15W *24
USB 3.2SuperSpeed+2400 MB/sec0.9A, 1.5A or 3A, up to 15W *24
USB 4.0 **SuperSpeed+4800 MB/sec0.9A, 1.5A or 3A, up to 15W *24

ที่มา Flashgamer