ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ Mac จากค่าย Apple หลายคนอาจยังเชื่อว่า “Mac ไม่ติดไวรัส” ทำให้สบายใจที่จะใช้งานมากกว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์ระบบ Windows เป็นอย่างมาก และก็เกิดความระมัดระวังน้อยเกินไป แต่ความจริงแล้วความเชื่อแบบนี้ในปัจจุบันถือว่าไม่ใช่อย่างสิ้นเชิง และอาจไม่ใช่มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วก็ได้

จริงอยู่ที่ว่าระบบปฏิบัติการ macOS นั้นมีโอกาสถูกโจมตีหรือติดไวรัสน้อยกว่า Windows เมื่อเทียบที่ใช้งานในสภาพแวดล้อมเปิดเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะปลอดภัย 100% แค่คนที่ทำไวรัส หรือที่เรียกกันยุคนี้ว่ามัลแวร์ หรือผู้ที่ต้องการโจมตีระบบ มักจะเลือกระบบที่มีผู้ใช้เยอะกว่ามากอย่าง Windows เพื่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า มีความคุ้มค่าในการกระทำต่อเวลามากกว่า

เมื่อเราได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า Mac นั้นก็มีมัลแวร์มาก่อนหน้านี้แล้ว มัลแวร์ตัวแรกสุดบน Mac นั้น ปรากฎในปี 1987 ในชื่อ “nVIR” ซึ่งมีผลใน macOS ที่ขณะนั้นเรียกว่า System เวอร์ชัน 4.1 จนถึง เวอร์ชัน 8 เครื่องที่ติดจะมีผลต่างกันไป เช่น โปรแกรมล่มบ่อย ไม่สามารถพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์เลเซอร์ได้ เป็นต้น จนกระทั่งในปี 2020 อัตราการเพิ่มขึ้นของมัลแวร์บน Mac พุ่งขึ้นถึง 400% เลยทีเดียว จนในปี 2021 มีเครื่อง Mac ที่ติดมัลแวร์มากถึง 29,000 เครื่อง

โฆษณาจากทาง Apple ในปี 2006 “Mac ไม่ติดไวรัส”

ในปี 2006 Apple ทำโฆษณาชุด “Get a Mac” ออกมามากมายหลายเวอร์ชัน พูดหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือโฆษณาในหัวข้อ “Viruses” โดยตัวโฆษณาสื่อว่าคนที่เป็น PC นั้นไม่สบาย จามออกมา แล้วบอกให้คนที่สื่อเป็น Mac ว่า “กลับไปดีกว่า” (ประมาณเดี๋ยวติดนะ) แต่คนที่สื่อเป็น Mac ตอบว่า “ผมจะไม่เป็นไร”

Apple อ้างว่าพีซีมีไวรัสที่รู้จักถึง 114,000 ตัว ในขณะที่ Mac ไม่มีไวรัส รวมถึงมีการชูโรงเรื่อง “ไม่มีไวรัส” บนเว็บไซต์ของ Apple ซึ่งอยู่คู่กับแคมเปญ “Get a Mac” มากว่า 6 ปี จนกระทั่งในปี 2012 สิ่งนี้ก็ถูกลบออกจากเว็บไซต์ Apple อย่างเงียบๆ

ทาง Gizmodo ระบุว่า Apple ก็พูดถูก เพราะช่วงก่อนปี 2010 ไม่พบเครื่อง Mac ติดไวรัสเลย (เป็นไปได้ว่ามัลแวร์หรือไวรัสที่เคยมีบน Mac มาก่อนหน้านี้นั้นเว้นช่วงไปหลายปีที่ไม่มีมัลแวร์บน Mac เกิดขึ้น)

ในปัจจุบันผู้ใช้ Mac เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นผู้สร้างมัลแวร์หรือโจมตีระบบจึงเริ่มเห็นความคุ้มค่าในการมาเล่นงานระบบ macOS นั่นเอง ทำให้มัลแวร์บน Mac มีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

Apple อ้างว่าตัวเองมีระบบรักษาความปลอดภัย แต่ก็ใช่ว่าระบบปฏิบัติการฝั่ง PC จะไม่มี “ดังนั้น Apple จึงเป็นผู้ที่เริ่มต้นตำนานนี้ด้วยการตลาด มันเหมือนกับบริษัทรถยนต์เล็ก ๆ ที่บอกว่ารถของเราเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าฟอร์ด ซึ่งจริง ๆ มันไม่เกี่ยวอะไรกับระบบความปลอดภัย แต่เกี่ยวข้องกับจำนวนผลิตภัณฑ์ในตลาด”

ทิ้งท้าย

เมื่อ Mac ของ Apple เริ่มติดไวรัส ทาง Apple แทบไม่ได้ชี้แจงหรือประกาศอะไรด้วยตัวเองเลยว่าทำไมตอนนั้นถึงกล้าบอกว่า “ไม่มีไวรัส” แต่ Apple กลับปล่อยให้ตำนานนี้กลายเป็นเรื่องน่าสับสนแทน

Apple ไม่คิดเลยว่าคุณจะบอกให้โลกรู้ได้อย่างไรว่า “จริงๆ แล้ว คอมพิวเตอร์ของคุณสามารถติดไวรัสได้แล้ว” ดังนั้นมันจึงเงียบไป ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Apple เสี่ยงต่อแฮกเกอร์และไวรัส เช่นเดียวกับอุปกรณ์จากบริษัทอื่น ๆ อย่างเช่น iPhone เป็นเป้าหมายของการโจมตีมัลแวร์ที่ร้ายแรงในเดือนกันยายน 2023 ส่งผลให้ Apple ขอให้ผู้ใช้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันที

ความเชื่อนี้ในประเทศไทย

มีคนจำนวนไม่น้อยเหมือนกันในประเทศไทยที่มีความเชื่อนี้ และส่วนหนึ่งอาจจะมาจากคำพูดของการขาย Mac ในเมืองไทยยุคเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ที่เริ่มดึงให้ผู้ใช้ทั่วไปมาสนใจ Mac มากขึ้น

ที่มา: Gizmodo

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส