เชื่อว่าการเสียบปลั๊กน่าจะเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่มีความแตกต่างไปตามแต่ความคุ้นชินของแต่ละคน บางคนอาจเสียบปลั๊กก่อนค่อยเสียบชาร์จสมาร์ตโฟน หรือเสียบชาร์จสมาร์ตโฟนก่อนค่อยเสียบปลั๊ก แล้ววิธีไหนคือวิธีที่ถูกต้องล่ะ?

จริง ๆ แล้วความแตกต่างเพียงเล็กน้อยนี้มีผลต่อสุขภาพแบตเตอรี่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว แต่ก่อนเราจะไปไขคำตอบนั้น เรามารู้จักกับคำว่าไฟกระชากหรือ Surge กันก่อนนะครับ

ไฟกระชากหมายถึงแรงดันไฟฟ้าส่วนเกินที่เกิดขึ้นทันที เกินกว่าแรงดันไฟฟ้าทำงานปกติ แม้ว่าจะเป็นสิ่งชั่วคราว แต่ก็มีความรุนแรงชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาช่วงเวลาประมาณหนึ่งในล้านของวินาทีซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดเสียงแปลก ๆ ขณะเสียบชาร์จไฟช่วงหนึ่งซึ่งนั่นเองที่เรียกว่าไฟกระชาก ซึ่งภาวะไฟกระชากนี้อาจทำให้ข้อมูลของอุปกรณ์สูญหาย ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลง โทรศัพท์ค้างหรือรีสตาร์ต หน้าจอกะพริบ วงจรเสียหาย เป็นต้น

วิธีการป้องกันไฟกระชากในการชาร์จอุปกรณ์ที่ดีที่สุดคือ เสียบอะแดปเตอร์เข้ากับเต้าไฟหรือหรือปลั๊ก (Socket) ก่อนเป็นอันดับแรก

หากเราเสียบสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กก่อนแล้วค่อยเสียบอะแดปเตอร์เข้ากับเต้าไฟจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นขนาดใหญ่ในขณะที่เราเสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งจ่ายไฟ ซึ่งภาวะไฟกระชากนี้จะทำให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายได้ แม้ว่าการเสียบอะแดปเตอร์ก่อนแล้วค่อยเสียบชาร์จอุปกรณ์จะไม่ได้ป้องกันภาวะไฟกระชากได้ 100% แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงได้มากพอสมควร

ภายหลังการชาร์จเสร็จแล้ว ต้องทำกลับกันคือถอดสายชาร์จออกจากอุปกรณ์ของเราก่อน หากถอดปลั๊กเครื่องชาร์จก่อนจะทำให้เกิดกระแสไฟย้อนกลับทันทีได้ง่าย ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อตัวอุปกรณ์เช่นเดียวกัน

นี่เป็นวิธีการชาร์จง่าย ๆ ที่ทำให้คุ้นชินเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะจะช่วยถนอมอายุแบตเตอรี่ของอุปกรณ์และป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ด้วยครับ