ไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทผู้พัฒนาซอฟแวร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศปลดพนักงานอีกครั้งกว่า 6,000 คน หรือคิดเป็นราว 3% ของพนักงานทั้งหมด ถือเป็นการปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
นับตั้งแต่ปี 2023 ที่เคยปลดพนักงานไปแล้วกว่า 10,000 คน โดยรอบล่าสุดนี้จะส่งผลกระทบต่อทุกระดับในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ LinkedIn และสำนักงานสาขาต่างประเทศด้วย
นายพีท วูททัน (Pete Wootton) โฆษกของไมโครซอฟท์ ให้เหตุผลกับสำนักข่าว The Verge ว่า “บริษัทจำเป็นต้องปรับโครงสร้างองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”
ก่อนหน้านี้ เอมี่ ฮูด (Amy Hood) ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (CFO) ของไมโครซอฟท์ ได้ออกมาให้สัญญาณในช่วงสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า บริษัทกำลังมุ่งลดชั้นการบริหารจัดการลง เพื่อให้ทีมทำงานได้คล่องตัวขึ้น รวมถึงก่อนหน้านี้ก็มีการปรับลดพนักงานจากผลงานที่ไม่เข้าเกณฑ์ไปแล้วหลายร้อยคน
ทั้งนี้ ในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ปลดพนักงานเป็นระยะ ๆ โดยในปี 2024 บริษัทได้ปิดสตูดิโอเกมชื่อดัง เช่น Tango Gameworks ผู้พัฒนาเกม Hi-Fi Rush และ Arkane Austin ที่พัฒนาเกม Redfall
นอกจากนี้ ยังมีการปลดพนักงานจากแผนก Xbox อีก 650 คนในเดือนกันยายน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ Activision Blizzard รวมถึงก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน 2024 ก็ได้ลดพนักงานในทีม HoloLens และ Azure Cloud ไปอีกประมาณ 1,000 คนด้วย
การลดจำนวนพนักงานเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันทางธุรกิจที่ไมโครซอฟท์เผชิญมาต่อเนื่อง จากการแข่งขันที่สูงขึ้น และความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวในการรับมือกับการแข่งขันในตลาดที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา