Infinix ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนเกมมิงราคาประหยัดรุ่นล่าสุด นั่นคือ GT 30 Pro อย่างเป็นทางการ ซึ่งมาพร้อมจุดเด่นที่หน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรต 144 Hz, ชิปเซต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate และแบตเตอรี่ความจุ 5,500 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไฟ 45 W, ชาร์จไฟแบบไร้สาย 30 W และสามารถชาร์จไฟแบบบายพาส (Bypass Charging) ซึ่งใช้พลังงานจากอะแดปเดอร์โดยตรง ได้อีกด้วย

Infinix GT 30 Pro มาพร้อมดีไซน์ Cyber Mecha Design 2.0 ซึ่งให้ความรู้สึกล้ำสมัยเมื่ออยู่ในมือผู้ใช้ และไฟ RGB ที่สีสันจัดจ้านมาก ซึ่งมีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Blade White, Shadow Ash และ Dark Flare

สมาร์ตโฟนดังกล่าวได้รับการติดตั้งปุ่มเสริมการเล่นเกมที่ขอบเครื่องเป็นรุ่นแรกของ Infinix (คล้ายกับปุ่ม L1/R1 ของเกมคอนโทรลเลอร์) ซึ่งสามารถตอบสนองต่อการเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว, รองรับการตั้งค่าปุ่มใหม่เพื่อให้เกมเมอร์ควบคุมการเล่นเกมได้ถนัดมากขึ้น และกดค้างเพื่อใช้คำสั่งพิเศษในบางเกมได้

Infinix GT 30 Pro มาพร้อมแผงหน้าจอ AMOLED เทคโนโลยี LTPS (Low-Temperature Polycrystalline Silicon) ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ โดยรองรับรีเฟรชเรต 144 Hz, ความสว่างสูงสุด 1,600 Nit, ติดตั้งกระจก Corning Gorilla Glass 7i เสริมความแข็งแกร่งของหน้าจอ, ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ และกล้องเซลฟีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

ด้านหลังตัวเครื่องได้รับการติดตั้งกล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เสริมด้วยกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยตัวเครื่องมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP64 ช่วยป้องกันตัวเครื่องจากละอองน้ำรอบทิศทาง

Infinix GT 30 Pro

ด้านการประมวลผลนั้น ใช้ศักยภาพจากชิปเซต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate ระดับ 4 นาโนเมตร และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.35 GHz ซึ่งทำงานร่วมกับแรม LPDDR5X ความเร็วสูง ความจุสูงสุด 12 GB และสตอเรจ UFS 4.0 ความเร็วสูง ความจุสูงสุด 512 GB บนซอฟต์แวร์ XOS 15 ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 15 ซึ่งมาพร้อมเครื่อง Infinix AI ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล DeepSeek R1

Infinix ยังได้เปิดตัวอุปกรณ์เสริม เรียกว่า MagCharge Cooler ซึ่งสามารถติดที่ด้านหลังตัวเครื่อง GT 30 Pro และช่วยลดอุณหภูมิภายใจตัวเครื่องในระหว่างเล่นเกมได้ดีขึ้นอีก 30%

Infinix GT 30 Pro

Infinix วางจำหน่าย GT 30 Pro ในประเทศมาเลเซีย โดยเวอร์ชันแรม 12 GB และสตอเรจ 256 GB มีราคาอยู่ที่ 1,299 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 10,000 บาท และเวอร์สตอเรจ 512 GB มีราคาอยู่ที่ 1,499 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 11,500 บาท