จีนเดินหน้าแข่งกับสหรัฐฯ สู่การเป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์อัจฉริยะ ล่าสุดสถาบัน Beijing Academy of Artificial Intelligence (BAAI) ได้เปิดตัว RoboBrain 2.0 โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สรุ่นใหม่ที่จะทำหน้าที่เป็นสมองของหุ่นยนต์ สามารถเข้าใจระยะห่าง การวางแผนงาน และทำงานได้คล้ายมนุษย์มากยิ่งขึ้น
RoboBrain 2.0 สมองกลยุคใหม่
RoboBrain 2.0 ได้รับการขนานนามว่าเป็น “โมเดลโอเพ่นซอร์สที่ทรงพลังที่สุดในโลก สำหรับการใช้งานกับหุ่นยนต์” โดยมีจุดเด่นคือหุ่นยนต์ที่ใช้สมองกลรุ่นใหม่นี้สามารถประเมินระยะห่างของสิ่งต่าง ๆ ด้วยความเข้าใจเชิงพื้นที่ (spatial intelligence) ที่แม่นยำสูงขึ้นถึง 74% เช่น การหยิบของยกวาง, การจอดเข้าที่
และความเร็วในการวางแผนงานดีขึ้น 17% สามารถแยกแยะงานซับซ้อนให้กลายเป็นขั้นตอนย่อยที่สามารถปฏิบัติได้จริง เมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้าซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 3 เดือนก่อน
BAAI เผยว่ากำลังร่วมมือกับบริษัทชั้นนำกว่า 20 แห่งในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ที่คิดเองได้ (embodied intelligence) และยังเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อเร่งผลักดันหุ่นยนต์สู่ภาคการใช้งานจริง ไม่ว่าจะในบ้าน โรงงาน หรือสถานพยาบาล โดยมองว่าความร่วมมือเชิงระบบนิเวศคือหัวใจของความก้าวหน้า
ในการประชุม BAAI ปีนี้ยังดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และอุตสาหกรรมจากทั่วโลกกว่า 300 คน รวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Baidu, Huawei และ Tencent ที่แสดงความสนใจร่วมพัฒนาและลงทุนในระบบ AI สำหรับหุ่นยนต์ด้วย
ไม่เพียงมีความเคลื่อนไหวจาก BAAI เท่านั้น แต่ยังมี Beijing Humanoid Robot Innovation Centre ที่เคยเป็นข่าวเมื่อ “Tien Kung” หุ่นยนต์รุ่นต้นแบบของศูนย์สามารถวิ่งจบมาราธอนในกรุงปักกิ่งได้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายให้แพลตฟอร์มของพวกเขาเป็นเหมือน “Android ของหุ่นยนต์” ที่ทุกบริษัทสามารถพัฒนาและเชื่อมต่อได้ในมาตรฐานเดียวกัน
นับเป็นก้าวสำคัญของจีนในการผลักดันอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ humanoid robot ให้ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของโมเดล และคุณภาพของข้อมูลฝึกสอนที่ยังขาดแคลนอยู่มากในระดับโลก