สายถ่ายรูปเตรียมเฮ ! Adobe สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Project Indigo แอปกล้อง iPhone ตัวใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมแนวคิดปฏิวัติวงการกล้องสมาร์ตโฟน โดยงานนี้ได้ทีมงานเบื้องหลังกล้อง Pixel ระดับเทพของ Google มาร่วมสร้างสรรค์ด้วย
Project Indigo เป็นการผสมผสานสุดยอดเทคนิค Computational Photography ที่วิศวกรตัวท็อปอย่าง มาร์ค เลอวอย (Marc Levoy) และ ฟลอเรียน ไคน์ซ (Florian Kainz) ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างสมัยอยู่ Google เข้ากับระบบควบคุมแบบโปร และฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ สุดล้ำ
เลอวอยและไคน์ซบอกว่า Project Indigo คือคำตอบที่ดีกว่าสำหรับข้อบ่นทั่วไปเกี่ยวกับกล้องสมาร์ตโฟน นั่นคือการควบคุมที่จำกัดและการประมวลผลภาพที่ “มากเกินไป” แอปนี้จะเน้นการปรับโทนสี เพิ่มความอิ่มตัวของสี และความคมชัดแบบ “เบา ๆ” ไม่ได้ยัดเยียดจนภาพดูไม่เป็นธรรมชาติเหมือนที่บางแอปทำ “จากการพูดคุยกับช่างภาพ สิ่งที่พวกเขาต้องการจริง ๆ ไม่ใช่ภาพที่ไม่มีการประมวลผลเลย แต่เป็นภาพที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เหมือนกับที่กล้อง SLR ถ่ายออกมาได้” พวกเขาอธิบายไว้
นอกจากนี้ แอปยังมาพร้อมการควบคุมแบบแมนนวลเต็มรูปแบบ และให้คุณภาพของภาพสูงสุดเท่าที่เทคนิค Computational Photography จะทำได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการไฟล์ JPEG หรือ RAW ก็ตาม เคล็ดลับความเจ๋งของ Project Indigo อยู่ที่การถ่ายภาพแบบ Under-exposure อย่างมาก แล้วนำมาซ้อนกันหลาย ๆ เฟรม ซึ่งบางครั้งอาจมากถึง 32 เฟรมเลยทีเดียว
และที่น่าตื่นเต้นสุด ๆ คือ Project Indigo ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ถ่ายภาพที่ Adobe ทดลองพัฒนามา อย่างเช่น “Remove Reflections” ที่ใช้ AI ลบแสงสะท้อนออกจากรูปภาพได้แบบเนียน ๆ
คุณเลอวอยออกจาก Google ในปี 2020 และมาร่วมงานกับ Adobe ไม่กี่เดือนต่อมา เพื่อตั้งทีมพัฒนา “แอปกล้องอเนกประสงค์” โดยเฉพาะ ส่วนคุณไคน์ซก็มาเข้าทีม Adobe ในปีเดียวกัน ทั้งคู่เป็นผู้บุกเบิกแนวคิด Computational Photography ที่เน้นซอฟต์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์ในการสร้างภาพถ่ายสมาร์ตโฟนคุณภาพสูง
ความสำเร็จของ Google ในด้านนี้ทำให้เกิดการแข่งขันด้านกล้องที่ยกระดับมาตรฐานไปทั่วโลก แต่บางครั้งก็ทำให้ภาพดู “โอเวอร์” จนเกินไป Project Indigo จึงเหมือนเป็นทางแก้ และเป็นการทดสอบที่น่าสนใจว่าแอปจากบริษัทอื่นที่อาจจะให้ภาพที่ดีกว่า จะสามารถเอาชนะแอปกล้องที่มาพร้อมกับเครื่องได้หรือไม่
ใครใช้ iPhone เตรียมโหลดเลย Project Indigo เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้ววันนี้ ใช้ได้กับ iPhone 12 Pro ขึ้นไป หรือ iPhone 14 ขึ้นไป ส่วนเวอร์ชัน Android ก็มีแพลนจะตามมาในอนาคตนะ